Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 618

สรุปบท ตอนที่ 618: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

อ่านสรุป ตอนที่ 618 จาก Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 618 คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 618 คัดลอกมรดกอริยมรรค
ตอนที่ 618 คัดลอกมรดกอริยมรรค
โดย
ProjectZyphon
“ไม่ต้องกังวลไป ข้าไม่ได้มีเจตนาร้าย” วานรเฒ่าน้ำเสียงอ่อนโยน

แต่หลินสวินจะไม่กังวลได้อย่างไร ขนาดพญาเผิงปีกทองกับเอกพญางูยังตกใจหนีกระเจิดกระเจิง แค่คิดก็รู้แล้วว่าวานรเฒ่าตัวนี้น่ากลัวขนาดไหน

เพียงแต่วานรเฒ่าต้องการจะพูดคุย กลับถูกรบกวนอยู่เรื่อย ก็เห็นว่าไม่ไกลนั้นตะขาบหยกมรกตตัวหนึ่งเคลื่อนกายมาเหมือนไม่สบอารมณ์

หรือพูดได้ว่า มันหมายจะชิงมหาศุภโชคที่อยู่กับตัวหลินสวินมาให้ได้ ถึงได้เคลื่อนตัดห้วงอากาศมาพร้อมส่งเสียงคำรามครั้งหนึ่ง

เปรี้ยง!

ร่างกายราวหยกมรกตของมันอวลไปด้วยแสงธรรมน่าหวาดหวั่น พลานุภาพสะท้านฟ้า

วานรเฒ่ามุ่นคิ้วเหมือนถูกยั่วโมโหในที่สุด ไม่ออมมืออีก

ได้ยินเสียงฟึ่บหนึ่งดังขึ้น เขายื่นมือออกไปแล้วฉีกตะขาบหยกมรกตตัวนั้นออกเป็นสองท่อนทั้งเป็น!

เลือดสดๆ สาดกระเซ็นราวน้ำตก เสียงร้องโหยหวนชวนหดหู่ดังไปทั่วฟ้าดินก่อนจะหยุดลงทันใด

ร่างสองท่อนของตะขาบหยกมรกตถูกวานรเฒ่าโยนลงบนพื้นเหมือนขยะอย่างไม่ใส่ใจเหมือนกระทำเรื่องที่ธรรมดายิ่งเรื่องหนึ่ง

สิ่งมีชีวิตน่ากลัวซึ่งไม่อ่อนแอกว่าราชันระดับสังสารวัฏตัวหนึ่งจะตายเช่นนี้หรือ

ทั้งที่นั้นตื่นตะลึง อึ้งงันไร้เสียง ผู้ฝึกปราณบางคนที่จับจ้องมาจากที่ไกลๆ ล้วนเหงื่อกาฬผุดพราย พากันถอยหลังไม่หยุดหย่อน

ต่อให้เป็นผีเสื้อที่มีขนาดเท่าใบลาน รวมถึงจิ้งจอกเขียวที่เหนือธรรมดา เวลานี้ล้วนเผยให้เห็นความพรั่นพรึงอย่างลึกล้ำ ถอยหนีออกไปไกล

“เก็บตัวมานานเกินไป ไม่ได้ปลิดชีพมาหลายปีแล้วเลยควบคุมพลังให้ดีไม่ได้ เดิมทีข้าไม่ได้คิดจะเอาชีวิตมัน ถึงอย่างไรการฝึกปราณก็ไม่ใช่เรื่องง่าย มาฆ่าแกงกันอย่างไม่มีต้นสายปลายเหตุ ก็ออกจะไม่มีเมตตาไปสักหน่อย”

วานรเฒ่าแจกแจงอย่างอดทน

ทุกคนพลันไม่รู้จะพูดอะไรแล้ว วานรเฒ่าผู้นี้มองปราดเดียวก็รู้ว่าเป็นผู้ที่สังหารเด็ดขาด ใจคอโหดเหี้ยม จะปรานีได้อย่างไร

หลินสวินไม่ได้เปิดโปง และไม่กล้าทำเช่นนี้ด้วย

วานรเฒ่าผู้นี้ยากหยั่งถึงเกินไปแล้ว เวลานี้ให้หลินสวินมีใจกล้าร้อยดวงก็ไม่กล้าบุ่มบ่ามหาเรื่อง

