หลินสวินเก็บอาสัญสลายลงไป
เหยาทั่วไห่ตายแล้ว สะสางความแค้นไปได้เรื่องหนึ่ง ทำให้หลินสวินเบาใจลงไม่น้อย
ไม่มีอะไรน่าทอดถอนใจ เขาเริ่มจัดการกับทรัพย์หลังศึกทันที
สิ่งที่ทำให้หลินสวินผิดคาดคือ เหยาทั่วไห่หัวหน้าตระกูลเหยาคนนี้ นอกจากผลึกวิญญาณและลูกกลอนโอสถที่จำเป็นต่อการฝึกปราณจำนวนหนึ่งแล้ว ก็ไม่มีของล้ำค่าอะไรมากมาย
แต่ไม่นานหลินสวินก็เหลือบสายตาไปยังเจดีย์สมบัติสีทองแปดเหลี่ยมเก้าชั้นนั่น
วู้ม…
เพียงเอื้อมมือออกไปคว้าสมบัตินั้น ก็รับรู้ได้ว่ามันหนักอย่างน่าแปลกใจ เสมือนกำลังประคองภูเขาสูงใหญ่ลูกหนึ่งซึ่งหนักไม่ต่ำกว่าหนึ่งแสนชั่ง ทำให้หลินสวินไม่อาจไม่โคจรพลัง กว่าจะสามารถยกเอาไว้ได้
รูปร่างของมันดูเก่าแก่โบราณ ตัวเจดีย์เป็นทรงแปดเหลี่ยมสว่างไสวดุจหอคอยทองคำ แต่เมื่อดูอย่างละเอียด ตัวเจดีย์นั้นแท้จริงเป็นเนื้อหยกโบราณหลากสีชนิดหนึ่ง เพียงแต่แสงที่พวยพุ่งออกมาปรากฏเป็นสีทองงาม โอ่อ่าไพศาล
แม้ขนาดเพียงฝ่ามือแต่ดูออกได้ไม่ยากว่าเจดีย์นี้วิเศษมหัศจรรย์อย่างยิ่ง ตัวเจดีย์แปดเหลี่ยมแบ่งออกเป็นแปดส่วน แต่ละส่วนมีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง ปรากฏลักษณ์ลึกลับอย่างสุริยันจันทราภูผาสายนที ฟ้าเสถียรดินขนาน เทพธรรมบาลและหมู่ดาว สัตว์ตำนานบรรพกาลเป็นต้น
เสมือนร่องรอยพิภพบรรพกาล แบ่งเป็นแปดส่วนประทับอยู่บนตัวเจดีย์ มีท่วงทำนองศักดิ์สิทธิ์ทรงพลังที่โอบรับนิรันดร์กาลเป็นของตนเอง
พริบตานั้นในใจหลินสวินก็อดรู้สึกเลื่อนลอยไม่ได้ ราวกับมองเห็นกาลเวลาไร้สิ้นสุดแต่กาลก่อน หมู่ดาวกว้างใหญ่ไพศาล พื้นปฐพีไร้ขอบเขต เจดีย์สมบัติองค์หนึ่งตั้งตระหง่าน ยันเปิดแผ่นฟ้า นั่งบัญชานั่งฟ้าดิน แสงสมบัติสาดส่องทั่วหล้า!
ที่น่าเสียดายคือ เจดีย์นี้เสียหายตรงส่วนยอด เดิมทีน่าจะสลักข้อความไว้ แต่มาวันนี้กลับเหลือเพียงร่องรอยที่ขาดหายไป
มองออกแค่คำว่า ‘ไร้’ อยู่เลือนรางเพียงคำเดียว!
