หลินสวินตกปากรับคำอย่างยินดี
ชิงอวิ๋นหยางหาได้ลังเลอีก นำทางไปก่อน
ระหว่างทางหลินสวินเองจึงได้เข้าใจ ที่แท้การชุมนุมประมูลสมบัติครานี้ ขณะที่คนใหญ่คนโตของขุมอำนาจเผ่าพันธุ์มากมายกำลังมา ก็มีคนรุ่นเยาว์ผู้เป็นหน้าเป็นตาเฉกเช่นชิงอวิ๋นหยางมากมายติดตามมาด้วย
ในบรรดาคนรุ่นเยาว์เหล่านี้ไม่ขาดแคลนบุคคลชั้นยอดระดับบุตรเทพ แต่ละคนฐานะไม่ธรรมดา
ชิงอวิ๋นหยางก็ได้รับเทียบเชิญฉบับหนึ่ง จึงมาเข้าร่วมงานชุมนุมระหว่างเหล่าชนรุ่นเยาว์แต่ละเผ่าครานี้
หนึ่งเค่อผ่านไป ณ หอวาโยเมามาย
ที่นี่ถูกเหมาไว้หมดแล้ว นอกหอมีผู้แข็งแกร่งอาวุธพร้อมสรรพคอยเฝ้าระวัง หากไร้เทียบเชิญก็ไม่อาจเข้าไปข้างในได้เด็ดขาด
“เจ้าห้ามก่อเรื่องให้ข้าเด็ดขาด”
เมื่อมาถึงที่นี่ ชิงอวิ๋นหยางกำชับอีกครั้ง เหมือนยังคงไม่วางใจหลินสวิน
นี่ก็เป็นปกติ หากหลินสวินคือเด็กหนุ่มเทพมารนั่นจริง ก่อเรื่องเพียงครั้งเดียว ผลที่ตามมาคงรุนแรงหาใดเปรียบเป็นแน่!
นี่คืองานชุมนุมคนรุ่นเยาว์แต่ละเผ่า ถ้าหากว่าเกิดความขัดแย้งอะไรขึ้นใครจะแบกรับไหว
และจากที่ชิงอวิ๋นหยางเห็น หลินสวินคือบุคคลอันตรายและป่าเถื่อน เกรงว่าพอเขาฟังไม่เข้าหูแล้วจะฆ่าสังหารทั่วทิศ ดังนั้นจึงทำการกำชับครั้งแล้วครั้งเล่า
หลินสวินขบขันอยู่บ้าง เขาเป็นคนชอบหาเรื่องเช่นนั้นเสียที่ไหน
กระทั่งเพื่อไม่ให้ดึงดูดสายตาผู้คน ตั้งแต่ก่อนเหยียบเข้าเกาะโจมเมฆา เขาก็แต่งกายปลอมตัวอยู่ครู่หนึ่ง แม้แต่บุคลิกยังเปลี่ยนเป็นราบเรียบและธรรมดายิ่งกว่าเดิม ไม่ให้ดึงดูดสายตาผู้คน
ช่วยไม่ได้ ถ้าหากฐานะของเขาถูกเปิดเผย ผลที่ตามมาคงสาหัสเอาการ
ดังนั้นไม่ต้องให้ชิงอวิ๋นหยางกล่าวเตือน หลินสวินก็ไม่คิดเป็นฝ่ายหาเรื่องเองอยู่แล้ว
ทว่าแม้คิดเช่นนี้ หลินสวินยังคงตกปากรับคำชิงอวิ๋นหยางอย่างจริงจัง
“ที่แท้เป็นบุตรเทพเผ่าตะพาบเขียว เชิญ!”
ผ่านการตรวจสอบของยามอารักษ์ หลินสวินและชิงอวิ๋นหยางเข้าสู่หอวาโยเมามายอย่างราบรื่น
…
ชั้นสูงสุดหอวาโยเมามายคือโถงกว้างขวางโอ่อ่ายิ่งแห่งหนึ่ง เพียงพอบรรจุคนนับร้อย เรืองรองทองอร่าม
จากที่นี่ถึงขั้นสามารถมองเห็นเกาะโจมเมฆากว่าครึ่งเกาะ
เมื่อพวกหลินสวินมาถึง โถงใหญ่แห่งนี้มีผู้ฝึกปราณนั่งเต็มอยู่ก่อนแล้ว ล้วนแต่เป็นบุคคลผู้ปรีชาสามารถรุ่นเยาว์จากแต่ละเผ่า
บุรุษหล่อเหลาสตรีงดงาม เสื้อผ้าอาภรณ์แม้ต่างกันออกไป แต่กลิ่นอายแต่ละคนล้วนแข็งแกร่งหาใดเปรียบ แทบทั้งหมดต่างเป็นระดับหยั่งสัจจะ!
