อ่านสรุป ตอนที่ 603 จาก Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet
บทที่ ตอนที่ 603 คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
เสียงสูดหายใจเย็นเยียบดังขึ้นระลอกหนึ่ง ผู้แข็งแกร่งแต่ละเผ่าต่างตกตะลึง
เด็กหนุ่มเทพมารคนนั้นช่างโหดเหี้ยมเหลือเกิน เพียงแค่หมัดเดียวเท่านั้นก็ระเบิดเงามายาเทพมารเงานั้นจนกระจุย
เด็กหนุ่มคนนี้เป็นพวกวิปริตจริงๆ ด้วย!
นี่คือความคิดเห็นของผู้แข็งแกร่งส่วนใหญ่
เพียงแต่ยังไม่รอพวกเขาคืนสติกลับมาจากความตื่นตระหนก ยอดเขาลูกใหญ่นั้นพลันเกิดเหตุขึ้นมาอีก…
พรึ่บๆๆ!
ในตอนที่เหวินเสียงเพิ่งปราชัย ในอากาศละแวกใกล้เคียงกับหลินสวินพลันปรากฏเงาร่างออกมาอีกนับร้อยนับพัน
ในทุกๆ ร่างต่างมีรูปลักษณ์เหมือนกับกงหยางอวี่ ดุจดั่งผู้ฝึกกระบี่ไร้เทียมทานคนแล้วคนเล่า กลิ่นอายรุนแรงครอบคลุมฟ้าดิน
‘กายมรรคหมื่นมายา’!
ถึงแม้หลินสวินจะไม่รู้จักที่มาของวิชานี้ แต่กลับเคยประสบมาด้วยตัวเอง ย่อมประจักษ์แจ้งดี นี่คือท่าไม้ตายที่กงหยางอวี่เจนจัด
หนึ่งร่างแปรเป็นหมื่นมายา จริงผสานเท็จ สัจจะระคนมายา อาศัยแค่ตาเปล่ากับความรู้สึกแทบไม่สามารถระบุได้เลยว่าร่างไหนกันแน่ถึงจะเป็นร่างเดิมของกงหยางอวี่ เป็นการเปลี่ยนแปลงอันคาดเดาไม่ได้ มหัศจรรย์ไร้สิ่งใดเปรียบโดยแท้
โครม!
ไอกระบี่เกรี้ยวกราดปราดเปรียวสายแล้วสายเล่าครอบนภาคลุมปฐพี ตัดสลับสอดผสาน ประหนึ่งฝนกระบี่ครอบคลุมผืนฟ้าพสุธา สาดซัดกระเซ็น ต่างมุ่งสังหารไปทางหลินสวิน
ภาพนั้นทำเอาผู้แข็งแกร่งแต่ละเผ่าที่อยู่ไกลออกไปมองดูจนหนังศีรษะชา หากเปลี่ยนเป็นพวกเขา กลัวแต่คงไม่รู้เลยว่าควรหลบเลี่ยงอย่างไรดี
ไอกระบี่นั่นมากเกินไปแล้ว เนืองแน่นเป็นขนัด ประดุจผู้ฝึกกระบี่ไร้เทียมทานนับร้อยนับพันคนโจมตีออกมาพร้อมกัน ทำให้ผู้คนสั่นสะท้านและสิ้นหวัง
โครมครืน!
เผชิญหน้ากับการซัดโจมตีระดับนี้ นัยน์ตาดำของหลินสวินฉายประกายยะเยือกแวบหนึ่ง สำแดงก้าวย่างชือน้ำแข็งโดยไม่ลังเลเลยสักนิด มือกระชับดาบหัก โจมตีอย่างอุกฉกรรจ์
ไอดาบพราวระยับดั่งแสงดาราม้วนตลบออกมา จู่โจมไอกระบี่เป็นจุณไปไม่รู้เท่าไร และผลาญฆ่าเงาร่างไปไม่รู้กี่มากน้อย
กระนั้นสิ่งที่น่ากลัวคือ เงาร่างเหล่านั้นล้วนเป็นภาพมายา ทันทีที่แตกดับก็รวมร่างมายาออกมาอีกครั้ง จากนั้นก็พุ่งมาปิดล้อมหลินสวินต่อไป
ประหนึ่งว่าฆ่าไม่จบไม่สิ้นแม้แต่น้อย แผ่ขยายไปทั่วฟ้าดิน
และตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่มีใครสามารถมองออกว่าร่างไหนกันแน่จึงจะเป็นร่างเดิมของกงหยางอวี่ นี่ก็คือจุดที่น่ากลัวของ ‘กายมรรคหมื่นมายา’
ไอกระบี่ดั่งพิรุณ เงาร่างหมื่นมายาปกคลุมฟ้าดิน จู่โจมหลินสวินเพียงคนเดียว ภาพฉากระดับนี้ล้วนเรียกได้ว่าตะลึงโลกเช่นกัน
แม้แต่ผู้แข็งแกร่งแต่ละเผ่าที่อยู่ห่างออกไปต่างก็อดยอมรับไม่ได้ วิชาลับนี้ช่างเป็นวิชามหัศจรรย์ที่สะเทือนอดีตเขย่าปัจจุบันวิชาหนึ่งโดยสิ้นเชิง!
