Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 571

สรุปบท ตอนที่ 571: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 571 – Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

บท ตอนที่ 571 ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 571 ท่วงท่าสง่างามไร้มลทิน
ตอนที่ 571 ท่วงท่าสง่างามไร้มลทิน
โดย
ProjectZyphon
ตูม!

หลินสวินเหยียบย่างออกไปก้าวหนึ่ง แล้วสำแดงเคล็ดวิชาเก้าหมัดสะเทือนสวรรค์ ลมหมัดแวววาวอวลด้วยท่วงทำนองมรรคไหลพุ่งออกมา เกิดเป็นปรากฏการณ์ประหลาดน่าหวาดหวั่นอย่างธาราขุนเขาถล่ม ฟ้าทลายพื้นดินแยกออก

“อ๊าก…”

ผู้แข็งแกร่งเผ่ากวางหยกสี่คนที่พุ่งมาหน้าสุดล้วนร้องเสียงดัง สีหน้าพรั่นพรึงและหดหู่ ทรวงอกของพวกเขาสลายกลายเป็นจุณ อวัยวะภายในระเบิดเป็นชิ้นๆ เลือดสดๆ ไหลริน

นี่ทำให้ผู้คนสิ้นหวังและหวาดหวั่น การต่อสู้เพิ่งเริ่มขึ้นเท่านั้นก็ทำลายผู้แข็งแกร่งไปสี่คนแล้ว!

ฮูม!

ในขณะเดียวกัน ใต้เท้าของหลินสวินปรากฏเงามายาของชือน้ำแข็งมหึมาตัวหนึ่ง ขาวราวหิมะใสราวน้ำแข็ง ชูคอร้องครวญ ม้วนตัวในห้วงอากาศ ดวงตาเย็นชาราวน้ำแข็งไร้อารมณ์ เหยียดมองลงมายังฝูงชน

ตู้ม!

ชือน้ำแข็งทะยานขึ้นฟ้า พาให้ห้วงอากาศระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ แกว่งหางครั้งเดียวก็มีผู้แข็งแกร่งสิบกว่าคนถูกกวาดโดนในทันใด ร่างกายระเบิดแหลกราวเศษกระดาษ ได้แต่ตายไปพร้อมความเคียดแค้นอยู่ตรงนั้น

นี่ก็คือก้าวย่างชือน้ำแข็ง เป็นวิชาเคลื่อนไหวร่างกายที่ลึกลับยากคาดเดาวิชาหนึ่ง แต่ขณะเดียวกันก็เป็นวิชาลับด้วย หากฝึกถึงขั้นสูงสุด เหยียบย่างออกไปก้าวเดียวชือน้ำแข็งก็จะออกมาห้อมล้อมปกป้อง สามารถกำราบศัตรูรอบทิศ ไม่อาจให้อริภายนอกกล้ำกราย!

เมื่อผ่านการชำระล้างเป็นตายของด่านเคราะห์อสนี ทำให้หลินสวินใช้ความอัศจรรย์ของก้าวย่างชือน้ำแข็งถึงขีดสุดได้นานแล้ว ตอนนี้ยามสำแดงพลังออกไป ก็ระเบิดพลังสะท้านโลกาในทันใด!

“เร็วเข้า ลงมือฆ่ามันด้วยกัน!”

“ฆ่า! ชิงศุภโชคที่อยู่กับตัวเด็กนี่มา!”

ผู้แข็งแกร่งหลายคนตะคอกดัง ครั้งนี้เป็นศัตรูรอบด้านอย่างแท้จริง ผู้แข็งแกร่งจากแต่ละเผ่าที่กระจายโดยรอบต่างลงมือแล้ว เงาร่างไหววูบพุ่งเข้ามาจากทั่วสารทิศ

ในชั่วขณะเดียวแสงสมบัติก็ท่วมทะลักฟ้าดิน อาวุธวิญญาณปลิวว่อนยุ่งเหยิง แสงน่าหวาดหวั่นเกี่ยวกระหวัดไปทั่ว แผ่ขยายประหนึ่งกระแสน้ำเชี่ยว

สภาพการณ์น่ากลัวยิ่งแล้ว!

