อัจฉริยะอันดับเก้าในกระดานทองคำมหาสมุทรวิญญาณ ชื่อเสียงเลื่องระบือในสาขายุทธ์วิถี มีคะแนนด้านการศึกอันรุ่งโรจน์ทำให้ผู้คนกล่าวขวัญอย่างเซ็งแซ่
เขารูปร่างสูงโปร่ง ท่วงท่าหล่อเหลาสะดุดตา ในทุกๆ อิริยาบถเผยชัดถึงความทรงพลังแข็งกร้าวดุดัน นั่นคือกลิ่นอายที่ต้องผ่านศึกเนิ่นนานกว่าจะเคี่ยวกรำออกมาได้
ฟุ่บ!
โดยไม่มีการพูดพล่ามเลยสักนิด จินจู๋หลิวขว้างป้ายประจำตัวออกไปแล้วตรงดิ่งมายังลานแสดงยุทธ์ เงาร่างดั่งทวนหนึ่งเล่ม แสงสนธยาร้อยเรียงไม่ขาดสายพวยพุ่งออกจากรอบกายเขา ทำให้เขายิ่งดูทรงเสน่ห์สะกดผู้คนมากขึ้น
บัดนั้นทั่วทั้งลานต่างตื่นเต้น พวกเขากลั้นหายใจอยู่ในอก เมื่อจินจู๋หลิวลงสนาม ทำให้พวกเขามองเห็นความหวังที่จะกำราบหลินสวิน โค่นเขาลงได้โดยสมบูรณ์
“เปลี่ยนคนหรือ ก็ได้ ให้ข้าพักสักเดี๋ยวก่อน ดวลศึกสองครั้งติด ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งระดับหยั่งสัจจะก็ยังต้านไม่ไหวเลย”
หลินสวินกล่าวพลางหย่อนก้นนั่งลงบนพื้น
ฝูงชนเหยียดหยามทันใด เจ้าหมอนี่ผิวหน้าหนาจริงๆ ระดับหยั่งสัจจะก็ยังต้านไม่ไหวงั้นหรือ ผู้แข็งแกร่งระดับนั้นต่อให้ต้องกรำศึกสามวันสามคืนติดยังไม่รู้สึกเหนื่อยเลย!
“ข้าจะให้โอกาสเจ้า ต้องการยาวิญญาณหรือไม่”
จินจู๋หลิวสีหน้าไร้อารมณ์ กล่าวเย็นชา
“ไม่ต้อง หากว่ามีพิษจะทำอย่างไร ข้าได้ยินว่าบนโลกนี้มียาพิษไม่น้อยที่สามารถทำให้คนสูญเสียเรี่ยวแรงไปอย่างไร้สุ้มไร้เสียง”
หลินสวินกล่าวพลางหัวเราะร่า
“เจ้า…”
สีหน้าจินจู๋หลิวเย็นชา เนิ่นนานกว่าจะเอ่ยคำ “รออีกเดี๋ยว ข้าจะทำให้เจ้าลิ้มรสความพ่ายแพ้เช่นเดียวกับญาติผู้พี่หลินเสวี่ยเฟิงของเจ้า”
เห็นชัดว่ากำลังยั่วโมโหอยู่ เพียงแต่หลินสวินกลับคลี่ยิ้มบาง ไม่ได้เอ่ยมากความ
จากนั้นไม่นานหลินสวินก็หยัดตัวขึ้น กล่าวอย่างน่าเกรงขามเหลือล้น “มาสิ”
“เฮอะ!”
จินจู๋หลิวแค่นเสียงเย็น เขากวัดแกว่งทวนเล่มหนึ่ง ดุจเทพเจ้าสงครามขวางสมรภูมิ เชือดเฉือนอากาศธาตุ พุ่งโจมตีอย่างดุเดือดประหนึ่งฟ้าคำราม
ตูม!