กระนั้นที่เหนือความคาดหมายของทุกคนคือ แม้จะอยู่ภายในสถานการณ์ระดับนี้ ท่าทางของหลินสวินก็ยังเยือกเย็น ไม่สั่นไหวในอารมณ์ ยังคงพุ่งสังหารอย่างดุเดือด
ทว่าในมุมมองของฝูงชน เขาก็เหมือนกำลังดิ้นรนเปลืองแรงเปล่า แม้แต่ร่างเดิมของอีกฝ่ายยังแยกแยะไม่ออก แล้วการดวลฉากนี้จะต่อสู้อย่างไรได้
ซูซิงเฟิงเช็ดคราบเลือดที่มุมปากออก สีหน้าเย็นชาและอำมหิต เขากำลังรอคอยวินาทีที่หลินสวินพ่ายแพ้อยู่
ในความเป็นจริง ภายในใจของเขาซับซ้อนถึงขีดสุด ก่อนหน้านี้เขาทึกทักมาโดยตลอดว่าเซียวหรันครอบครอง ‘คัมภีร์กายมรรคหมื่นมายา’ ฉะนั้นในใจจึงกริ่งเกรงต่อเซียวหรันยิ่งยวดเรื่อยมา
ใครจะไปคาดคิด ผู้ที่ซ่อนคมในส่วนลึกไม่ยอมเปิดเผยมากที่สุดกลับเป็นกงหยางอวี่!
ยามรู้ความจริงข้อนี้ซูซิงเฟิงก็อดสะท้านใจไม่ได้ ว่าเรื่องความปราดเปรื่องและชั้นเชิงแล้ว เขามั่นใจว่าไม่เป็นรองใคร
เพียงแต่ไม่ว่าจะเป็นเซียวหรันหรือกงหยางอวี่ ในแง่ความปราดเปรื่องนั้นกลับแสดงออกมาได้ร้ายกาจยิ่งกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย!
‘ยังดี ก่อนหน้านี้ไม่เคยผิดใจกับกงหยางอวี่ มิฉะนั้นคงกลายเป็นการสร้างศัตรูตัวฉกาจที่ยากจะต่อกรได้คนหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย…’
ซูซิงเฟิงถอนหายใจในอก เวลานี้แม้แต่เขาเองก็อดยอมรับไม่ได้ ความแข็งแกร่งถึงขีดสุดของกงหยางอวี่มีแววจะกำราบหลินสวินได้อย่างสมบูรณ์อยู่รางๆ ทั้งโดดเด่นและน่าทึ่ง
ส่วนอีกด้านเหวินเสียงก็ตะกายขึ้นมาจากพื้นแล้ว ดวงหน้าเนียนละเอียดระบมทั่วหน้า เขาก็รอคอยโอกาสเช่นเดียวกัน วางแผนจะโจมตีสังหารหลินสวินในคราวเดียวเมื่ออีกฝ่ายฝืนทนไม่ไหว!
“เจ้าหนู เจ้าต้องยืนหยัดเข้าไว้นะ!”
เจ้าคางคกกำลังเผ่นหนีเอาชีวิตรอด ในปากยังร้องตะโกนไม่จบสิ้น ตามเนื้อตัวของเขาเป็นแผลเหวอะหวะ ล้วนถูกวิถีกระบี่ปลิดชีพของอวิ๋นเช่อสร้างรอยแผลให้
ทว่าไม่อาจไม่พูด พลังชีวิตของเจ้าคางคกนั้นแข็งแกร่งยิ่ง แม้จะบาดเจ็บไม่หยุด ก็ยังคงกระโดดไปมา ไม่เคยทรุดล้มลงเลย
สิ่งนี้ทำให้อวิ๋นเช่ออดหัวเสียไม่ได้เช่นกัน แต่กลับต้องจนด้วยเกล้า เขาไม่เคยเห็นสัตว์ประหลาดที่อึดทนทานเยี่ยงนี้มาก่อน เหมือนกับแมลงสาบที่ฆ่าไม่ตายชัดๆ
“หลินเสวียน ข้าเคยบอกว่าเมื่อพบกันอีกครั้ง เจ้าย่อมไม่อาจหนีความตายนี้ไปได้ ตอนนี้ทุกอย่างล้วนประจักษ์ เจ้าหมดหนทางแล้ว!”