ที่ต้องรู้ก็คือ ผู้แข็งแกร่งจากแต่ละเผ่าในที่นี้แทบจะครอบครองพลังปราณระดับหยั่งสัจจะทั้งหมด ในกลุ่มนี้ไม่ขาดผู้กล้ารุ่นเยาว์ รวมถึงผู้แข็งแกร่งรุ่นอาวุโสหลายคน

และตอนนี้พวกเขาร่วมมือกันล้อมโจมตีหลินสวินเพียงผู้เดียว แค่คิดก็รู้ว่าจะสะท้านโลกาขนาดไหน

ฟ้าดินเปลี่ยนสี สภาพอากาศแปรปรวน กลิ่นอายทำลายล้างกำเริบเสิบสาน เปิดฉากมหาสงครามสะเทือนใต้หล้าครั้งหนึ่ง

ไม่ว่าจะเพื่อฆ่าหลินสวินหรือเพื่อช่วงชิงศุภโชคที่อยู่กับตัวเขาไป ผู้แข็งแกร่งแต่ละเผ่าล้วนไม่ออมมือ จิตสังหารพลุ่งพล่าน พลานุภาพเหลือคณา

หากเปลี่ยนเป็นผู้มีปราณระดับหยั่งสัจจะทั่วไปคนอื่น เกรงว่าจะตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ อกสั่นขวัญหายแต่แรกแล้ว

อย่างไรเสียแค่คนตัวคนเดียว เมื่อเผชิญหน้ากับการล้อมโจมตีของผู้แข็งแกร่งมากมายเช่นนี้ ก็เพียงพอที่จะทำให้หวาดผวาหมดหวัง

แต่หลินสวินเป็นตัวอย่างที่พิเศษอย่างเห็นได้ชัด

เขาไม่หลบหนี ถึงกับเป็นฝ่ายออกตัวรับการต่อสู้!

เปรี้ยง!

แสงเทพซัดสาดทั่วร่างเขา ท่วงทำนองมรรคโอบล้อมราวแสงอุษาศักดิ์สิทธิ์ ในมือถือดาบหักเล่มหนึ่ง ดุจเซียนประทับดาบ โอหังและเหนือธรรมดา ท่วงท่าสง่างามไร้มลทิน

สำแดงก้าวย่างชือน้ำแข็งที่ขั้นสุดยอด ทำให้เงาร่างของเขารวดเร็วอย่างไม่อาจคาดคิด เคลื่อนไหวหายตัวต่อเนื่องราวภาพมายา

ทุกครั้งที่หายตัวจะก่อให้เกิดการนองเลือดครั้งหนึ่ง!

ในลานเลือดสาดราวสายฝน ผู้แข็งแกร่งคนแล้วคนเล่าล้วนไม่ทันได้ตอบโต้ก็ถูกสังหารคาที่ ไม่ก็ถูกฟันผ่าท้องเปิดอก ไม่ก็ถูกฟันคอขาด หรือไม่ก็ถูกบดขยี้ร่างกายเข้าอย่างจัง…

ภาพนองเลือดน่าหดหู่ สะท้านขวัญติดตา

ผู้แข็งแกร่งจากแต่ละเผ่าเหล่านี้ล้วนมาเพราะเขา ด้วยเหตุนี้หลินสวินจึงไม่ออมมือแต่อย่างไร สังหารเลือดสาดตลอดทาง กระตุ้นพลังยุทธ์ของตัวเองถึงขีดสุด พลังรุนแรงทำลายราบเป็นหน้ากลอง โจมตีจนบรรพตราบเรียบ

ไอเลือดลอยอ้อยอิ่งทั่วฟ้าดิน เสียงฆ่าฟันสะท้านฟ้า แม้มีตัวคนเดียวแต่กลับเหมือนพยัคฆ์ฝ่าเข้าฝูงหมาป่า ห่าโลหิตพัดโหม

“เขา… เขาไม่ได้โดนอสนีวิบัติจนได้รับบาดเจ็บปางตายหรือ เหตุใดถึงน่ากลัวขนาดนี้”

