Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 641

สรุปบท ตอนที่ 641: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 641 – Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

บท ตอนที่ 641 ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 641 คุณชายหนีเร็ว
ตอนที่ 641 คุณชายหนีเร็ว
โดย
ProjectZyphon
“ให้ตายเถอะ ตระกูลหานคิดจะแตกหักกับเราจริงๆ หรือ ถึงได้ส่งมหายุทธ์ระดับหยั่งสัจจะขั้นสูงมาตามฆ่าพวกเรา!”

ชายหนุ่มชุดคลุมเขียวขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน สีหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ

เขามีนามว่าเย่ตงเคอ รูปร่างผอมบางตรงสง่าราวกับทวนเล่มหนึ่ง ผิวพรรณออกสีทองแดงเก่าแก่ ราวกับราดด้วยน้ำสำริด ให้ความรู้สึกเย็นชาและดุดัน

เย่ตงเคอและผู้หญิงอีกคน รวมทั้งผู้ติดตามกลุ่มหนึ่งกำลังถูกตามฆ่า ทำให้พวกเขาทั้งหวาดกลัวและเดือดดาลยากจะรับได้

คนที่ตามฆ่าพวกเขาคือมหายุทธ์ที่มีชื่อเสียงผู้หนึ่ง มาจากตระกูลหานซึ่งเป็นหนึ่งในสามตระกูลทรงอิทธิพลแห่งทะเลตะวันออกของจักรวรรดิ

และตระกูลหานก็เป็นศัตรูคู่อาฆาตกับขุมอำนาจของพวกเขา!

ที่ผ่านมาแม้จะเป็นขุมอำนาจที่เป็นปรปักษ์ต่อกัน พวกเขาก็ไม่เคยเกิดความขัดแย้งกัน เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายของทั้งสองฝ่าย

ทว่าครั้งนี้เพื่อช่วงชิงสายแร่วิญญาณสายหนึ่งในทะเลตะวันออก ตระกูลหานกลับระดมกำลัง ไอสังหารคละคลุ้ง ลงมืออย่างรุนแรง!

ทำให้พวกเย่ตงเคอไม่ทันได้เตรียมตัว

“มหายุทธ์ระดับหยั่งสัจจะขั้นสูงออกโรงแล้ว จะต้องฆ่าปิดปากกันไม่ให้พวกเราส่งข่าวกลับไปให้ตระกูล ขัดขวางกระบวนการยึดแร่วิญญาณอย่างเผด็จการของพวกเขาเป็นแน่”

หญิงสาวที่อยู่ข้างๆ รูปร่างแช่มช้อย หน้าตางดงามโดดเด่น สวมชุดกระโปรงสีม่วง ดูน่าเย้ายวนอย่างที่สุด

นางชื่อเย่หลิงถง เป็นคนตระกูลเย่แห่งทะเลตะวันออกเช่นเดียวกับเย่ตงเคอ

เพียงแต่ตอนนี้ใบหน้างดงามของเย่หลิงถงกลับเย็นเยียบและเดือดดาลอย่างที่สุดไม่ต่างกัน โกรธจนกัดฟันแน่น ดวงตาคู่กระจ่างปานดาราเปี่ยมด้วยเพลิงโทสะ

“ครั้งนี้หากรอดไปได้ ข้าจะเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า!”

เย่ตงเคอสีหน้าอึมครึม

“ยังมีโอกาสหรือ”

มุมปากของเย่หลิงถงเผยแววขมขื่น ข้างหลังพวกเขามีมหายุทธ์ระดับหยั่งสัจจะขั้นสูงผู้หนึ่งไล่ตามมาอย่างเต็มกำลัง เกรงว่าอีกไม่นาน ก็จะสกัดกั้นพวกเขาเอาไว้

ในสถานการณ์เช่นนี้ จะมีโอกาสหนีรอดไปได้อย่างไร

คราวนี้ตระกูลหานโหดเหี้ยมจริงๆ ถึงกับส่งมหายุทธ์ระดับหยั่งสัจจะขั้นสูงมาลงมือ เห็นได้ชัดว่าไม่คิดจะปล่อยให้พวกเขารอดชีวิตกลับไป!

