Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 658

สรุปบท ตอนที่ 658: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

อ่านสรุป ตอนที่ 658 จาก Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 658 คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 658 คลื่นลมเคลื่อนทั่วสารทิศ
ตอนที่ 658 คลื่นลมเคลื่อนทั่วสารทิศ
โดย
ProjectZyphon
หลังจากครึ่งปี หลินสวินที่ขุมอำนาจมากมายแห่งนครต้องห้ามคิดว่าตายไปนานแล้วหวนคืนสู่นครต้องห้าม เปิดฉากสะสางบัญชีครั้งใหญ่วันนั้น

ค่ำคืนนี้ ถูกกำหนดไว้แล้วว่าจะต่างจากแต่ก่อน และเห็นได้ว่าเนิ่นนานเป็นพิเศษ

ราตรีกาลนี้ หลินสวินตัวคนเดียวฟาดฟันคนใหญ่คนโตชั้นสูงจำนวนหนึ่งของสามตระกูลรองธารประจิม คานเมฆา ยอดวายุ หลังจากหลินซีซีมหายุทธ์ระดับกระบวนแปรจุติถูกเอาชนะ ม่านการสะสางบัญชีนี้ก็ถูกเปิดออก

ยามรุ่งสางอรุณแจ้ง บนภูเขาชำระจิต

พวกหลินจง เสี่ยวเคอ จูเหล่าซาน รวมถึงหลินไหว่หยวนออกทำการเคลื่อนไหวฉับไว ส่งตัวกำลังคนทั้งหมดรับช่วงดูแลกิจการและอำนาจทั้งหมดที่สามตระกูลรองควบคุม

เสมือนสับเปลี่ยนอำนาจเก่าใหม่ ด้วยมีฉากสังหารนองเลือดของหลินสวินเป็นการข่มขวัญ ปฏิบัติการนี้จึงดำเนินไปอย่างราบรื่นยิ่ง เป็นไปตามระเบียบแบบแผน ตั้งแต่ต้นจนจบไม่ประสบอุปสรรคอันใด

คนในสามตระกูลรอง ธารประจิม คานเมฆา ยอดวายุ ทั้งหมดต่างตื่นตระหนก โศกเศร้า ไม่พอใจ และถูกบังคับให้ต้องยอมรับทุกอย่างนี้ ไม่มีใครกล้าต่อต้านและไม่ให้ความร่วมมืออีก

พวกเขายอมอยู่ใต้อาณัติ นี่ก็คือค่าตอบแทนที่ผู้สวามิภักดิ์ต้องจ่าย บางทีพวกเขาอาจไม่สามารถเข้าใจและยอมรับได้อย่างสิ้นเชิงชั่วคราว แต่ทั้งหมดนี้ล้วนกำลังเกิดขึ้น อิทธิพลยิ่งใหญ่ไม่อาจฝืน!

นับจากค่ำคืนนี้ ตระกูลหลินซึ่งแตกแยกเพราะเหตุการณ์นองเลือดเมื่อสิบกว่าปีก่อน จะหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวในที่สุด

หลังจากนี้จะไม่มีสิ่งที่เรียกว่าตระกูลหลินแห่ง ‘ธารประจิม คานเมฆา ยอดวายุ แสงอุดร’ อีก ทั้งหมดล้วนถูกกลืนสู่ ‘ตระกูลหลินแห่งภูเขาชำระจิต’!

กลางดึกคืนเดียวกัน ณ ตระกูลฉือ

เสียงกระดิ่งลมใสไพเราะเพราะพริ้งดังขึ้นพักหนึ่ง ทำให้ฉือฉางเหมยซึ่งนั่งสมาธิในบ่อน้ำพุร้อนตกใจตื่น

คิ้วพาดเฉียงดุจดาบของนางพลันขมวด ปกติเวลานางปิดด่านน้อยคนนักจะกล้ามารบกวนนาง

เห็นได้ว่าราตรีนี้ต้องมีเรื่องใหญ่อะไรเกิดขึ้นแน่

ลองคิดดูแล้วนางจึงหยัดกายจากบ่อน้ำพุร้อน การเคลื่อนไหวแคล่วคล่องเป็นธรรมชาติ ขณะนี้นางร่างไร้ไหมถักทอ เผยผิวขาวดุจหิมะที่มีเนินเนื้ออวบอิ่มและเรียวขายาวดั่งหยกคู่หนึ่ง ปล่อยให้หยาดน้ำอุ่นกลิ้งร่วงลงจากตัว

ที่นี่คือสถานที่ปิดด่านฝึกสมาธิของนาง อยู่คนเดียวโดยตลอด จึงคุ้นเคยกับการกระทำเช่นนี้มานานแล้ว

“เกิดเรื่องอันใดขึ้น”

ยามหญิงรับใช้เข้ามา ฉือฉางเหมยได้ห่อหุ้มตัวด้วยชุดคลุมอาบน้ำและนั่งอยู่ริมบ่อน้ำพุร้อนแล้ว ผมดำขลับยาวสลวยทั้งศีรษะแผ่สยาย สีหน้าเคลือบแฝงความเกียจคร้านวูบหนึ่ง

“คุณหนู เมื่อครู่มีข่าวส่งมา ตระกูลหลินแห่งธารประจิมเกิดการต่อสู้น่าอนาถ ตามที่หน่วยสอดแนมรายงาน ยามนั้นกลุ่มคนชั้นแนวหน้าของสามตระกูลรองแห่งตระกูลหลิน ธารประจิม คานเมฆา ยอดวายุต่างรวมตัวอยู่ที่นั่น เกือบทั้งหมดสิ้นชีพในการต่อสู้น่าสังเวชนี้”

