กระถางสมบัติเก้ามังกรนี้ หลอมขึ้นเพื่อผู้ที่จะฝึกจักรพรรดิวิถีพลังมังกรโดยเฉพาะ และมีเพียงผู้สืบเชื้อสายของจักรพรรดิอย่างจ้าวจิ่งเซวียนเท่านั้นถึงจะควบคุมมันได้อย่างสมบูรณ์แบบ
หลินสวินแม้อิจฉา ก็รู้ว่าหนทางของสมบัติชั้นนี้กับตนไม่สมกัน ไม่เหมาะกับตัวเขาเอง
ชิ้ง!
ฉับพลันหลินสวินนำดาบหักสีดำสนิทเล่มหนึ่งออกมา นิ้วมือส่งพลังออกไป คมดาบพลันบังเกิดแสงดาวแวววาวไพศาลราวผีร้ายเหนือโลกา พลานุภาพน่าหวาดหวั่นฟื้นขึ้นมา
โครม!
ก็เห็นว่าตัวกระถางสมบัติเก้ามังกรพลันบังเกิดเงามายาเก้ามังกรคำรามชูคอ แผ่กระจายพลังกำราบฟ้าดินราวถูกท้าทาย
ชั่วพริบตานี้ ราวกับว่าอาวุธเทพสองชิ้นกำลังขับเคี่ยวกัน หนึ่งกระถางหนึ่งดาบบดขยี้พลานุภาพกันเอง ในชั่วครู่หนึ่ง แสงดาวราวธารดาราม้วนกลืน มังกรครวญราวฟ้าคำรน ห้ำหั่นดุเดือดในชั้นเก้าของหอหลอมวิญญาณแห่งนี้
ดวงตาดำของหลินสวินจ้องการฟาดฟันที่หาได้ยากยิ่งฉากนี้ตาไม่กะพริบ
ตู้ม!
เมื่อเห็นว่าไม่อาจจัดการกระถางสมบัติเก้ามังกรนั้นได้ในชั่วพริบตา ดาบหักราวถูกยั่วโทสะ ระเบิดแสงดาราน่าหวาดหวั่นยิงพุ่งออกมารอบทิศ บดขยี้ทุกสิ่ง
ระหว่างที่กำลังงุนงงอยู่ ก็เหมือนมีดาวหางเต็มฟ้ากระจายออกมากำราบกระถางสมบัติเก้ามังกรนั้น
ส่วนโดยรอบกระถางสมบัติเก้ามังกรก็อวลไปด้วยพลังจักรพรรดิวิถีแกร่งกล้า เก้ามังกรพุ่งทะลุเมฆ แยกหยินหยางฟ้าดิน ขับเคี่ยวกันบนทะเลดาราพราวฟ้า
หลินสวินเห็นว่าการปะทะยิ่งทวีความรุนแรง แทบจะทำลายหอหลอมวิญญาณชั้นเก้าทั้งชั้น ก็ชักมือกลับเพื่อหยุดทุกอย่างนี้โดยไม่ลังเล
ดาบหักพลันส่งเสียงคำรามเหมือนไม่พอใจ ดิ้นรนอยู่ในมือหลินสวินราวกับหมายใจจะพุ่งเข้าฟันกระถางสมบัติเก้ามังกรนั้น
จิตวิญญาณเกินธรรมดาเช่นนี้ดึงดูดซย่าจื้อที่อยู่ห่างออกไป ดวงตาจันทร์เสี้ยวสีดำเป็นประกายราวอัญมณีทั้งสองหรี่ลงเล็กน้อย
ในขณะเดียวกัน กระถางสมบัติเก้ามังกรก็แผดเสียงคำรามของมังกรราวไม่สบอารมณ์เป็นระลอก ทำให้ผู้สรรสร้างอย่างหลินสวินก็ลอบชื่นชมว่าสมบัติชิ้นนี้สมกับเป็นสมบัติล้ำค่าของจักรพรรดิวิถี เพียงจิตวิญญาณเช่นนี้ก็ไม่เหมือนชุดศึกสลักวิญญาณอื่นแล้ว
ทว่าที่ทำให้หลินสวินตื่นตะลึงก็คือดาบหักที่อยู่ในมือนี้ นี่เป็นสิ่งที่เขาได้มาจากแหล่งโลหิตสมบัติร่วงหล่น ที่มาที่ไปไม่อาจคาดเดาได้ แต่พลังร้ายกาจพลิกฟ้าอย่างไม่ต้องสงสัย
ยามหลินสวินได้พบมันครั้งแรก ก็เห็นว่าดาบหักนี้อยู่เหนือเวิ้งฟ้า โจมตีผู้ฝึกปราณกลุ่มหนึ่งจนอกสั่นขวัญแขวน ทำให้มหายุทธ์ระดับหยั่งสัจจะส่วนหนึ่งล้วนหนีหัวซุกหัวซุน ไม่กล้าสัมผัส
และทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่ดาบหักเล่มเดียวก่อขึ้น ไม่มีคนมาควบคุมสั่งการ แค่คิดก็รู้ว่าความร้ายกาจและจิตวิญญาณของมันจะสะท้านฟ้าปานไหน
ก่อนหน้านี้หลินสวินก็เคยนำดาบหักนี้มาประมือกับอาสัญสลาย ผลลัพธ์ก็ทำให้เขาประหลาดใจเช่นกัน แม้จะใช้พลังทำลายล้างสูงสุดของอาสัญสลาย แต่ในชั่วขณะหนึ่งก็ยากจะสร้างความสะเทือนและข่มพลานุภาพร้ายกาจของดาบหักนี้ได้!