“พวกเราคุยกันถึงไหนแล้วนะ”

วานรเฒ่าไม่สนใจผู้อื่นอีก สายตาอบอุ่นมองมาทางหลินสวิน

“ผู้อาวุโสพูดถึงว่าพวกเรามีวาสนาต่อกัน”

หลินสวินเอ่ยเตือนเสียงเบา

“อ้อใช่ อายุมากแล้ว ความจำก็แย่เสียแล้ว”

วานรเฒ่าทอดถอนใจ ทำให้หลินสวินจนคำพูดอีกครั้ง มีพลังปราณน่าหวาดหวั่นเช่นนี้ มีชีวิตอยู่มาจนกลายเป็นโบราณวัตถุที่หยั่งรู้สรรพสิ่งในโลกาไปนานแล้ว ความจำจะแย่ได้อย่างไร

“แม้กล่าวว่าเจ้ากับเผ่าข้ามีวาสนาต่อกัน แต่คัมภีร์มรรคมรดกลับสูงสุดของเผ่าข้าไม่สามารถให้เจ้าเอาไปได้”

วานรเฒ่าพูดเช่นนี้ออกมา หลินสวินก็พลันหวาดหวั่นใจจนขนลุกอยู่บ้าง

อย่างที่คิด วานรเฒ่าตนนี้มาเพื่อเอาคัมภีร์ไป!

“ทว่าเจ้าไม่ต้องกังวล คัมภีร์เล่มนั้นถูกเจ้าชิงไปได้ส่วนหนึ่ง ก็ถือเป็นศุภโชคส่วนหนึ่งของเจ้า ข้าจะไม่บีบบังคับเอากลับไป กลับกัน จะมอบสิ่งทดแทนให้เจ้าบางอย่าง”

ดวงตากร้านโลกและสงบนิ่งของวานรเฒ่ามองดูหลินสวิน

สัตว์ประหลาดเฒ่านี่พูดดีขนาดนี้เชียวหรือ เจ้าคางคกกับจ้าวจิ่งเซวียนล้วนรู้สึกประหลาดใจอย่างยิ่ง

“ทดแทนด้วยอะไรหรือ” หลินสวินอดถามไม่ได้

“สิ่งที่คัมภีร์เล่มนี้บันทึกไว้คือความลับแห่งการฝึกอริยมรรค สำหรับเจ้าแล้ว แม้ว่าจะได้ไปตอนนี้ก็นำมาใช้ไม่ได้เลย”

วานรเฒ่าเอ่ยด้วยวาจาสุภาพ “แต่ว่า หากให้เจ้าเป็นฝ่ายมอบออกมาเอง คิดว่าเจ้าก็คงไม่ยินยอม ดังนั้นข้าจึงตัดสินใจให้เจ้าได้เห็นปริศนาทั้งหมดของคัมภีร์เล่มนี้ จำได้มากแค่ไหนก็ดูที่ปรีชาญาณของเจ้าแล้ว”

หลินสวินสั่นสะท้านในใจ รู้สึกเกินคาดหมายอย่างหาใดเปรียบ

เขาคิดไม่ถึงจริงๆ ว่าการทดแทนของวานรเฒ่าจะเป็นการให้ตนได้เห็นคัมภีร์อริยมรรคทั้งหมด!

หรือพูดอีกอย่างก็คือ นี่ก็เหมือนวาสนาไร้เทียมทานที่หยิบยื่นให้ถึงมือครั้งหนึ่ง!

คัมภีร์อริยมรรคฉบับสมบูรณ์เชียวนะ!

มันบันทึกความลับในการฝึกที่เกี่ยวข้องกับอริยมรรค เกรงว่าหากเปลี่ยนเป็นอริยะที่แท้จริง คงล้วนแต่จะคลั่งไคล้และใจเต้นเพราะมันแน่!

ทั้งที่เป็นเช่นนั้น วานรเฒ่าถึงกับจะ ‘ทดแทน’ ให้ตนส่งเดชอย่างนี้ นี่ทำให้หลินสวินรู้สึกเหมือนบุญหล่นทับใส่หัว

“หึ เจ้าอย่าเพิ่งดีใจเร็วไปนัก คัมภีร์อริยมรรคที่สมบูรณ์ประทับด้วยพลังอริยมรรค ให้เจ้าดูรอบเดียวแล้วอย่างไรเล่า ระดับของเจ้าต่ำต้อยเกินไปนัก ไม่มีทางหยั่งรู้ปริศนาภายในนั้นได้เลย!”