เย่ตงเคอเองก็เงียบ ความเศร้าหมองและไม่จำยอมแวบผ่านเข้ามาในดวงตา จะยอมแพ้แบบนี้หรือ

ด้านหลังพวกเขา กลุ่มผู้ติดตามกลัวจนหน้าเสียไปนานแล้ว สีหน้าซีดเซียว จิตใจหวาดหวั่นพรั่นพรึง

‘วิ่งหนีเหมือนหมาจรจัด น่าขายหน้าจริงๆ…’ เย่ตงเคอดูถูกตัวเอง

แต่ไม่ว่าอย่างไร ไม่ถึงท้ายที่สุดพวกเขาก็จะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด!

ฟุ่บๆๆ!

บนผิวมหาสมุทรสีคราม พวกเขาหนีสุดกำลัง ร่างกายราวกับสายรุ้งโดดเด่นเป็นประกาย ตอนนี้ห่วงแต่หนีเอาชีวิตรอด พวกเขาจึงไม่ทันได้อำพรางร่องรอย

“หืม?”

ทันใดนั้นเย่หลิงถงพลันตกตะลึง เมื่อเห็นว่ามียานสำเภาลำหนึ่งลอยบนพื้นผิวมหาสมุทรข้างหน้า เด็กหนุ่มชุดขาวพระจันทร์คนหนึ่งกำลังนอนอาบแดดสบายใจเฉิบอย่างเกียจคร้านอยู่บนดาดฟ้า

ท่าทางผ่อนคลายแบบนั้นทำให้เย่หลิงถงสะเทือนใจ ในใจยิ่งทวีความขมขื่น นางคิดถึงความสะบักสะบอมและสิ้นหวังของตนในขณะนี้ เมื่อเทียบกับความผ่อนคลายของเด็กหนุ่มคนนั้นแล้ว ช่างต่างกันราวสวรรค์กับนรก

“แย่แล้ว!”

ชั่วขณะนั้นเอง เย่ตงเคอที่นำทางมาพลันหรี่ตาลง เขาสัมผัสได้ถึงพลังแข็งแกร่งที่ม้วนตัวเข้ามาปานพายุ

นี่ทำให้พวกเขาต่างตัวแข็งทื่อไปตามๆ กัน หัวใจราวกับหล่นไปอยู่ตรงตาตุ่ม สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง พลังนี้เคลื่อนตัวรวดเร็วเหลือเกิน!

นี่คือความน่าสะพรึงกลัวของระดับหยั่งสัจจะขั้นสูงงั้นหรือ

“เหอะๆ ก็แค่พวกมดฝูงหนึ่ง ชีวิตของพวกเจ้าไม่ได้ขึ้นอยู่กับพวกเจ้าตั้งแต่พริบตาที่ตกเป็นเป้าของข้าหานอวิ๋นฉงแล้ว!”

เสียงหัวเราะเยาะที่แฝงความดูถูกดังแว่วขึ้น ราวกับสายฟ้าโหมกระหน่ำ สั่นสะท้านอยู่ท่ามกลางฟ้าดิน

ลำแสงพุ่งตรงดุจสายรุ้งกวาดผ่านอากาศอย่างรวดเร็วจากระยะไกลสุดขีดพร้อมกับเสียงนั้น

จบกัน!

พวกเย่ตงเคอและเย่หลิงถงหน้าซีดโดยพร้อมเพรียง ความสิ้นหวังพลุ่งพล่านขึ้นในใจอย่างห้ามไม่อยู่

หานอวิ๋นฉง มหายุทธ์ระดับหยั่งสัจจะขั้นสูงคนหนึ่งที่ชื่อเสียงโด่งดังอย่างมากในทะเลตะวันออก การฝึกปราณเรียกได้ว่าลึกล้ำพรั่งพร้อม ท่องทะยานอยู่ในทะเลตะวันออกมาหลายทศวรรษ สังหารศัตรูแกร่งกร้าวมาแล้วไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ เป็นผู้แข็งแกร่งคนหนึ่งในบรรดาคนรุ่นอาวุโสอย่างแน่นอน