ห้วงอากาศในลานแสดงยุทธ์ส่งเสียงคราญ เมฆลมผันเปลี่ยน และสิ่งนี้ล้วนเกิดขึ้นโดยจินจู๋หลิวทั้งสิ้น
ไม่อาจไม่พูด คนผู้นี้ทรงพลังมากจริงๆ ทวนหนึ่งเล่มคละคลุ้งด้วยแสงวิญญาณพร่างพราว ชี้นภาผ่าปฐพี ทรงพลังเกรี้ยวกราด เปี่ยมด้วยท่าทีดุจเย้ยหยัน พบเทพฆ่าเทพ พระขวางก็สังหารพระ ไม่เสียแรงที่เป็นบุคคลโดดเด่นอันดับเก้าในกระดานทองคำมหาสมุทรวิญญาณ
สิ่งนี้ทำให้ศิษย์จำนวนมากกลางลานสั่นสะท้าน
ส่วนพวกฉือฉางเหมย ฮวาอู๋โยวเองก็เริ่มมีท่าทีจริงจังขึ้นมา พลังการต่อสู้ของจินจู๋หลิวแข็งแกร่งเป็นที่ประจักษ์ ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าผู้กล้าคนอื่นๆ เลยสักนิด
โดยเฉพาะยามที่ประลองตัวต่อตัวอย่างแท้จริง จินจู๋หลิวองอาจเหนือมนุษย์ พลังการต่อสู้ที่งัดออกมายิ่งแข็งแกร่งขึ้น เมื่อเทียบกับหลิงเทียนโหวจ้าวจิ่งอิ้นแล้วก็ไม่ได้ทิ้งห่างกันไม่นัก
“ฆ่า”
กลางลานเต็มไปด้วยเสียงตะโกนดุเดือดกรุ่นไอสังหารของจินจู๋หลิว เส้นผมดำขลับของเขาปลิวไสว ทวนพุ่งอย่างดุดันดั่งอสนีบาตฟาดชั้นฟ้า ไอเข่นฆ่ากวาดม้วนทั่วสนาม ก่อให้เกิดเสียงร้องอุทานเป็นระลอก
ในทางกลับกัน หลินสวินกลับดูจืดจางมากอย่างเห็นได้ชัด ถูกกำราบจนเงยหน้าไม่ขึ้น ไม่นานก็เผยสัญญาณผู้พ่ายแพ้ มีหลายต่อหลายครั้งที่เกือบถูกซัดสะเทือนปลิวออกนอกลานแสดงยุทธ์
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไร รอบๆ ลานแสดงยุทธ์มีคนเพิ่มมาอีกมากมาย ทั้งจั่วอวี้จิงอันดับสามบนกระดานทองคำมหาสมุทรวิญญาณ จ้าวจิ่งเหวินลูกหลานราชวงศ์ผู้มีฐานะสูงส่งทรงภูมิมากที่สุด…
และมีศิษย์จากสาขาสลักวิญญาณ สาขากลยุทธ์เทพ สาขามังกรเร้นมาไม่น้อย กระทั่งยังมีอาจารย์บางส่วนที่ถูกทำให้ตกตื่น จนรุดหน้ามาดูการต่อสู้
หนิงเหมิง สืออวี่ เย่เสี่ยวชี กงหมิง… สหายเก่าของหลินสวินเหล่านี้ต่างเร่งรุดมาด้วย ตอนนี้พวกเขาล้วนฝึกปราณอยู่ในสาขามังกรเร้น
พวกเขาต่างพิศวงมาก หลินสวินถึงขั้นประลองศึกที่สาขายุทธ์วิถี เดิมคิดว่าเขายังคงปิดด่านกักตนอยู่บนภูเขาชำระจิตเสียอีก คิดไม่ถึงว่าเขาไม่เพียงแต่ออกด่านแล้ว ซ้ำยังแจ้นมายังสำนักศึกษามฤคมรกต ก่อเรื่องอย่างกระปรี้กระเปร่า กลายเป็นเป้าสายตาของผู้คนมากมาย
