หลินสวินเหยียบย่างออกไปก้าวหนึ่ง แล้วสำแดงเคล็ดวิชาเก้าหมัดสะเทือนสวรรค์ ลมหมัดแวววาวอวลด้วยท่วงทำนองมรรคไหลพุ่งออกมา เกิดเป็นปรากฏการณ์ประหลาดน่าหวาดหวั่นอย่างธาราขุนเขาถล่ม ฟ้าทลายพื้นดินแยกออก
“อ๊าก…”
ผู้แข็งแกร่งเผ่ากวางหยกสี่คนที่พุ่งมาหน้าสุดล้วนร้องเสียงดัง สีหน้าพรั่นพรึงและหดหู่ ทรวงอกของพวกเขาสลายกลายเป็นจุณ อวัยวะภายในระเบิดเป็นชิ้นๆ เลือดสดๆ ไหลริน
นี่ทำให้ผู้คนสิ้นหวังและหวาดหวั่น การต่อสู้เพิ่งเริ่มขึ้นเท่านั้นก็ทำลายผู้แข็งแกร่งไปสี่คนแล้ว!
ฮูม!
ในขณะเดียวกัน ใต้เท้าของหลินสวินปรากฏเงามายาของชือน้ำแข็งมหึมาตัวหนึ่ง ขาวราวหิมะใสราวน้ำแข็ง ชูคอร้องครวญ ม้วนตัวในห้วงอากาศ ดวงตาเย็นชาราวน้ำแข็งไร้อารมณ์ เหยียดมองลงมายังฝูงชน
ตู้ม!
ชือน้ำแข็งทะยานขึ้นฟ้า พาให้ห้วงอากาศระเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ แกว่งหางครั้งเดียวก็มีผู้แข็งแกร่งสิบกว่าคนถูกกวาดโดนในทันใด ร่างกายระเบิดแหลกราวเศษกระดาษ ได้แต่ตายไปพร้อมความเคียดแค้นอยู่ตรงนั้น
นี่ก็คือก้าวย่างชือน้ำแข็ง เป็นวิชาเคลื่อนไหวร่างกายที่ลึกลับยากคาดเดาวิชาหนึ่ง แต่ขณะเดียวกันก็เป็นวิชาลับด้วย หากฝึกถึงขั้นสูงสุด เหยียบย่างออกไปก้าวเดียวชือน้ำแข็งก็จะออกมาห้อมล้อมปกป้อง สามารถกำราบศัตรูรอบทิศ ไม่อาจให้อริภายนอกกล้ำกราย!
เมื่อผ่านการชำระล้างเป็นตายของด่านเคราะห์อสนี ทำให้หลินสวินใช้ความอัศจรรย์ของก้าวย่างชือน้ำแข็งถึงขีดสุดได้นานแล้ว ตอนนี้ยามสำแดงพลังออกไป ก็ระเบิดพลังสะท้านโลกาในทันใด!
“เร็วเข้า ลงมือฆ่ามันด้วยกัน!”
“ฆ่า! ชิงศุภโชคที่อยู่กับตัวเด็กนี่มา!”
ผู้แข็งแกร่งหลายคนตะคอกดัง ครั้งนี้เป็นศัตรูรอบด้านอย่างแท้จริง ผู้แข็งแกร่งจากแต่ละเผ่าที่กระจายโดยรอบต่างลงมือแล้ว เงาร่างไหววูบพุ่งเข้ามาจากทั่วสารทิศ
ในชั่วขณะเดียวแสงสมบัติก็ท่วมทะลักฟ้าดิน อาวุธวิญญาณปลิวว่อนยุ่งเหยิง แสงน่าหวาดหวั่นเกี่ยวกระหวัดไปทั่ว แผ่ขยายประหนึ่งกระแสน้ำเชี่ยว
สภาพการณ์น่ากลัวยิ่งแล้ว!
ที่ต้องรู้ก็คือ ผู้แข็งแกร่งจากแต่ละเผ่าในที่นี้แทบจะครอบครองพลังปราณระดับหยั่งสัจจะทั้งหมด ในกลุ่มนี้ไม่ขาดผู้กล้ารุ่นเยาว์ รวมถึงผู้แข็งแกร่งรุ่นอาวุโสหลายคน
และตอนนี้พวกเขาร่วมมือกันล้อมโจมตีหลินสวินเพียงผู้เดียว แค่คิดก็รู้ว่าจะสะท้านโลกาขนาดไหน
ฟ้าดินเปลี่ยนสี สภาพอากาศแปรปรวน กลิ่นอายทำลายล้างกำเริบเสิบสาน เปิดฉากมหาสงครามสะเทือนใต้หล้าครั้งหนึ่ง
ไม่ว่าจะเพื่อฆ่าหลินสวินหรือเพื่อช่วงชิงศุภโชคที่อยู่กับตัวเขาไป ผู้แข็งแกร่งแต่ละเผ่าล้วนไม่ออมมือ จิตสังหารพลุ่งพล่าน พลานุภาพเหลือคณา
หากเปลี่ยนเป็นผู้มีปราณระดับหยั่งสัจจะทั่วไปคนอื่น เกรงว่าจะตกใจจนขวัญหนีดีฝ่อ อกสั่นขวัญหายแต่แรกแล้ว
อย่างไรเสียแค่คนตัวคนเดียว เมื่อเผชิญหน้ากับการล้อมโจมตีของผู้แข็งแกร่งมากมายเช่นนี้ ก็เพียงพอที่จะทำให้หวาดผวาหมดหวัง
แต่หลินสวินเป็นตัวอย่างที่พิเศษอย่างเห็นได้ชัด
เขาไม่หลบหนี ถึงกับเป็นฝ่ายออกตัวรับการต่อสู้!
