หลินสวินครุ่นคิด ตลาดนัดโจมเมฆาหรือ นี่มันที่ไหนกัน
ยังมีชุมนุมประมูลสมบัตินั่นอีก ขุมอำนาจระดับไหนจัดขึ้นหรือ
หลินสวินพลันพบปัญหาหนึ่ง เรื่องที่ต้องทำตอนนี้คือต้องแน่ใจให้ได้ว่าน่านน้ำนี้คือที่ไหนกันแน่โดยเร็วที่สุด
หาไม่แล้วอย่าว่าแต่กลับไปยังจักรวรรดิจื่อเย่าเลย อาจต้องระเหเร่ร่อนอยู่ในผืนน้ำไร้ขอบเขตนี้ต่อก็เป็นได้
“จริงด้วย ก่อนนางอสูรมารนั่นจากไปได้พูดไว้ว่าเพื่อหลีกเลี่ยงการชักนำความวุ่นวายมาให้พวกเรา จึงขอลาไปก่อน นี่ออกจะชอบกลอยู่นะ”
เจ้าคางคกพลันเอ่ยปาก
หลินสวินอึ้งไปแล้วพูดว่า “ออกจะแปลกจริงด้วย”
“นางอสูรมารนั่นมาก็รีบร้อน ไปก็รีบร้อน คงไม่ได้หนีภัยอยู่ใช่ไหม”
เจ้าคางคกสันนิษฐานอย่างมีเจตนาร้าย
ก็ตอนนี้เอง บนท้องฟ้ายามราตรีไกลออกไปพลันบังเกิดแสงไหววูบเจิดจรัสหนึ่งเคลื่อนมาทางนี้ราวสายฟ้าแลบ สะดุดตาหาใดเทียบ
“เหมือนว่า…เจ้าจะเดาถูกแล้ว”
หลินสวินสังเกตได้ทันใดว่าแสงไหววูบนี้ไอสังหารพลุ่งพล่าน ดูแข็งกร้าวนัก
“พวกเจ้าเคยเห็นเด็กสาวสวมชุดกระโปรงเหลืองทั้งตัวไหม”
เสียงสวบดังขึ้น แสงไหววูบนั้นหยุดที่ห้วงอากาศไม่ไกลนัก ฉายให้เห็นร่างผอมบางร่างหนึ่ง
นัยน์ตาของเขาปรากฏแสงสีเขียว ไว้หนวดบริเวณเหนือริมฝีปาก แผ่นหลังโก่งเล็กน้อย สีผิวขาวซีดแทบโปร่งแสง ดูเหมือนอมโรค
แต่ท่าทีของเขากลับร้ายกาจ หยิ่งผยองข่มขู่ ยืนอย่างจองหองกลางห้วงอากาศ ดวงตาราวสายฟ้าเยียบเย็นเหลือบมองลงมายังหลินสวินกับเจ้าคางคกบนเรือลำน้อย เอ่ยถามด้วยเสียงเย็นชา
หลินสวินกับเจ้าคางคกสบตาอีกฝ่าย ดังคาด ยุ่งยากแล้ว
“ไม่เคยเห็น”
เจ้าคางคกขัดเคืองอยู่บ้าง รู้สึกได้ว่าเจ้าหมอนี่ไร้มารยาทไปแล้ว เหมือนไต่สวนนักโทษ วางท่าสูงส่ง วาจาก็แข็งกร้าวนัก
“บังอาจ!”
ชายร่างผอมบางสีหน้าถมึงทึง “บนเรือที่พวกเจ้าอยู่มีกลิ่นอายที่นางอสูรมารหลงเหลือไว้ชัดๆ ยังจะกล้าพูดปดตาใสหรือ”
“แหะๆ เจ้าดูออกแล้วจะถามพวกเราทำไมอีก ป่วยหรือไร”
เจ้าคางคกยิ่งไม่ชอบใจคนผู้นี้
เดิมทีเขากำลังคิดว่าหากคนคนนี้ท่าทีดีเสียหน่อย ประนีประนอมผ่อนปรน เขาก็ไม่ขัดข้องที่จะบอกความจริงอีกฝ่าย
แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนความคิดแล้ว
หลินสวินก็คิดเช่นนี้ ดังนั้นสายตาที่มองไปยังชายร่างผอมบางผู้นั้นจึงแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชาขึ้น
“กำเริบ! ที่ข้าถามพวกเจ้าก็เพื่อให้โอกาสพวกเจ้าได้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ เห็นเช่นนี้แล้ว เกรงว่าพวกเจ้าก็เป็นพวกเดียวกับนางอสูรมารนั่นล่ะสิ!”