นี่ทำให้หลินสวินแอบทอดถอนใจอย่างอดไม่อยู่
ในจักรวรรดิจื่อเย่า ผู้ฝึกยุทธ์ระดับหยั่งสัจจะเช่นเหยาทั่วไห่ต่างสามารถครองความเป็นใหญ่เหนือมณฑล ได้รับความเลื่อมใสศรัทธาจากผู้ฝึกปราณนับไม่ถ้วน
แต่ในส่วนลึกทะเลกลืนวิญญาณนี่ ผู้แข็งแกร่งระดับหยั่งสัจจะกลับพบเห็นได้โดยทั่วไป ทั้งล้วนเป็นคนรุ่นเยาว์ หารุ่นอาวุโสไม่เจอสักคน
แค่เพียงกระบวนรบและจำนวนเช่นนี้ ก็ไม่ใช่สิ่งที่แวดวงผู้ฝึกปราณของจักรวรรดิจื่อเย่าทัดเทียมได้แล้ว!
“คุณชายอวิ๋นหยาง เหตุใดเจ้าถึงเพิ่งมาเอาป่านนี้”
ทันทีที่มาถึงทางเข้าโถง ก็มีชายหนุ่มคิ้วขมวดที่ผมม่วงทั้งศีรษะ สีหน้าท่าทางหยิ่งทะนงคนหนึ่ง ดูเหมือนไม่พอใจยิ่งที่ชิงอวิ๋นหยางโอ้เอ้ล่าช้า
ที่เหนือความคาดหมายหลินสวินคือ ชิงอวิ๋นหยางผู้หยิ่งทะนงหาใดเปรียบในอดีตที่ผ่าน เหมือนค่อนข้างหวาดกลัวชายหนุ่มผู้นี้ เผยความอักอ่วนวูบหนึ่ง ก่อนกล่าวอธิบาย “ขออภัย ข้า…”
“อย่าพูดมากไร้สาระ รีบเข้ามานั่งที่!”
ชายหนุ่มผมม่วงตัดบทอย่างหงุดหงิด ไม่มองชิงอวิ๋นหยางอีก ถอนสายตากลับไป
ชิงอวิ๋นหยางสีหน้าเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนอีก คล้ายมีโทสะอยู่บ้าง แต่ท้ายที่สุดยังอดกลั้นไว้ พาหลินสวินไปนั่งตรงมุมของโถงใหญ่
เวลานี้เหลือแค่ตำแหน่งตรงมุมที่ว่างอยู่
หลินสวินเห็นทุกอย่างนี้อยู่ในสายตา ใคร่ครวญบางสิ่งอย่างอดไม่อยู่ เขาไม่ได้ถามมากความ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ไม่เหมาะที่จะถามมากมาย
ในโถงใหญ่ครึกครื้นเป็นอย่างยิ่ง ชนรุ่นเยาว์แต่ละเผ่าผู้ปรีชาสามารถรวมตัวอยู่ภายในแน่นขนัด ชายหล่อเหลาหญิงงดงามต่างร่ำสุราเจรจาพาที
“พูดถึงชุมนุมประมูลสมบัติครั้งนี้ ข้อกำหนดแม้เรียกได้ว่ายิ่งใหญ่และเป็นประวัติการณ์ แต่ที่สามารถเข้าร่วมล้วนเป็นคนใหญ่คนโตรุ่นอาวุโส ไม่เกี่ยวข้องกับพวกเรามากเท่าใดนัก”
ทันใดนั้นบุรุษหนุ่มชุดดำคนหนึ่งซึ่งนั่งตรงที่นั่งหลักเอ่ยพูดเสียงดัง พลันดึงดูดสายตาทั้งหมดในโถงใหญ่
หลินสวินสังเกตเห็นอย่างฉับไว สายตาที่มองไปยังบุรุษหนุ่มชุดดำเหล่านั้น บ้างมากบ้างน้อยล้วนเคลือบความหวาดกลัวเสี้ยวหนึ่ง หรือไม่ก็เป็นความเคารพนับถือ
เห็นชัดว่าฐานะของบุรุษหนุ่มชุดดำคนนี้พิเศษยิ่งนัก โดดเด่นเหนือกว่าคนรุ่นเยาว์เผ่าอื่นๆ ณ ที่นั้นอยู่บ้าง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์