เจ้าคางคกที่อยู่ด้านข้างร้องหึหยัน ดูเหมือนถากถาง แต่แท้จริงเป็นการเตือนหลินสวินไม่ให้ถูกเรื่องพรรค์นี้ทำให้หลงไป

“ไม่เสียแรงที่เป็นลูกหลานของคางคกทองสามขา”

วานรเฒ่าชำเลืองมองเจ้าคางคกครั้งหนึ่ง ดวงตาปรากฏแววแปลกประหลาด “ที่เจ้าพูดก็ถูก วิชาลับอริยมรรคคลุมเครือลึกล้ำ แฝงไว้ซึ่งแก่นอัศจรรย์แห่งอริยมรรค เว้นแต่มีพลังปราณระดับอริยะ หาไม่แล้วย่อมได้รับคุณประโยชน์จากคัมภีร์ได้ยาก”

ทันใดนั้นหลินสวินก็พอเข้าใจแล้ว

สาเหตุที่วานรเฒ่าใจป้ำเช่นนี้ ที่แท้ก็คาดการณ์ไว้อยู่ก่อนแล้วว่า แม้จะได้ดูคัมภีร์ทั้งหมด สำหรับตนในตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์อะไรเลย

“เจ้าคิดว่าอย่างไร” วานรเฒ่าถาม

“ข้า…”

หลินสวินลังเลใจครู่หนึ่งแล้วเอ่ยอย่างฝืนใจตนเองว่า “ผู้อาวุโส การทดแทนนี้…ดูออกจะ…”

“ไม่จริงใจหรือ”

วานรเฒ่าจะยิ้มก็ไม่ใช่จะไม่ยิ้มก็ไม่เชิง พยักหน้าแล้วเอ่ยขึ้นทันควันว่า “ก็ได้ เจ้าคิดว่าควรจะทดแทนอย่างไร”

หลินสวินสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง กุมมือคารวะแล้วพูดว่า “ผู้น้อยสร้างเรื่องวุ่นวายใหญ่โตไว้ หากผู้อาวุโสสามารถส่งพวกเราออกจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์อย่างปลอดภัย ผู้น้อยรับรองว่าจะมอบคัมภีร์ที่ได้รับมาให้แต่โดยดี”

ในเวลาชี้เป็นชี้ตาย หลินสวินโคจรเคล็ดเวทบริกรรม หมู่ดาวในห้วงนิมิตเปล่งแสงแวววาว จันทราเทพแขวนตัวสูงเหนือท้องนภา โอฬารเหลือคณา

เขาไม่ไปพินิจเพื่อหยั่งรู้อีก แต่ใช้พลังจิตวิญญาณลอกเลียน สลักคัมภีร์อริยมรรคที่ทุกตัวอักษรมีค่าราวดาราให้ฝังลึกลงไปในจิตใจ

ตอนนี้ไม่อาจพินิจและหยั่งรู้ได้ ไม่ได้หมายความว่าภายภาคหน้าจะทำไม่ได้!

และสิ่งที่หลินสวินต้องการจะทำตอนนี้ ก็คือประทับคัมภีร์อริยมรรคเล่มนี้ไว้ในใจ

เมื่อถึงคราก้าวเข้าสู่อริยมรรค ก็จะสามารถไขปริศนาหยั่งรู้แก่นสารของมันได้ ทำให้ตนได้ครอบครองมัน!

หลินสวินนั่งขัดสมาธิ ท่าทางน่าเกรงขาม เจ้าคางคกและจ้าวจิ่งเซวียนที่อยู่ข้างๆ ก็มองอย่างอดอิจฉาไม่ได้ คัมภีร์อริยมรรคเชียวนะ ต่อให้ตอนนี้ไม่อาจหยั่งรู้ได้ แต่คุณค่าของมันก็เรียกได้ว่าประเมินค่ามิได้!