ถ้าหากผู้แข็งแกร่งระดับสูงของตระกูลเย่อยู่ด้วย ก็คงไม่กลัวหานอวิ๋นฉงจู่โจม แต่คนที่อยู่ในที่นี้ตอนนี้ล้วนเป็นเพียงผู้ฝึกปราณระดับมหาสมุทรวิญญาณ เมื่ออยู่ต่อหน้ามหายุทธ์ระดับหานอวิ๋นฉง ก็ไม่ต่างอะไรกับมดที่สะกิดเพียงเล็กน้อยก็พังทลาย

ในสถานการณ์แบบนี้จะไม่ให้พวกเขาสิ้นหวังได้อย่างไร

“หานอวิ๋นฉง เจ้าในฐานะผู้อาวุโส จะสังหารพวกเราให้สิ้นซากจริงๆ หรือ หากตระกูลเย่ของข้ารู้เข้า เกรงว่าเจ้าจะรับผลกระทบไม่ไหว!”

เย่ตงเคอพูดเสียงเย็น

“หึ จะตายอยู่แล้ว ยังจะข่มขู่ข้าอีกหรือ”

หานอวิ๋นฉงแค่นเสียงอย่างเย็นเยียบ สายตาเหี้ยมโหด “ไม่ต้องห่วง วันนี้ถ้าฆ่าพวกเจ้าให้หมด บนโลกนี้ใครจะรู้ว่าเป็นฝีมือข้า”

พูดถึงตรงนี้เขาพลันตะลึง ด้วยสายตาเหลือบไปเห็นหลินสวินที่อยู่ไม่ไกลนัก แต่เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงแค่เด็กหนุ่มที่กลิ่นอายเรียบง่ายไม่ลึกลับซับซ้อนจึงเลิกสนใจทันที

แต่เมื่อเห็นภาพนี้สีหน้าของเย่หลิงถงพลันเปลี่ยนไป รีบพูดว่า “สหาย รีบหนีไปเร็ว หากโจรเฒ่านี่ลงมือ จะต้องฆ่าปิดปากอย่างแน่นอน เจ้าอยู่ที่นี่จะต้องโดนลูกหลงไปด้วยแน่!”

เด็กหนุ่มคนนั้นก็คือหลินสวินนั่นเอง

ทีแรกเขากำลังดื่มด่ำอยู่กับความเงียบสงบที่หาได้ยากนี้ คาดไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องอย่างที่เห็นอยู่นี้ขึ้น จึงเสียอารมณ์ไปทันที

แต่เขาเองก็ดูออกว่าการตามฆ่าในครั้งนี้ไม่ได้พุ่งเป้ามาที่ตน เป็นเพียงแค่เรื่องบังเอิญเท่านั้น จึงเฝ้าติดตามสถานการณ์อยู่เงียบๆ ไม่อยากเข้าไปยุ่ง

แต่เมื่อได้ยินคำเตือนของเย่หลิงถงกลับทำให้หลินสวินรู้สึกดีขึ้นมา พบกันโดยบังเอิญเท่านั้น อีกฝ่ายกลับเอ่ยเตือนด้วยความหวังดี หายากจริงๆ

หานอวิ๋นฉงอดขำไม่ได้ “นางหนู เจ้าไม่รู้สึกน่าตลกหรือ มีข้าอยู่ เจ้าคิดว่าเด็กหนุ่มคนนั้นจะหนีไปได้หรือ”

“ดูไม่ออกเลยว่าเด็กหนุ่มอย่างเจ้าก็พอจะมีฝีมือ สามารถต้านทานการโจมตีของข้าได้ ก็ถือว่าเป็นคนเก่งกาจในบรรดาคนรุ่นเยาว์แล้ว”

หานอวิ๋นฉงขมวดคิ้วน้อยๆ กล่าว

ในสายตาเขากลิ่นอายในตัวหลินสวินนั้นเรียบง่ายไม่ซับซ้อน ไม่มีความพิเศษเลยสักนิด แต่เด็กหนุ่มคนนี้กลับต้านทานการโจมตีของเขาได้ เห็นได้ชัดว่าไม่ธรรมดา

‘เขาเป็นคนคลี่คลายเคราะห์ครั้งนี้ให้จริงๆ ด้วย’ ในที่สุดเย่หลิงถงก็มั่นใจแล้ว แต่นางกลับไม่กล้าเชื่อ

หานอวิ๋นฉงเป็นถึงมหายุทธ์ระดับหยั่งสัจจะขั้นสูง เขาเหมือนโจมตีลวกๆ แต่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถต้านทานได้!

