คืนนี้พวกเขามาร่วมงานเลี้ยง ไหนเลยจะคิดว่ายังไม่ทันได้เข้าประตูใหญ่หอสรวลทรัพย์ กลับต้องมาเจอกับหลินสวิน!
หากเป็นก่อนหน้านี้ ด้วยนิสัยหยิ่งผยองเอาแต่ใจขององค์หญิงหลิงหวง คงอาละวาดไปนานแล้ว แต่นับจากที่หลินสวินกลายเป็นปฐมาจารย์สลักวิญญาณ ชื่อเสียงสั่นสะเทือนใต้หล้า แม้แต่ราชวงศ์ยังเปลี่ยนท่าทีที่มีต่อเขา องค์หญิงหลิงหวงจึงไม่กล้าหุนหันพลันแล่นอีก
เด็กหนุ่มตรงหน้าคนนี้ดูเหมือนอายุยังน้อยกว่าพวกเขา แต่สถานะและอำนาจในทุกวันนี้ ล้ำหน้าคนรุ่นเดียวกันไปมากโข
ด้วยเหตุนี้แม้ฉีอวี้ที่เคยถูกหลินสวินบีบบังคับให้คุกเข่า เวลานี้ก็ได้แต่ควบคุมความชิงชังและความโกรธภายในใจอย่างเต็มที่
“ตีสุนัขยังต้องดูเจ้าของ เจ้ากลับไม่สนใจใยดี ทำให้ข้ารับใช้ของข้าบาดเจ็บ หลินสวิน เจ้าทำเช่นนี้ไม่มากเกินไปหน่อยหรือ”
ฉีอวี้สูดหายใจลึก เอ่ยปากเสียงแข็ง
หลินสวิน!
ทันทีที่ได้ยินชื่อนี้ เหล่าคนหนุ่มสาวที่อยู่ข้างกายฉีอวี้และองค์หญิงหลิงหวงพวกนั้นต่างอ้าปากค้าง สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย ในที่สุดก็รู้แล้วว่าเด็กหนุ่มตรงหน้านี้เป็นใคร!
นี่ก็คือบุคคลโหดร้ายป่าเถื่อนที่ชื่อเสียงขจรขจายไปทั่วคนหนึ่ง อย่าว่าแต่พวกเขาเลย ต่อให้บรรดาคนใหญ่คนโตส่วนหนึ่งมา ก็เกรงว่าจะไม่ยอมขัดใจเจ้าหมอนี่โดยง่าย
ไม่มีเหตุผลอื่นใดนอกจากเจ้าหมอนี่มันวิปริตเกินไป ในนครต้องห้ามทุกวันนี้ เป็นคนเหี้ยมโหดที่ผู้คนต่างให้การยอมรับ ไม่มีใครอยากหาเรื่องกับคนเช่นนี้หรอก
“เจ้าบอกว่าข้าทำเกินไปหรือ”
หลินสวินมุ่นคิ้ว กวาดตามองฉีอวี้อย่างเย็นชา “ดูท่า เจ้ายังคิดว่าคนรับใช้พวกนั้นของเจ้าเมื่อครู่ไม่ได้ทำอะไรผิด?”
ฉีอวี้สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย ถูกสายตาของหลินสวินมองจนพลันอึดอัดไปทั้งตัว ถึงแม้เขาจะเป็นผู้แข็งแกร่งระดับหยั่งสัจจะคนหนึ่ง แต่เมื่อเผชิญหน้ากับหลินสวิน ในใจก็กลัวลนลานเหมือนเดิม
ช่วยไม่ได้ ครั้งก่อนที่ช่วยกู้อวิ๋นถิงแย่งชิง ‘เขาวัวขุย’ เขาถูกหลินสวินกำราบให้คุกเข่าในคราเดียว ในใจจึงหลงเหลือเงามืดอยู่
เขากัดฟันพูด “ผู้ไม่รู้ย่อมไม่ผิด ใครจะรู้ว่าคนพวกนั้น… คือคนของเจ้า”
สายตาเขามองไปยังชาวบ้านหมู่บ้านเฟยอวิ๋นที่อยู่ไม่ไกล ในใจก็รู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมพอควร พวกคนสวมใส่ชุดน่าเกลียดราวกับขอทานกลุ่มหนึ่ง ใครจะคิดว่าพวกเขามีความสัมพันธ์ใหญ่หลวงกับหลินสวิน
หากรู้เรื่องพวกนี้แต่แรก พวกเขาจะยอมหลบลี้หนีไปให้ไกล!
“ขอโทษ!”
หลินสวินคร้านจะพูดมากความ พูดสั้นกระชับได้ใจความ
“เจ้า…”
ฉีอวี้สีหน้าประเดี๋ยวดีประเดี๋ยวร้าย ให้เขาลูกหลานสายตรงตระกูลฉีอันสง่างามน่าเกรงขามขอโทษชาวบ้านกลุ่มหนึ่งเนี่ยนะ หากเรื่องนี้แพร่ออกไป หลังจากนี้จะให้เขาเป็นผู้เป็นคนอย่างไรได้อีก
“หลินสวิน แม้ราชวงศ์ของข้าไม่คิดจะสืบสาวเอาความความผิดของเจ้าในอดีตอีก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเจ้าจะสามารถไม่เกรงกลัวฟ้าดินได้!”