เปรี้ยง!
แสงเทพซัดสาดทั่วร่างเขา ท่วงทำนองมรรคโอบล้อมราวแสงอุษาศักดิ์สิทธิ์ ในมือถือดาบหักเล่มหนึ่ง ดุจเซียนประทับดาบ โอหังและเหนือธรรมดา ท่วงท่าสง่างามไร้มลทิน
สำแดงก้าวย่างชือน้ำแข็งที่ขั้นสุดยอด ทำให้เงาร่างของเขารวดเร็วอย่างไม่อาจคาดคิด เคลื่อนไหวหายตัวต่อเนื่องราวภาพมายา
ทุกครั้งที่หายตัวจะก่อให้เกิดการนองเลือดครั้งหนึ่ง!
ในลานเลือดสาดราวสายฝน ผู้แข็งแกร่งคนแล้วคนเล่าล้วนไม่ทันได้ตอบโต้ก็ถูกสังหารคาที่ ไม่ก็ถูกฟันผ่าท้องเปิดอก ไม่ก็ถูกฟันคอขาด หรือไม่ก็ถูกบดขยี้ร่างกายเข้าอย่างจัง…
ภาพนองเลือดน่าหดหู่ สะท้านขวัญติดตา
ผู้แข็งแกร่งจากแต่ละเผ่าเหล่านี้ล้วนมาเพราะเขา ด้วยเหตุนี้หลินสวินจึงไม่ออมมือแต่อย่างไร สังหารเลือดสาดตลอดทาง กระตุ้นพลังยุทธ์ของตัวเองถึงขีดสุด พลังรุนแรงทำลายราบเป็นหน้ากลอง โจมตีจนบรรพตราบเรียบ
ไอเลือดลอยอ้อยอิ่งทั่วฟ้าดิน เสียงฆ่าฟันสะท้านฟ้า แม้มีตัวคนเดียวแต่กลับเหมือนพยัคฆ์ฝ่าเข้าฝูงหมาป่า ห่าโลหิตพัดโหม
“เขา… เขาไม่ได้โดนอสนีวิบัติจนได้รับบาดเจ็บปางตายหรือ เหตุใดถึงน่ากลัวขนาดนี้”
ในลานเริ่มมีเสียงร้องอย่างไม่พอใจและพรั่นพรึงดังขึ้นตามการต่อสู้ที่ดำเนินไป
เห็นชัดว่าความแข็งแกร่งและดุดันของหลินสวินเกินเลยไปจากที่พวกเขาทุกคนคาดไว้โดยสิ้นเชิง เดิมนึกว่าเป็นแพะรอเชือดตัวหนึ่ง ใครจะคิดว่าชั่วพริบตาจะกลายเป็นเทพมารหนุ่มน้อยองค์หนึ่งไปเสียแล้ว!
ที่ต้องรู้ก็คือ เขาเพิ่งบรรลุเข้าระดับหยั่งสัจจะเท่านั้น ภายใต้การล้อมโจมตีของผู้แข็งแกร่งกลุ่มหนึ่ง ไม่เพียงไม่เพลี่ยงพล้ำ กลับถูกเขาสังหารจนห่าเลือดพัดว่อนราบเป็นหน้ากลองตลอดทาง จะไม่ทำให้ผู้คนสะท้านขวัญได้อย่างไร
มองไปทั่วโลกา มีใครทำเช่นนี้ได้อีกหรือ
เกรงว่าต่อให้เป็นบุคคลระดับบุตรเทพ ธิดาเทพของแต่ละเผ่ามาเยือน ก็ยังต่อกรกับคมดาบของเขาได้ยากกระมัง
“ฆ่า! หากเด็กนี่ไม่ถูกกำจัด วันหน้าต้องกลายเป็นหนามยอกอกชิ้นใหญ่แน่!”
มีผู้แข็งแกร่งคำรามเดือดดาล ในสายตารับรู้ได้ถึงปัญหา หลินสวินมีพลังต่อสู้พลิกฟ้าเช่นนี้ทั้งที่บาดเจ็บสาหัส หากเขาฟื้นตัวจนอยู่ในสภาพดีที่สุดจะน่าสยดสยองปานไหน
การสังหารยังคงดำเนินต่อไป ฟ้าดินสะเทือนเลือนลั่น คาวเลือดเข้มข้นและเสียงร้องโหยหวนปะปนกันราวภาพในนรก
ตูม!
ในที่สุดมีผู้แข็งแกร่งร้ายกาจออกโจมตี เรียกตราประทับโบราณชิ้นหนึ่งออกมา สาดแสงสุวรรณเจิดจ้า กำราบออกไปอย่างร้ายกาจ
เห็นได้ชัดว่าตราประทับนั้นเป็นสมบัติลับชิ้นหนึ่ง พลานุภาพสะท้านฟ้าสะเทือนดิน ทันทีที่เผยตัวก็เกิดปรากฏการณ์แปลกประหลาดอย่างผีครวญครางหมาป่าโหยหวน ห่าเลือดปลิวว่อน
ตราโบราณสังหารมาร!
อาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่สืบทอดกันมาในเผ่ากาฬพฤกษ์!
ผู้แข็งแกร่งหลายคนล้วนจำได้ แต่ที่ทำให้พวกเขารู้สึกหนาวเยือกในใจก็คือ เด็กหนุ่มเผ่ามนุษย์ผู้นั้นไม่หลบไม่หนี ดาบหักตัดขวางห้วงอากาศ เพียงการโจมตีเดียวถึงกับซัดตราโบราณสังหารมารนั่นกระเด็นออกไป ส่งเสียงครวญคร่ำโหยหวนไม่ว่างเว้น!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์