ไม่เพียงแค่เย่หลิงถง พวกเย่ตงเคอเองก็ไม่อยากจะเชื่อ ทุกอย่างเมื่อครู่นี้เกิดขึ้นไวเกินไป ไวจนพวกเขาเกือบจะรู้สึกตาลาย

เหตุผลนั้นง่ายมาก เพราะระดับห่างกันเกินไป ทำให้การตอบสนองของพวกเขาไม่สามารถเทียบกับระดับหยั่งสัจจะได้

“แต่ว่า พอแค่นี้เถอะ ไม่ว่าเจ้าจะเป็นใครก็สู้ข้าไม่ได้หรอก”

หานอวิ๋นฉงท่าทางเฉยเมย อานุภาพยิ่งทวีความโหดเหี้ยมและน่าสะพรึงกลัว

สำหรับระดับหยั่งสัจจะขั้นสูง ในจักรวรรดิจื่อเย่าล้วนสามารถเป็นใหญ่ในฝ่ายหนึ่งได้ อานุภาพสะเทือนไปทั้งมณฑล แน่นอนว่าย่อมไม่เห็นคนรุ่นเยาว์อยู่ในสายตา

ตูม!

เขาก้าวออกมา อากาศระเบิดคำรามราวกับทรุดทลายลง แสงพลังน่าสะพรึงกระจายออกจากร่างของเขา

เพียงชั่วพริบตาลมเมฆสั่นไหว มหาสมุทรเดือดดาลอย่างสิ้นเชิง

“ตาย!”

หานอวิ๋นฉงฟาดฝ่ามือลงไป ท่วงทำนองแห่งมรรคคำราม เส้นผมของเขาแผ่สยาย นัยน์ตามีสายฟ้าเยียบเย็นไหลหลั่ง ทำให้สีหน้าของทุกคนพลันเปลี่ยนไปฉับพลัน

พวกเย่หลิงถงและเย่ตงเคอล้วนสัมผัสได้ถึงแรงกดดันจนหายใจแทบไม่ออก ราวกับตกนรกอันร้อนเร่ารุนแรง

“คุณชายหนีเร็ว!” เย่หลิงถงเตือนหลินสวินอย่างร้อนรน

แต่กลับเห็นหลินสวินราวกับไม่รู้สึกรู้สา เพียงเงยหน้าขึ้นมองหานอวิ๋นฉงแวบหนึ่ง ดวงตาดำขลับเผยความดูถูกอย่างไม่อาจอธิบายเป็นคำพูดได้

ในขณะเดียวกัน พลังที่เดิมทีประหนึ่งมังกรจำศีลภายในร่างของหลินสวิน ถูกปลดปล่อยออกมาราวกับหินหนืดในชั่วพริบตานี้

ราวกับสัตว์ปีศาจไร้เทียมทานบรรพกาลฟื้นตื่นขึ้นในร่างกายของหลินสวิน กลิ่นอายน่าพรั่นพรึงแผ่กระจายออกมา แทรกซึมทั่วฟ้าดินในทันที ทำให้ห้วงอากาศทุกชุ่นพลังทลาย ฟ้าดินร้องคำราม

ส่วนฝ่ามือที่หานอวิ๋นฉงสะบัดออกมา ยังไม่ทันกระทบบนร่างกายของหลินสวินก็ถูกกลิ่นอายสายหนึ่งบดขยี้ สลายพลังฝ่ามือนั้นให้กลายเป็นละอองแสงปลิวว่อน

กร๊อบ!

และในเวลาเดียวกัน เสียงกระดูกแตกหักดังแว่วขึ้น พลันเห็นว่ามือขวาของหานอวิ๋นฉงที่ยื่นออกมาถึงกับถูกสายฟ้าผ่าจนเลือดอาบเนื้อหลุด เอ็นกระดูกแตกหัก!

และนี่ เป็นเพียงอานุภาพที่แผ่กระจายออกจากตัวหลินสวินเท่านั้น ตั้งแต่ต้นจนจบเขายังไม่ได้ลงมืออย่างแท้จริงเลย

…………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์