ในลานเริ่มมีเสียงร้องอย่างไม่พอใจและพรั่นพรึงดังขึ้นตามการต่อสู้ที่ดำเนินไป

เห็นชัดว่าความแข็งแกร่งและดุดันของหลินสวินเกินเลยไปจากที่พวกเขาทุกคนคาดไว้โดยสิ้นเชิง เดิมนึกว่าเป็นแพะรอเชือดตัวหนึ่ง ใครจะคิดว่าชั่วพริบตาจะกลายเป็นเทพมารหนุ่มน้อยองค์หนึ่งไปเสียแล้ว!

ที่ต้องรู้ก็คือ เขาเพิ่งบรรลุเข้าระดับหยั่งสัจจะเท่านั้น ภายใต้การล้อมโจมตีของผู้แข็งแกร่งกลุ่มหนึ่ง ไม่เพียงไม่เพลี่ยงพล้ำ กลับถูกเขาสังหารจนห่าเลือดพัดว่อนราบเป็นหน้ากลองตลอดทาง จะไม่ทำให้ผู้คนสะท้านขวัญได้อย่างไร

มองไปทั่วโลกา มีใครทำเช่นนี้ได้อีกหรือ

เกรงว่าต่อให้เป็นบุคคลระดับบุตรเทพ ธิดาเทพของแต่ละเผ่ามาเยือน ก็ยังต่อกรกับคมดาบของเขาได้ยากกระมัง

“ฆ่า! หากเด็กนี่ไม่ถูกกำจัด วันหน้าต้องกลายเป็นหนามยอกอกชิ้นใหญ่แน่!”

มีผู้แข็งแกร่งคำรามเดือดดาล ในสายตารับรู้ได้ถึงปัญหา หลินสวินมีพลังต่อสู้พลิกฟ้าเช่นนี้ทั้งที่บาดเจ็บสาหัส หากเขาฟื้นตัวจนอยู่ในสภาพดีที่สุดจะน่าสยดสยองปานไหน

การสังหารยังคงดำเนินต่อไป ฟ้าดินสะเทือนเลือนลั่น คาวเลือดเข้มข้นและเสียงร้องโหยหวนปะปนกันราวภาพในนรก

ตูม!

ในที่สุดมีผู้แข็งแกร่งร้ายกาจออกโจมตี เรียกตราประทับโบราณชิ้นหนึ่งออกมา สาดแสงสุวรรณเจิดจ้า กำราบออกไปอย่างร้ายกาจ

เห็นได้ชัดว่าตราประทับนั้นเป็นสมบัติลับชิ้นหนึ่ง พลานุภาพสะท้านฟ้าสะเทือนดิน ทันทีที่เผยตัวก็เกิดปรากฏการณ์แปลกประหลาดอย่างผีครวญครางหมาป่าโหยหวน ห่าเลือดปลิวว่อน

ตราโบราณสังหารมาร!

อาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่สืบทอดกันมาในเผ่ากาฬพฤกษ์!

ผู้แข็งแกร่งหลายคนล้วนจำได้ แต่ที่ทำให้พวกเขารู้สึกหนาวเยือกในใจก็คือ เด็กหนุ่มเผ่ามนุษย์ผู้นั้นไม่หลบไม่หนี ดาบหักตัดขวางห้วงอากาศ เพียงการโจมตีเดียวถึงกับซัดตราโบราณสังหารมารนั่นกระเด็นออกไป ส่งเสียงครวญคร่ำโหยหวนไม่ว่างเว้น!

แต่เมื่อเทียบกับหลินสวิน กลับทำให้ทั้งสองคนมีความกดดันและหวั่นเกรงแรงกล้า

‘ต้องรีบยกระดับตัวเองแล้ว!’