นี่เป็นมรดกที่ไร้สิ่งใดเทียบเทียม หากถูกราชันระดับสังสารวัฏที่ต้องก้าวข้ามอมตะนพเคราะห์ล่วงรู้เข้า ต้องอิจฉาตาร้อนจนบ้าคลั่งแน่

อริยมรรคหายากนัก เรียกได้ว่าสูงส่งยิ่ง หากสามารถเข้าสู่ระดับนี้ได้ และมีแรงสนับสนุนจากคัมภีร์ที่สมบูรณ์เล่มหนึ่ง เช่นนั้นก็เหมือนเสือติดปีก ไม่ต้องกลัดกลุ้มกับการฝึกบำเพ็ญอีก!

“ผู้อาวุโส พวกเราสามารถหยั่งรู้สักหน่อยได้หรือไม่”

เจ้าคางคกทำหน้าหนามองไปทางวานรเฒ่าอย่างเต็มไปด้วยความคาดหวัง

“มหามรรคมีเป็นพันหมื่น เมื่อผู้ฝึกปราณปฏิบัติตามข้อกำหนดมหามรรคแห่งตนแล้ว ก็จะสามารถขึ้นสู่จุดสูงสุดได้ มรดกนี้เป็นสิ่งตกทอดของเผ่าข้า ขัดกับมรดกลับแห่งสายเลือดคางคกทองสามขาของพวกเจ้า ข้าขอแนะนำให้เจ้าอย่าได้คิดเสียดีกว่า หาไม่แล้วเมื่อแก่นมรรคยุ่งเหยิง จะมีโทษไม่มีคุณต่อเจ้า”

วานรเฒ่าชี้แนะเช่นนี้ ทำให้ฝ่ายหลังพลันหม่นหมอง พึมพำว่า “เจ้าหนูนี่มันมีดีอะไรถึงทำได้ แต่ข้าทำไม่ได้เล่า”

วานรเฒ่ายิ้มน้อยๆ แล้วเอ่ยว่า “ตอนนี้เจ้าก็ไม่อาจหยั่งรู้เหมือนกัน หรือเจ้าคิดว่ามรดกอริยมรรคเป็นสิ่งที่ใครๆ ก็หยั่งรู้ได้หรือ”

เจ้าคางคกพลันเงียบไป นี่ไม่ใช่เรื่องเท็จ

ไม่นานนักหลินสวินก็ลืมตาขึ้นจากการนั่งสมาธิ หว่างคิ้วบังเกิดความอ่อนล้ายิ่ง

แม้ว่าเมื่อครู่เป็นการจารึกคัมภีร์นั้นไว้ในจิตใจ แต่ก็ใช้จิตวิญญาณมากเกินไป แทบจะรับไม่ไหวอยู่บ้าง

สาเหตุก็เพราะนี่เป็นถึงมรดกอริยมรรคที่สมบูรณ์ฉบับหนึ่ง! ภายในมีปริศนาไร้ที่สิ้นสุด คลุมเครือและสูงส่ง แม้เป็นการจารึกไว้ในใจก็เปลืองแรงถึงที่สุด

“จำได้มากขนาดไหน” เจ้าคางคกรีบร้อนเอ่ยถาม

“จำได้เกือบหมดกระมัง”

หลินสวินเอ่ยพึมพำ เวลานี้บนแท่นมรรคเก่าแก่เรียบง่ายในถ้ำสวรรค์ภายในกายเขา ประทับไปด้วยตัวอักษรคัมภีร์มรรคคลุมเครือบทหนึ่ง พร่าเลือนไม่ชัดเจน เป็นปริศนาไร้ที่สิ้นสุด

“จำได้หมดแล้วหรือ”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้วานรเฒ่าก็ไหวหวั่น แววตาเปลี่ยนเป็นแปลกประหลาด เดิมทีเขาคิดว่าหากเด็กหนุ่มจำอักษรในคัมภีร์ได้เพียงส่วนหนึ่งก็ถือว่าไม่เลวแล้ว

ใครจะคิดว่าเขาถึงกับจารึกไว้ในจิตใจได้ทั้งหมด!

นี่ทำให้วานรเฒ่าตื่นตะลึงอยู่บ้างอย่างอดไม่ได้ ชักไม่แน่ใจว่าการให้หลินสวินดูคัมภีร์มรรคสูงสุดที่ตกทอดมาในเผ่าครั้งนี้ เป็นเรื่องถูกหรือผิดกันแน่…

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์