“สถานการณ์ไม่ค่อยดีแล้ว”
เย่เสี่ยวชีที่มีรูปร่างอ้วนเป็นทรงกลมเบิกตากว้าง
“หึๆๆๆ”
ได้ฟังถ้อยคำดังกล่าว สืออวี่และหนิงเหมิงล้วนอดหัวเราะขึ้นไม่ได้ รอยยิ้มน่าพิศวงยิ่ง
“นี่พวกเจ้าทำบ้าอะไรกัน ไม่เห็นว่าหลินสวินถูกกดดัน เกือบถูกคนซัดจนฟุบแล้วหรือ”
เย่เสี่ยวชีถลึงตา
“เฮ้อ เจ้ายังไม่เข้าใจหลินสวินสินะ เจ้าหนูนี่ดูแล้วไม่มีพิษมีภัย แต่ความจริงอุบายชั่วร้ายในท้องมีมากกว่าใครเชียวล่ะ น่าขยาดกลัวยิ่ง”
หนิงเหมิงตบหัวไหล่ของเย่เสี่ยวชี ท่าทีดั่งผู้เจนจัดช่ำชอง
“จินจู๋หลิวต้องพบเคราะห์แล้ว”
สืออวี่กล่าวเนิบๆ
เย่เสี่ยวชีนิ่งงัน รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติมาโดยตลอด
“เหมือนหมาป่าสวมหนังแกะจริงๆ”
กงหมิงที่ไม่เอ่ยคำมาโดยตลอดกล่าวแสดงทรรศนะหนึ่งประโยค
เย่เสี่ยวชีกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง ทันใดนั้นกลางลานพลันเกิดเสียงโครมครืนดังขึ้นหนึ่งระลอก
และเห็นว่ากลางลานแสดงยุทธ์ จินจู๋หลิวถึงขั้นถูกหลินสวินซัดหมัดเข้าบนหัวไหล่หนึ่งที ทั้งตัวคนพลันกระเด็นลอยออกไป
ใครก็ไม่อาจเห็นชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ หลินสวินที่เมื่อครู่หลบหลีก จวนเจียนจะแพ้พ่ายอยู่แท้ๆ ทว่าชั่วพริบตาเดียวจินจู๋หลิวกลับถูกโจมตีสวนเสียอย่างนั้น!
ทั้งลานฉงนเลิกลั่ก รู้สึกว่าเริ่มมีบางอย่างผิดปกติ
มุมปากเย่เสี่ยวชีกระตุกอย่างแรง ในที่สุดก็เข้าใจแล้ว ก่อนหน้านี้หลินสวินต้องจงใจแสร้งอ่อนแอแน่!
“ฆ่า!”
จินจู๋หลิวตะโกนลั่น ถูกหลินสวินโจมตีจนพ่ายด้วยหมัดเดียวทำให้เขาเองก็ตกตะลึง งุนงงอยู่บ้างเหมือนกัน คิดไม่ถึงว่าหลินสวินจะยังมีเรี่ยวแรงสู้กลับ
เพียงแต่ไม่นานเงาร่างของหลินสวินทอประกาย พุ่งโจมตีอย่างหนักหน่วงดุจดั่งภูตผีก็ไม่ปาน ยันเท้าเข้าท้องน้อยของจินจู๋หลิวอย่างจัง
เนื่องจากเร็วเกินไป ฝูงชนจึงรู้สึกตาลายอีกครั้ง จินจู๋หลิวส่งเสียงโอดครวญ ซัดเซสู่สภาพหัวทิ่มหกคะเมน
นี่…
ทั่วลานล้วนตกตะลึง จินจู๋หลิวก่อนหน้านี้ทรงอำนาจอาจหาญมากเพียงใด แต่ไฉนตอนนี้จู่ๆ ก็เริ่มกำราบหลินสวินไม่อยู่เสียแล้ว?
“การแก้แค้นเริ่มต้นแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์