องค์หญิงหลิงหวงทนไม่ไหวอีกต่อไป นางรู้สึกว่าคืนนี้พวกเขาทนมาเพียงพอแล้ว แต่หลินสวินยังคงกัดแน่นไม่ปล่อย นั่นทำให้นางอดรนทนไม่ไหวทันที
“เหอะๆ เจ้าคิดว่าเจ้าสามารถเป็นตัวแทนราชวงศ์แห่งจักรวรรดิได้งั้นรึ”
หลินสวินถามกลับ เขาไม่เคยรู้สึกดีกับองค์หญิงหลิงหวงที่เอาแต่ใจหยิ่งผยองเช่นนี้ เห็นนางทำท่าโอหังอวดดีมาตำหนิตน ทำให้หลินสวินอารมณ์ไม่ดีทันที เทียบกับองค์หญิงจิ่งเซวียนแล้ว อันธพาลคนนี้ยิ่งทำให้คนไม่ชอบเข้าไปใหญ่
“หลินสวิน เจ้าคิดจะเอาอย่างไรกันแน่”
องค์หญิงหลิงหวงหน้าเขียว
“ข้าบอกไปแล้ว ขอโทษ”
หลินสวินใบหน้าไร้ความรู้สึก “มิฉะนั้น วันนี้พวกเจ้าใครก็อย่าหวังจะได้กลับไป!”
ที่นี่คือหน้าหอสรวลทรัพย์ เป็นเวลาค่ำคืนที่ผู้คนพลุกพล่านมากที่สุด เขตพื้นที่บริเวณนี้ยังมีผู้คนสัญจรไปมา การเคลื่อนไหวของพวกเขาตรงนี้ทำให้ผู้คนใกล้เคียงมากมายตื่นตระหนกตกใจ ต่างพากันส่งสายตามองมา ส่งเสียงกระซิบกระซาบ
“ที่แท้เขาก็คือหลินสวิน ท่าทีดูไม่เกรงกลัวสิ่งใดจริงอย่างที่เล่าลือ แม้แต่พวกองค์หญิงหลิงหวง ฉีอวี้ล้วนไม่อยู่ในสายตา”
“แหะๆ น่าสนใจ คืนนี้ไม่มาเสียเที่ยว มีเรื่องสนุกให้ดูแล้ว”
“พวกที่เหมือนกับขอทานนั่นเป็นใคร ทำไมหลินสวินถึงกับฉีกหน้าพวกองค์หญิงหลิงหวงเพื่อพวกเขา”
“ชู่ว! หุบปาก! ขอทานอะไร เจ้าอยากตายก็อย่าลากข้าไปเกี่ยวด้วยสิ ถ้าถูกหลินสวินได้ยินเข้า เจ้าอย่าได้บอกว่ารู้จักข้าเชียว!”
ส่วนเหล่าสาวใช้คนงามที่ยืนต้อนรับแขกอยู่หน้าประตูหอสรวลทรัพย์นั้น เวลานี้แต่ละคนต่างตะลึงงันอยู่กับที่ นิ่งอึ้งราวกับรูปปั้นดิน
หลินสวิน!
เมื่อครู่… คนที่ถูกพวกนางปฏิเสธไม่ให้เข้าไป ถึงกับเป็นเด็กหนุ่มผู้มีความสามารถที่ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นปฐมาจารย์สลักวิญญาณรุ่นเยาว์ซึ่งสั่นสะเทือนนครต้องห้ามคนนั้น!
แต่ว่า ทำไมเขาถึงพาคนบ้านนอกกลุ่มหนึ่งมาล่ะ! นี่มัน นี่มัน…
ชั่วขณะเดียวสาวใช้พวกนั้นต่างสับสน ในใจรู้สึกร้อนอกร้อนใจ สีหน้าปรวนแปร เกิดความรู้สึกกระสับกระส่ายเป็นอันมาก
ที่น่าเสียดายคือ ตั้งแต่ต้นจนจบหลินสวินต่างไม่ใส่ใจเรื่องพวกนี้ ไม่คิดเล็กคิดน้อยกับพวกนางแม้แต่น้อย
เพียงแต่เมื่อชาวบ้านหมู่บ้านเฟยอวิ๋นถูกพวกข้ารับใช้ของฉีอวี้ล่วงเกิน หลินสวินก็ไม่อาจอดทนได้อีกต่อไป
หากยังไม่เอาความอีก ก็จะกลายเป็นว่าเขาหลินสวินจะกลั่นแกล้งอย่างไรก็ได้!
ด้วยเหตุนี้ เวลานี้ท่าทีหลินสวินจึงหนักแน่นถึงที่สุดอย่างเห็นได้ชัด ขอโทษ ไม่ขอโทษก็อย่าหวังได้กลับไป! ถึงแม้เรื่องราวจะบานปลายใหญ่โต หลินสวินก็ไม่สนใจ
อย่างไรในนครต้องห้ามทุกวันนี้ หลินสวินไม่กังวลว่าจะยังมีใครกล้าเป็นปฏิปักษ์กับเขา
“เจ้าแน่ใจนะว่าต้องการข่มขู่ผู้คนเช่นนี้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์