ลายเส้นตัวอักษรนั้นเสมือนรวมท่วงทำนองมรรคแห่งฟ้าไว้ด้วยกัน ถูกสร้างเพื่อเก็บกักทุกขีดทุกลายเส้นไว้ภายใน แม้ขาดหายไม่สมบูรณ์ แต่กลับมีความน่าเกรงขามที่สั่นสะเทือนใจผู้คน ทำให้หลินสวินถึงขั้นรู้สึกว่าตัวเล็กกระจิดริด สัมผัสได้ถึงความรู้สึกกดดันยากจะเอ่ย
แค่ลายเส้นอักษรที่ไม่สมบูรณ์เพียงตัวเดียวเท่านั้น กลับมีอานุภาพอัศจรรย์เช่นนี้ ทำให้หลินสวินตระหนักได้ถึงความไม่ธรรมดาของเจดีย์นี้ยิ่งกว่าเดิม
อันที่จริงก็เป็นเช่นนั้น เหมือนกับก่อนหน้านี้ที่เขาถูกม้วนกลืนเข้าไปในพริบตาเดียว กักขังอยู่ในชั้นหนึ่งของเจดีย์นั่น ภายในนั้นเต็มไปด้วยแสงวิญญาณสีทอง พลังที่ปล่อยออกมาน่ากลัวหาใดเปรียบ เกือบทำให้หลินสวินถูกลบล้างอยู่ในนั้น
ที่โชคดีคือ แสงวิญญาณสีทองนี้เห็นชัดว่าไม่ได้ถูกเหยาทั่วไห่หล่อหลอมควบคุมไว้ ทำให้หลินสวินมีโอกาส ใช้พลังเต็มกำลังควบคู่กับอานุภาพของอาสัญสลายทั้งหมด ถึงได้ฝืนหลบหนีแรงกดดันของแสงวิญญาณสีทองและพุ่งทะยานออกมาได้
มิฉะนั้นล่ะก็ ผลที่ตามมาก็ไม่อยากจะคิด!
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า เจดีย์สมบัติไร้อักษรนี้จะต้องเป็นสมบัติล้ำค่าแห่งบรรพกาลอย่างหนึ่งแน่นอน อีกทั้งอานุภาพไร้ขีดจำกัด แม้แต่เหยาทั่วไห่ก็ไม่อาจควบคุมมันได้อย่างสมบูรณ์
หลินสวินเก็บสมบัตินี้ไว้ คิดว่าหลังจากนี้ต้องศึกษาค้นคว้าดีๆ สักหน่อย หากสามารถควบคุมมันได้ เท่ากับได้ไพ่ตายเพิ่มขึ้นอีกใบอย่างไม่ต้องสงสัย
ฟุ่บ!
ไม่ปล่อยให้ล่าช้าอีก หลินสวินเก็บเสามังกรจตุลักษณ์ ปลดเขตแดนมายาผืนนี้
การต่อสู้ของโลกภายนอกดำเนินมาถึงตอนจบแล้ว ตระกูลเหยาอันยิ่งใหญ่บัดนี้แทบกลายเป็นดินแดนแห่งบาดแผล เกลื่อนกลาดระเนระนาดทั่วทุกหนแห่ง เขม่าควันตลบอบอวล
แผ่นฟ้าผืนปฐพีบริเวณใกล้เคียงต่างได้รับความเสียหายอย่างใหญ่หลวง ทุกหนแห่งล้วนเห็นซากศพกระจัดกระจาย โลหิตไหลย้อมพื้นดินที่แตกระแหงชวนให้ประหวั่นยิ่งนัก
คิดดูแล้วก็ไม่แปลก ถูกผู้แข็งแกร่งระดับหยั่งสัจจะกลุ่มหนึ่งที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นฆ่าฟันอย่างดุเดือด ตระกูลเหยาที่ยิ่งใหญ่แค่ในจังหวัดชิงเฟิงไหนเลยจะสามารถต่อต้านได้
เสียงร้องไห้โหยหวนเป็นระลอกดังจากที่ห่างไกล โศกเศร้าอาดูรหาใดเปรียบ หลินสวินเงยหน้ามองออกไป กลับเห็นเด็กสตรีคนชรากลุ่มหนึ่ง