และตอนนี้หลังจากประชันกับกระถางสมบัติเก้ามังกร ในที่สุดก็ทำให้หลินสวินได้ข้อสรุปแน่ชัดอย่างหนึ่งแล้วว่า…
ดาบหักที่หลงเหลือมาจากยุคบรรพกาลนี้ ถ้าว่ากันเรื่องพลานุภาพและจิตวิญญาณแล้ว ไม่ได้ด้อยไปกว่าชุดศึกสลักวิญญาณใดในปัจจุบันเลย
บางทีจุดด้อยเดียวของมันอาจอยู่ที่มันเป็นเพียงสมบัติโบราณชิ้นหนึ่ง ไม่สามารถแปรเปลี่ยนเป็นชุดศึก ส่งเสริมพลังรอบด้านแก่ผู้ฝึกปราณได้
แต่พูดอีกที นี่ก็เป็นดาบหักที่ไม่สมบูรณ์เล่มหนึ่ง แต่เมื่อฟาดฟันกับอาสัญสลายหรือกระถางสมบัติเก้ามังกรต่างล้วนไม่ถูกกำราบ เท่านี้ก็พอจะรู้ได้ว่าหากอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ดาบหักนี้จะน่าหวาดหวั่นเพียงไหน
‘คราวหลังต้องหาโอกาสซ่อมแซมดาบหักนี้เสียแล้ว…’
หลินสวินแอบตั้งมั่นในใจ
แม้ตอนนี้เขามีฝีมือระดับปฐมาจารย์สลักวิญญาณ แต่กลับมองปริศนาของการหลอมดาบหักนี้ไม่ทะลุ กระทั่งไม่อาจดูออกว่าดาบหักนี้ใช้วัตถุดิบชั้นไหนหลอมขึ้น นี่ทำให้เขายิ่งรู้สึกได้ถึงความลี้ลับของมัน
เขาตั้งหน้าตั้งตารอวันที่จะสามารถซ่อมดาบหักนี้ได้!
“หลินสวิน สมบัติโบราณนี้เจ้าได้มาจากไหนหรือ ข้ารู้สึกได้ถึงกลิ่นอายบรรพกาลจากตัวมัน ดำรงอยู่ถึงตอนนี้อย่างน้อยก็น่าจะหลักแสนปีแล้ว”
ซย่าจื้อพลันส่งเสียงและเดินเข้ามา เงยใบหน้าน้อยที่งดงามราวภาพวาดขึ้นแล้วเอ่ยปากเสียงเรียบ มีเพียงยามไม่มีคนนอกเท่านั้น นางถึงจะเผยใบหน้าที่ปิดบังอยู่ใต้หมวกคลุม
เพราะนี่เป็นคำแนะนำของหลินสวิน และเพราะใบหน้านางงดงามเกินไป ผิวขาวกระจ่างเรียบเนียนเปล่งปลั่ง ไร้ซึ่งตำหนิ เครื่องหน้าทั้งห้าพริ้งพรายหยดย้อยเหมือนงานชิ้นเอกจากสวรรค์ แทบจะเป็นเหมือนภาพมายา ประหนึ่งช่วงชิงความงามในใต้หล้าทั้งมวล ทำให้ฟ้าดินหมองหม่น!
หากไม่ปิดบังไว้ เพียงความงามหาใดเทียบเช่นนี้ก็สามารถก่อให้เกิดความสั่นคลอนและคลื่นลมนับไม่ถ้วนได้แล้ว นี่ไม่ได้เป็นการกล่าวเกินจริง โบราณมีคำกล่าวว่าหญิงงามชักนำเภทภัย อีกทั้งตอนนี้ซย่าจื้ออายุยังน้อย เมื่อนางโตขึ้น มีเพียงฟ้าที่รู้ว่านางจะกลายเป็นหญิงงามโดดเด่นในโลกเช่นไร
“แสนปีหรือ”
หลินสวินอึ้งงัน พูดขึ้นอย่างประหลาดใจว่า “เจ้า…ยังมองอะไรออกอีกบ้าง”
ซย่าจื้อร้องอืม สายตาจับจ้องดาบหักในมือหลินสวินโดยตลอดแล้วเอ่ยว่า “ข้ารู้สึกได้ว่านี่เป็นสมบัติที่น่ากลัวชิ้นหนึ่ง หากไม่ใช่ว่าตอนนี้มันไม่สมบูรณ์แล้ว ย่อมไม่มีทางถูกเจ้าควบคุมได้เลย”
หลินสวินมุมปากกระตุก นี่กำลังชื่นชมว่าดาบหักเล่มนี้ร้ายกาจ หรือกำลังอาศัยสิ่งนี้โจมตีว่าพลังของตนอ่อนแอเกินไปกันแน่
ชิ้ง!
ฉับพลันซย่าจื้อยกมือหยิบทวนยาวหนึ่งจั้งสองฉื่อที่ขาวราวกระดูกเล่มนั้นออกมา ดวงตาสุกสกาวฉายแววอยากรู้อยากลอง เอ่ยว่า “หลินสวิน ข้าอยากลองดาบหักเล่มนี้ดู”
ตั้งแต่หลินสวินพบกับนางครั้งแรก ทวนขาวเล่มนี้ก็อยู่ข้างกายนางมาโดยตลอด ที่มาไม่อาจคาดเดา และมีเพียงซย่าจื้อที่ใช้ได้ ประหนึ่งเป็นร่างเดียวกับนางอย่างไรอย่างนั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์