สมบัติชุดนี้ก็เป็นสมบัติโบราณเช่นกัน แม้การใช้งานจะดูเรียบง่าย ทว่ากลับเร้นลับอย่างยิ่ง สามารถแปลงเป็นเขตแดนมายา กักขังคู่ต่อสู้เอาไว้ในนั้นได้
แม้ว่าราชาระดับสังสารวัฏจะมาช่วยชีวิต ภายในเวลาหนึ่งถ้วยชาก็ยากจะสั่นคลอนได้!
ปัง!
อีกด้านหนึ่ง เกาทัณฑ์วิญญาณแล่นผ่านห้วงอากาศ ภายใต้พลังจิตวิญญาณอันยิ่งใหญ่ของหลินสวินนั้น ชั่วพริบตาพลันเจาะทะลุแผ่นหลังของอวี่เซียวเซิง ทำให้ร่างกายครึ่งหนึ่งของเขาระเบิดเป็นเสี่ยง เลือดเนื้อสาดกระเซ็น
หากเปลี่ยนเป็นผู้ฝึกปราณคนอื่น ลำพังแค่การโจมตีครั้งนี้ก็เพียงพอจะตายอนาถได้ ทว่าอวี่เซียวเซิงกลับต่างออกไปอย่างเห็นได้ชัด ถึงขนาดอาศัยแค่ร่างกายที่แหลกลาญแข็งขืนยันตัวเอาไว้และเผ่นหนีต่อไปได้!
ขณะที่หลินสวินเพิ่มเกาทัณฑ์หนึ่งดอก อีกฝ่ายก็หนีไปอย่างไร้ร่องรอยตั้งนานแล้ว
สิ่งนี้ทำให้หลินสวินขมวดคิ้ว คราวนี้จึงตวัดสายตามองไปทางบุตรเทพเผ่าวานรนทีที่อยู่ไม่ไกล
ฝ่ายหลังหน้าซีดเผือด ในดวงตาเปี่ยมด้วยความหวาดผวา กล่าวพลางกัดฟันกรอด “บนกายข้ามียันต์กระดูกวิญญาณ เจ้าสังหารข้าไม่ตายหรอก ไม่สู้พวกเรามาทำข้อตกลงกันดีกว่าว่าอย่างไร”
เขากลัวแล้วจริงๆ เมื่อครู่บุตรเทพกลุ่มหนึ่งร่วมมือกันปิดล้อม ยังถูกหลินสวินสังหารจนล้มไม่เป็นท่า พ่ายแพ้ยับเยิน
ตอนนี้เหลือเขาเพียงคนเดียว ไหนเลยจะมีความมั่นใจไปประลองกับหลินสวินอีก
ไม่รอให้หลินสวินปริปาก เขายื่นแขนพลิกมือ บนฝ่ามือผุดกำไลเก็บของชิ้นหนึ่งพลางกล่าว “ในนี้คือโอสถวิญญาณและของมีค่าหายากส่วนหนึ่งที่ข้ารวบรวมได้หลังจากเข้าสู่แดนลับอสูรมารอริยะ ขอเพียงหนนี้เจ้าปล่อยข้าไป ของพวกนี้ล้วนยกให้เจ้าได้ทั้งสิ้น”
หลินสวินส่ายหน้า “ไม่พอ”
บุตรเทพเผ่าวานรนทีสีหน้าขึงขัง แต่ท้ายที่สุดก็อดกลั้นเอาไว้กล่าวว่า “เจ้าต้องการอะไรกันแน่ถึงจะปล่อยข้าไป”
“ได้ยินว่าเผ่าวานรนทีของพวกเจ้าครอบครองมรดกโบราณที่เรียกว่า ‘กายทองหลอมไฟ’ หากสามารถส่งมอบออกมา บางทีอาจจะแลกกับชีวิตน้อยๆ นี้ได้”
เวลานี้เจ้าคางคกไม่รู้ว่าถลาเข้ามาตั้งแต่เมื่อไร นัยน์ตาสีทองคู่นั้นจับจ้องบุตรเทพเผ่าวานรนทีตาเป็นมัน มองเสียจนฝ่ายหลังเริ่มผวาในใจ
“ไม่ได้! นี่เป็นมรดกสูงสุดในเผ่าข้า ยอมตายเสียดีกว่าจะยกให้ผู้อื่น!”
บุตรเทพเผ่าวานรนทีปฏิเสธโดยไม่ลังเลสักนิด
“เช่นนั้นก็มอบไม้กระดูกขาวในมือเจ้าด้ามนั้นออกมา อันนี้น่าจะพอได้อยู่กระมัง”
ดวงตาเจ้าคางคกชั่วร้ายเต็มกำลัง หน้าตาแลดูน้ำลายหก
บุตรเทพเผ่าวานรนทีโกรธจนหน้าเขียว บุคคลระดับบุตรเทพผู้สง่างามอย่างเขา มีหรือจะเคยกล้ำกลืนฝืนทนเยี่ยงนี้มาก่อน
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการถูกคนขู่กระโชกและปล้นทรัพย์เลย!