ทั้งสองคนตั้งมั่นเหมือนกันโดยมิได้นัดหมาย ความรุ่งเรืองของหลินสวินทำให้พวกเขารู้สึกเร่งร้อน ไม่อาจทนให้หลินสวินโดดเด่นแต่เพียงผู้เดียวบนหนทางมหามรรค

แท้จริงแล้วยังมีผู้แข็งแกร่งไม่น้อยที่ไม่ได้ลงมือ ซ่อนตัวอยู่ในความมืดเช่นพวกเขาสองคน ทุกคนล้วนเป็นบุคคลชั้นยอดของแต่ละเผ่า พวกเขาไม่ได้กริ่งเกรง แต่ทำเพราะศักดิ์ศรี ดูหมิ่นการเข้าไปแก่งแย่งกับผู้แข็งแกร่งคนอื่นๆ ว่าทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงของตน

เพียงแต่เมื่อเห็นพลานุภาพโดดเด่นที่หลินสวินระเบิดออกมา ทำให้พวกเขาก็ตกใจอยู่ลึกๆ รับรู้ได้ถึงความคุกคาม

“หืม?”

ทันใดนั้นอวี่เซียวเซิงสังเกตอะไรได้ ดวงตาพลันเปล่งประประกาย “เจ้าเด็กนั่นเหมือนจะยืนหยัดไม่อยู่แล้ว!”

ในขณะเดียวกัน ธิดาเทพหลินหลางรวมถึงบุคคลชั้นยอดที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดก็ล้วนมองไปยังลานต่อสู้

หลินสวินที่เดิมพลานุภาพหาใดเทียมกลับเริ่มกระอักเลือดโดยพลัน หน้านิ่วคิ้วขมวด สีหน้าซีดขาว บนร่างปรากฏรอยแผลปริขาด อาการบาดเจ็บรุนแรงหาใดเปรียบ

นี่ส่งผลกระทบต่อการต่อสู้ของเขา ทำให้สถานการณ์ของเขาพลันแปรเปลี่ยนเป็นอันตราย!

หลังจากภาพที่แปรเปลี่ยนกะทันหันนี้เกิดขึ้น ทำให้ผู้แข็งแกร่งทุกคนคาดไม่ถึงอยู่บ้าง ทันใดนั้นก็ยินดีขึ้นมาอย่างหาใดเปรียบ เจ้าหมอนี่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากด่านเคราะห์อสนี และตอนนี้ก็ทนไม่ไหวแล้วในที่สุด

ความสามารถของหลินสวินเมื่อครู่ดุดันและโอหังเกินไป ทำให้พวกเขาแทบหมดหวัง จะไปคิดได้อย่างไรว่าสถานการณ์จะพลิกผัน เกิดเหตุไม่คาดฝันเช่นนี้ได้

“ฮ่าๆๆ…”

ผู้แข็งแกร่งบางคนอดหัวเราะเสียงดังไม่ได้ ส่วนคนอื่นๆ ก็ล้วนถอนหายใจยาว แล้วจึงกัดฟันพุ่งไปหาหลินสวินอย่างบ้าคลั่ง หมายจะถือโอกาสนี้โจมตีสังหารเขา!

“ได้เวลาพวกเราเคลื่อนไหวแล้ว!”

ไกลออกไป บุตรเทพอวี่เซียวเซิงสายตาเย็นชาน่ากลัว จิตสังหารห้อมล้อม

“ไป!”

ธิดาเทพหลินหลางเรียกระฆังสำริดสีเลือดออกมา พลิ้วลอยทะยานออกไป

แทบจะในเวลาเดียวกัน บุคคลชั้นยอดที่เดิมซุ่มซ่อนอยู่ในความมืดก็ล้วนรับรู้ได้ว่าโอกาสที่แท้จริงมาแล้ว ด้วยเหตุนี้จึงเริ่มเคลื่อนไหวโดยไม่ลังเล

ส่วนในลาน หลินสวินกลับกระโจนขึ้นสำแดงก้าวย่างชือน้ำแข็งดุจภูตผีในนิมิตมายา ว่องไวจนไม่อาจคาดคิดได้ หนีห่างออกไปไกล

ยามภาพนี้ปรากฏสู่สายตาของผู้แข็งแกร่งเหล่านั้น ยิ่งพิสูจน์ว่าหลินสวินใกล้จะยืนหยัดไม่อยู่แล้ว ไม่อาจไม่หนีตาย!

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์