เห็นชัดว่านั่นคือคนที่เหลืออยู่ของตระกูลเหยา เพียงแต่ไม่มีพลังการต่อสู้เท่าไหร่นัก เวลานี้แตกสลายไปพร้อมกับตระกูลเหยา ต่างตกเป็นเชลยที่กำลังโศกเศร้าเสียใจ
ส่วนอีกด้านหนึ่ง เหล่าผู้ฝึกปราณจากอัครการค้า ตระกูลหนิง ตระกูลเย่ ตระกูลกงนั้นกำลังตรวจสอบทรัพย์หลังศึกในครั้งนี้
นี่ก็คือหายนะล้างตระกูล ไม่ว่าอดีตจะมีอิทธิพลและเส้นสายยิ่งใหญ่มากมายเพียงใด เมื่อถูกทำลายพินาศย่อยยับ ท้ายที่สุดทุกสิ่งล้วนสลายหายไป
หลินสวินมองดูเหตุการณ์นี้อย่างเงียบๆ สีหน้าไม่โศกเศร้ายินดี จิตใจสงบนิ่ง นี่เรียกว่ากรรมใดใครก่อกรรมนั้นตามสนอง โทษใครไม่ได้
“เหยาทั่วไห่ตายแล้วรึ”
เวลานี้มู่หวั่นซูเดินใกล้เข้ามา สายตากวาดมองไปยังร่างไร้วิญญาณของเหยาทั่วไห่ที่อยู่ไม่ไกล สีหน้าอดเผยแววประหลาดใจไม่ได้ ภายในใจสั่นสะท้าน
นางคิดไม่ถึงเลยว่าหลินสวินจะฆ่าเหยาทั่วไห่จริงๆ! นี่เป็นถึงบุคคลใหญ่โตระดับหยั่งสัจจะขั้นกลางคนหนึ่ง หยิ่งผยองมีเกียรติ และมีชื่อเสียงยิ่งใหญ่ในมณฑลซีหนาน
แต่ตอนนี้กลับถูกเด็กหนุ่มระดับมหาสมุทรวิญญาณคนเดียวอย่างหลินสวินสังหาร หากเรื่องนี้แพร่ออกไป เกรงว่าจะต้องก่อให้เกิดความวุ่นวายอย่างแน่นอน
หลินสวินเอ่ยรับคำหนึ่ง มองไปยังเหล่าเด็กสตรีตระกูลเหยาที่อยู่ห่างออกไปซึ่งร้องไห้ด้วยความเสียใจนั้น ก่อนเอ่ยถาม “คนเหล่านั้นจะจัดการอย่างไรต่อไป”
มู่หวั่นซูพูดเรียบๆ “ง่ายมาก ส่งมอบให้กรมทหารจัดการลงโทษก็เรียบร้อย พวกเขาตระกูลเหยาครานี้สมคบคิดเผ่ามืด พยานหลักฐานพร้อมมูล ต่อให้เป็นสังหารเก้าชั่วโคตรก็ไม่มีปัญหา”
หลินสวินร้องอ้อทีหนึ่ง ไม่ถามมากความอีก
“ไปเถอะ ราชันเลือดเหล็กกำลังรอเจ้าอยู่ที่เรือรบ”
มู่หวั่นซูกล่าวเสียงอ่อนโยน
หลินสวินใจกระตุกวูบ ตระหนักได้ว่าการต่อสู้ของราชันที่เกิดขึ้นเหนือฟ้านั่น ที่แท้ก็ปิดฉากลงแล้ว เพียงแต่ไม่รู้ว่าท้ายที่สุดใครแพ้ใครชนะกันแน่
นึกถึงตรงนี้ เขาหันหลังเดินไปยังเรือรบอินทรีเหินที่อยู่ห่างออกไป
เพียงแต่เดินไปได้ครึ่งทางเขาก็หยุดชะงักอีก หันหลับไปมองตระกูลเหยาซึ่งอยู่ไกลออกไป ที่นั่นกลายเป็นซากปรักหักพัง เขม่าควันตลบอบอวล ยังมีเสียงร่ำไห้ท่ามกลางพื้นที่นองเลือดดังมาเป็นระลอก
จากนั้นหลินสวินก็ถอนสายตากลับ ไม่หันหน้าไปอีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์