กลางอากาศ เสียงอันสง่างามของกงหยางอวี่ดังก้องขึ้น ลอยล่องทั่วแปดทิศ ไม่รู้ว่าเปล่งออกมาจากที่ใด
เขามีเงาร่างหมื่นมายา ไอกระบี่สอดประสานตัดสลับ ราวกับไม่มีตัวตนอยู่จริง แต่ก็เหมือนมีตัวตนอยู่ทุกที่ พาให้ผู้คนสิ้นหวัง
“เช่นนั้นหรือ”
ฉับพลันหลินสวินที่ถูกกำราบแล้วในสายตาของฝูงชนพลันเหินทะยานขึ้นกลางอากาศ กวัดแกว่งดาบหักเล่มหนึ่ง ฝ่าทะลวงวงล้อมอันแน่นหนาทันใด!
จากนั้นเขาก้าวเหยียบกลางอากาศ พุ่งไปยังทิศทางหนึ่งโดยตรง
“ไอ้งั่ง ข้าอยู่นี่!”
ไกลออกไป เสียงของกงหยางอวี่ที่ราวกับเย้ยหยันดังก้องขึ้น
กระนั้นหลินสวินกลับไม่แม้แต่จะเหลียวหลัง เสมือนเล็งเป้าหมายบางประการไว้แล้ว ดาบหักโฉบตวัดขึ้น พุ่งสังหารไม่ขาดสาย
“ฮ่าๆ เจ้ามองไม่ทะลุหรอก เว้นแต่ราชันระดับสังสารวัฏจะมาเอง ไม่เช่นนั้นใครก็ไม่สามารถทำลายกายมรรคหมื่นมายาของข้าได้”
“นี่เจ้ากำลังเปลืองแรงเปล่าแล้ว แม้แต่ตัวข้าเจ้ายังหาไม่เจอ ไม่รู้สึกว่าน่าขำหรอกหรือ”
“ช่างไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาจริงๆ สินะ”
กลางอากาศ ทุกหย่อมหญ้าล้วนเป็นเสียงสะท้อนกังวานของกงหยางอวี่ ในความเย้ยหยันนั้นเปี่ยมด้วยแววดูแคลน
สิ่งนี้ทำให้ผู้แข็งแกร่งแต่ละเผ่าที่อยู่ไกลออกไปยิ่งสะทกสะท้านใจมากขึ้นเรื่อยๆ วิชาลับระดับนี้ ไม่สามารถทำลายลงได้จริงๆ หรือ
ตูม!
ในขณะนั้นเอง หลินสวินพลันชะงักเท้ากลางอากาศ เงาร่างไหววูบแปลกประหลาด จู่ๆ ก็ถึงกับหันเหทิศทาง มุ่งหน้าไปสังหารอีกฝั่งหนึ่งทันที
วู้ม~
ดาบหักส่งเสียงก้องกังวานออกมา ยามนี้หลินสวินถึงกับสำแดง ‘กระบวนท่าเผาตะวัน’ ออกมาโดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย!
ใครเลยจะจินตนาการได้ ภายใต้การปิดล้อมระดับนี้ เด็กหนุ่มเทพมารผู้นั้นไม่เพียงแต่มิได้ประสบเคราะห์ ตรงข้ามยังพลิกผืนจักรวาล สังหารบุคคลระดับแนวหน้าคนหนึ่งได้ในดาบเดียว
กระนั้นสิ่งที่แปลกประหลาดก็คือ หลังจากร่างของกงหยางอวี่แหลกสลาย กลับกลายเป็นฝนแสงไปล่ปลิว สิ่งนี้ทำให้ทุกคนต่างอึ้งงัน นี่ไม่ใช่ร่างจริงของเขากระนั้นหรือ
มีเพียงหลินสวินที่มุ่นคิ้ว เขารู้ดี นี่ก็คือร่างจริงของกงหยางอวี่ เพียงแต่ก่อนตายเขาได้ใช้งาน ‘ยันต์จักจั่นทอง’ ถึงได้ลอกกคราบเหมือนเช่นจักจั่นทองอย่างไรอย่างนั้น
ดังคาด ก็เห็นว่าในจุดที่ไม่ไกลออกไปนัก เงาร่างของกงหยางอวี่ปรากฏขึ้น เพียงแต่เวลานี้เขามีสีหน้าขาวซีด ท่าทางยังคงเหมือนกับเจ็บหนักเจียนตาย
“ไป!”