“นี่คือ ‘กระบองมรรคกระดูกศักดิ์สิทธิ์’ อาวุธบรรพบุรุษของเผ่าข้า และก็ไม่สามารถยกให้คนนอกได้เช่นเดียวกัน พูดอย่างไม่เกรงใจก็คือต่อให้ข้ายกมันให้พวกเจ้า พวกเจ้าก็ไม่สามารถใช้งานได้อยู่ดี”
บุตรเทพเผ่าวานรนทีปฏิเสธอย่างเด็ดขาดอีกครั้ง
ทันใดนั้นเจ้าคางคกเริ่มจะหงุดหงิด “เจ้าลิงเฮงซวยนี่ไฉนจึงหัวรั้นเพียงนี้ เชื่อหรือไม่ว่าพวกเราจะฆ่าเจ้าก่อน จากนั้นค่อยกวาดสมบัติทั้งหมดในตัวของเจ้าจนเกลี้ยง”
บุตรเทพเผ่าวานรนทีหัวเราะเย็นชา เขาไม่กลัวเจ้าคางคก คนเดียวที่หวาดกลัวคือหลินสวิน
“เอาอย่างนี้” เจ้าคางคกลูบปลายคาง ดวงตากลิ้งกลอกหมุนเคลื่อนไปมา กล่าวอย่างไม่แยแส “นอกจากมรดกและอาวุธบรรพบุรุษในมือเจ้า จงทิ้งสมบัติอื่นๆ ในตัวเจ้าเอาไว้ให้หมด ครั้งนี้ก็จะปล่อยเจ้าไป”
เดิมทีหลินสวินเตรียมจะสังหารแล้ว ทว่าพอได้ยินเจ้าคางคกกล่าวเช่นนี้ กลับตัดสินใจชมดูอยู่ข้างสนามไปพลางๆ ก่อน
คางคกตัวนี้เป็นถึงคางคกทองคำสามขา สามารถจำแนกของมีค่าทั้งปวง เขาจะต้องต้องตาสมบัติบางอย่างบนตัวของบุตรเทพเผ่าวานรนทีผู้นี้เป็นแน่!
“ได้!”
ครั้งนี้บุตรเทพเผ่าวานรนทีลังเลอยู่พักหนึ่ง ท้ายที่สุดก็ยังตกปากรับคำ ส่งมอบสมบัติบนตัวออกมา
“จะปล่อยเขาไปจริงๆ หรือ”
หลินสวินมุ่นคิ้ว บุตรเทพเผ่าวานรนทีจากไปแล้ว แต่หากไล่ตามสุดกำลังก็ยังสามารถตามทันอยู่
“เฮ้อ ปล่อยเขาไปเถิด”
ท่าทีเจ้าคางคกออกจะซับซ้อน ผ่านไปสักพักถึงได้เอ่ยวาจา “บรรพบุรุษของเผ่าวานรนที อันที่จริงเป็นลูกหลานสายวานรหกหูในสมัยบรรพกาล ถึงจะบอกว่าทั้งเผ่าวานรนทีในปัจจุบันแทบจะไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับสายเลือดวานรหกหูตั้งนานแล้ว แต่ทางที่ดีเจ้าอย่าได้ยั่วโมโหพวกเขาเป็นดีที่สุด”
หลินสวินนิ่งงัน “เพราะเหตุใด”
เจ้าคางคกเคาะกบาลตนเอง กล่าวหน้านิ่วคิ้วขมวด “นึกไม่ออกแล้ว เอาเป็นว่าสัญชาตญาณบอกข้า เผ่านี้น่าจะเกี่ยวโยงกับเคราะห์กรรมพลิกฟ้าอย่างหนึ่ง อย่าได้ไปข้องเกี่ยวกับพวกเขาเป็นดีที่สุด มิเช่นนั้นไม่ว่าจะเป็นศัตรูหรือสหายของพวกเขา จะต้องชักนำภัยมาถึงตัวอย่างแน่นอน”
เคราะห์กรรมพลิกฟ้า?
หลินสวินใคร่ครวญในใจ
จากนั้นเจ้าคางคกเริ่มนับทรัพย์หลังศึกที่รีดไถมาจากตัวของบุตรเทพเผ่าวานรนทีด้วยใบหน้าเบิกบานใจ ราวกับคนโลภในทรัพย์
ส่วนเงาร่างของหลินสวินกลับไหววูบ เข้าสู่เขตแดนมายาที่แปลงจากเสามังกรจตุลักษณ์
กลางเขตแดนมายา ธิดาเทพหลินหลางกำลังตะลีตะลานกระตุ้นระฆังสำริดสีเลือด โหมซัดโจมตี พยายามทะลวงเขตแดนมายาลง น่าเสียดายที่ต้องเสียแรงเปล่า
ครั้นหลินสวินปรากฏตัวก็ไม่ลังเลใดๆ ลงมือเต็มกำลังเริ่มต้นกำราบอีกฝ่าย
เขาไม่เพียงแต่ไม่มีความรู้สึกดีต่อผู้หญิงคนนี้ ยังเกลียดชังถึงขีดสุด!
ก่อนหน้านี้ตอนอยู่บนเกาะอริยะปัญจธาตุ ทั้งสองก็ผูกพยาบาทกันเนื่องด้วยคัมภีร์อริยมรรคเล่มหนึ่ง และในช่วงหลบหนีหลายวันมานี้ เขายังเกือบตายด้วยน้ำมือผู้หญิงคนนี้หลายต่อหลายครั้งอีกด้วย
ตอนนี้แม้แต่อาการบาดเจ็บสาหัสที่จ้าวจิ่งเซวียนและเจ้าคางคกประสบมา ผู้หญิงคนนี้ก็มีส่วน แล้วอย่างนี้หลินสวินจะไม่ชิงชังได้หรือ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์