ดวงตาของเขาเย็นชาอึมครึมเต็มไปด้วยจิตสังหาร
“เจ้าหมอนี่ทำสมองตกน้ำหรือไงนะ”
เจ้าคางคกถามหลินสวิน
“เจ้าให้เขาเขย่าหัวหน่อยสิ ดูซิว่าจะได้ยินเสียงน้ำทะเลหรือไม่ จะได้รู้ว่าสมองตกน้ำไปหรือเปล่า”
หลินสวินเอ่ยแนะนำอย่างจริงจัง
เจ้าคางคกอึ้งไป ทันใดนั้นก็อดหัวเราะท้องคัดท้องแข็งไม่ได้ “วิธีนี้ดียิ่งนัก”
พวกเขาสนทนากันราวกับไม่มีคนอื่น เยาะเย้ยถากถางชายร่างผอมบาง ทำให้ฝ่ายหลังสีหน้าเยียบเย็นหาใดเทียบ โกรธจนหนวดตรงมุมปากกระตุก
“พวกเจ้ารอก่อนเถอะ!”
ชายร่างผอมบางกัดฟัน พูดจบเขากลับสะบัดแขนเสื้อแล้วหันกายจากไป
นี่ทำให้หลินสวินกับเจ้าคางคกล้วนตะลึง เจ้าคนจองหองเช่นนี้ เพียงโยนคำขู่ที่ไม่ระคายเช่นนี้ก็ไปแล้วหรือ
พวกเขาไม่รู้ว่าชายร่างผอมดูเหมือนหยิ่งผยองข่มขู่ แข็งกร้าวถึงที่สุด แท้จริงแล้วไม่ใช่คนโง่เลย
กลับกัน เมื่อสังเกตเห็นท่าทางไม่หวาดหวั่นของหลินสวินกับเจ้าคางคก ในใจเขาก็รู้แล้วว่าสถานการณ์ออกชอบกล รับรู้ได้ถึงเค้าลางไม่ดี
ด้วยความระแวดระวัง เขาเลือกจากไปโดยไม่ลังเล ไม่กล้าบุ่มบ่ามลองเชิงอีก
“ฮ่าๆๆ ให้ตายสิ เมื่อกี้เกือบถูกมันหลอกแล้ว ที่แท้เป็นแค่เจ้าขี้ขลาดที่ดีแต่เปลือกคนหนึ่ง!”
เจ้าคางคกหัวเราะร่า
“ออกจะไม่ชอบมาพากล จับเขามาก่อนค่อยว่ากัน!”
ยามที่พูดออกมา หลินสวินก็หายไปจากเรือน้อยก่อนแล้ว เงาร่างราวภาพลวงตา ในพริบตาก็ตามชายร่างผอมบางผู้นั้นทัน
“แย่ล่ะ!”
ชายร่างผอมบางผู้นั้นพลันหน้าเปลี่ยนสี ตกใจจนหนีเต็มกำลัง
“สหายยุทธ์ ได้พบกันคือมีวาสนา เหตุใดต้องรีบร้อนจากไปเล่า”
หลินสวินยิ่งรู้สึกว่าเจ้าหมอนี่มีปัญหาเสียแล้ว
“หึ! ข้ายังมีเรื่องสำคัญ จะมาเสียเวลากับพวกเจ้าได้หรือ รีบถอยไป อย่าขวางทางข้า หาไม่ผลลัพธ์จะเป็นสิ่งที่เจ้าไม่อาจแบกรับไว้ได้!”
ชายร่างผอมตะคอกเสียงดุดัน สีหน้าเย็นชาน่าเกรงขาม
เพี๊ยะ!
เพิ่งพูดจบ ฝ่ามือของหลินสวินก็หวดตีหน้าผากเขาจนร้องโหยหวน เงาร่างโซซัดโซเซ แทบจะตกลงมาจากห้วงอากาศ
“เจ้ากล้านัก! เจ้าไม่รู้หรือว่าข้าเป็นใคร เจ้าหนู เจ้าจบสิ้นแล้ว หมางใจกับข้า บนสวรรค์และใต้หล้าไม่มีช่วยเจ้าได้แล้ว!”
เขาคำรามเดือดดาล
“ยังแสร้งทำอีกหรือ ข้าจะดูว่าเจ้าจะเสแสร้งได้ถึงเมื่อไร”
หลินสวินหัวเราะเหี้ยมเกรียม พุ่งออกไปแล้วตบฉาดอย่างแรง
ชายร่างผอมบางร้องเสียงหลงไม่ว่างเว้น ถูกตีจนหน้าผากบวมแดง เดือดดาลจนแทบคลั่ง เสียงร้องน่าหดหู่นั้นดังกระเพื่อมไม่หยุดหย่อนไปทั่วผืนน้ำยามราตรี พาให้ฝูงปลาที่อยู่ในน้ำตกใจว่ายหนีด้วยความตระหนก
สุดท้ายชายร่างผอมบางผู้นั้นก็ยอมแพ้แล้ว ร้องอ้อนวอนขอชีวิต “คุณชายไว้ชีวิตด้วย คุณชายไว้ชีวิตด้วยเถอะ!”
“โธ่ เมื่อครู่ไม่ได้ผยองมากหรอกหรือ เหตุใดตอนนี้กลายเป็นแบบนี้เสียล่ะ”
เจ้าคางคกก็วิ่งมาซ้ำเติม เยาะเย้ยชายร่างผอมบางผู้นั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์