ไกลออกไป ซูซิงเฟิงและเหวินเสียงตระหนักถึงความไม่ชอบมาพากลแต่ต้น คว้ากงหยางอวี่ในหมับเดียวแล้วผินหน้ากระโดดลงจากภูเขาไป
“คิดหนี? ไหนเลยจะง่ายดายเพียงนี้!”
สีหน้าของหลินสวินเคร่งขรึม เรียกธนูวิญญาณไร้แก่นสารออกมา ง้างธนูเต็มเหยียด ปึง! ปึง! ปึง! เกาทัณฑ์วิญญาณพุ่งออกไปอย่างไร้สุ้มเสียงดอกแล้วดอกเล่า แล่นทะลวงอากาศออกไป
ปัง!
แม้ว่าจะพยายามหลบเลี่ยงสุดกำลังแล้ว แต่ซูซิงเฟิงก็ยังคงไม่สามารถหลบออกพ้น ถูกเกาทัณฑ์วิญญาณดอกหนึ่งแทงทะลวงแผ่นหลัง ร่างพลันระเบิดเป็นเสี่ยง
แต่ที่น่าเสียดายคือ ซูซิงเฟิงก็ใช้งานยันต์จักจั่นทองเช่นเดียวกัน ท้ายที่สุดก็ยังคงปล่อยให้เขากับเหวินเสียงหนีรอดไปด้วยกันจนได้
แต่ว่ากงหยางอวี่ท้ายที่สุดก็ไม่สามารถรอดพ้นความตายไปได้ ถึงแม้เขาจะอาศัยความช่วยเหลือจากยันต์จักจั่นทองรอดพิบัติครั้งนี้ไปได้ แต่ในขณะที่หนีตายอยู่ก็ได้บาดเจ็บสาหัสแล้ว
ภายใต้การยิงของธนูวิญญาณไร้แก่นสาร พลันถูกยิงเข้าเป้าไปอย่างโชคไม่ดี หลังจากส่งเสียงกรีดร้องอย่างไม่ยินยอมออกมาเสียงหนึ่งก็กลายเป็นหมอกโลหิต ร่างสลายหายไปโดยสมบูรณ์
แม้จะเป็นเช่นนี้ก็ยังมิวายทำให้ในใจของหลินสวินเกลียดชังยิ่งอยู่ดี เพิ่งคิดจะไปไล่ล่าซูซิงเฟิงกับเหวินเสียง กลับเห็นเจ้าคางคกส่งเสียงร้องประหลาดออกมาเต็มแรง “จบกัน ข้าชักจะฝืนไม่ไหวแล้ว!”
เมื่อหันหน้าไปมองก็เห็นเจ้าคางคกโชกเลือดไปทั่วร่างจริงๆ เงาร่างซวนเซ ถูกอวิ๋นเช่อไล่สังหารกระทั่งอับจนหนทางเสียแล้ว
หลินสวินไม่สนใจสิ่งใดอีก เริ่มรุดเข้าช่วยเหลือ
“เฮอะ!”
อวิ๋นเช่อแค่นเสียงเย็นชา คล้ายกับไม่ใคร่เต็มใจ แต่ท้ายที่สุดเขาก็ตระหนักถึงสถานการณ์ที่แตกต่างไป ตัดสินใจเด็ดเดี่ยวแล้วหมุนกายจากไปทันที
“ไม่ต้องไล่ตามแล้ว แม่นางจ้าวยังอยู่ข้างใน!”
ครั้นเห็นว่าหลินสวินจะไล่สังหารอวิ๋นเช่อ เจ้าคางคกก็รีบร้อนเอ่ยเตือนทันควัน
หัวใจของหลินสวินสั่นไหว สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย การต่อสู้นี้ถึงแม้จะกินเวลาไม่นาน ทว่ากลับดังอึกทึกยิ่งนัก
กล่าวตามหลัก ไม่ว่าจะเป็นเซียวหรันหรือจ้าวจิ่งเซวียนก็น่าจะรู้สึกตัวตั้งแต่แวบแรกแล้ว ทว่าจนป่านนี้ทั้งสองกลับไม่เคยปรากฏตัวเลยแม้แต่น้อย
หรือว่า ในตำหนักใหญ่โบราณนั้นจะเกิดเหตุสุดวิสัยอะไรขึ้น
และตอนนี้เอง เงาร่างสายหนึ่งเดินออกมาจากตำหนักใหญ่ ย่างก้าวเยือกเย็น สันโดษเป็นเอกเทศ ท่วงท่าเบาหวิวปานหมอกควัน เป็นเซียวหรันนั่นเอง
เพียงแต่ กลับไม่เห็นเงาร่างของจ้าวจิ่งเซวียน
สิ่งนี้ทำให้หัวใจของหลินสวินหนักอึ้ง
____
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์