“อะไรนะ”

ฉือฉางเหมยนัยน์ตาหดรัดทันใด

ช่วงก่อนหน้านี้ นางคร้านจะใส่ใจขุมอำนาจสามตระกูลรองของตระกูลหลิน ถึงอย่างไรเป็นแค่ขุมกำลังเล็กๆ เทียบไม่ได้แม้แต่ตระกูลทรงอิทธิพลชั้นล่าง

ทว่าตั้งแต่หลินสวินยิ่งใหญ่ขึ้นในนครต้องห้าม ฉือฉางเหมยจึงได้สนใจตระกูลหลินขึ้นมา

“ใครเป็นคนทำ”

ฉือฉางเหมยไม่เข้าใจอยู่บ้าง เท่าที่นางรู้ ครึ่งปีมานี้หลังจากหลินสวินถูกยืนยันว่าเสียชีวิตในส่วนลึกทะเลกลืนวิญญาณไปนานแล้ว สามตระกูลรองแห่งตระกูลหลินซึ่งได้รับการสนับสนุนจากตระกูลทรงอิทธิพลชั้นสูงจั่วและฉินก็ไม่เกรงกลัวสิ่งใดยิ่งกว่าเดิม

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ คืนนี้กลับเกิดเรื่องน่าอนาถเช่นนี้ขึ้น นี่เห็นได้ชัดว่าผิดปกติเกินไปแล้ว

“ตามข่าวแจ้งว่าหลินสวินเป็นคนทำทั้งหมดนี้”

หญิงรับใช้ตอบอย่างรวดเร็ว

“หลินสวิน?”

ฉือฉางเหมยตื่นตระหนกหยัดตัวขึ้นมา ความเกียจคร้านที่เจืออยู่จางหายไปอย่างไร้ร่องรอย เปลี่ยนเป็นความประหลาดใจ “เรื่องนี้เป็นจริงรึ”

นางดูสูญเสียการควบคุมอยู่บ้าง น้ำเสียงย้อนถามแฝงการซักไซ้เคร่งขรึม

หญิงรับใช้พลันร่างแข็งทื่อ ตกใจจนรีบรนกล่าว “เป็นข่าวที่หน่วยสอดแนมของเราส่งกลับมาเจ้าค่ะ ข้าน้อยไม่อาจตัดสินชี้ชัดว่าจริงหรือเท็จ”

“คนตายคนหนึ่งทำไมจู่ๆ ถึงปรากฏตัวได้ ซ้ำยังสังหารพวกคนชั้นแนวหน้าของสามตระกูลรองด้วยตัวคนเดียว ฝีมือเหี้ยมโหดอำมหิตจริงๆ…”

ฉือฉางเหมยตกตะลึงถึงที่สุด

แต่เมื่อลองคิดอย่างถี่ถ้วน ตามที่นางรู้จักหลินสวิน รูปแบบการกระทำเช่นนี้คล้ายเขายิ่งนัก กระทำการอันธพาลไม่หวาดกลัวสิ่งใดเหมือนกัน ยามป่าเถื่อนขึ้นมายังกล้าบีบบังคับให้หลิงเทียนโหวคุกเข่าต่อหน้าธารกำนัล

“หรือจะเป็นเขากลับมาจริงๆ”

จู่ๆ ในใจฉือฉางเหมยพลันหนักอึ้ง ยามรู้ข่าวว่าหลินสวินตายจากไป นางก็เหมือนยกภูเขาออกจากอก สบายใจหาใดเปรียบ แค่คิดก็รู้แล้วว่าก่อนหน้านี้หลินสวินมอบความกดดันแก่นางมากเพียงใด

แต่ไม่คาดคิด เจ้าคนป่าเถื่อนพรรค์นี้กลับเป็นไปได้ว่ายังไม่ตาย!

ถัดจากนั้นเสียงกระดิ่งใสเพราะพริ้งดังขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า หญิงรับใช้คนแล้วคนเล่ารีบเร่งมารายงาน

“คุณหนู หน่วยสอดแนมแจ้งข่าวกลับมา วันนี้หัวหน้าทหารยามหูจิ่วอีที่เฝ้าประตูเมือง เห็นกับตาว่าหลินสวินมีชีวิตรอดและหวนกลับมานครต้องห้าม”

“คุณหนู ได้รับการยืนยันแล้วว่ายามสายัณห์วันนี้ หลินสวินไปเยือนตระกูลหลินแห่งธารประจิมตัวคนเดียว และสังหารบุคคลชั้นแนวหน้าของสามตระกูลรองลงตรงนั้น!”

“คุณหนู มีข่าวใหม่ส่งมา ได้รับการยืนยันแล้วว่ามหายุทธ์หลินซีซีพ่ายแพ้ต่อหลินสวิน คืนนี้สามตระกูลรองสวามิภักดิ์ต่อตระกูลหลินแห่งภูเขาชำระจิตอย่างเป็นทางการ!”

แต่ยามนี้ข่าวกลับบอกว่า เด็กหนุ่มคนนี้สังหารจนมหายุทธ์ระดับหยั่งสัจจะกลุ่มหนึ่งปลิดปลิวราวบุปผาร่วงลงสายน้ำไหล แม้แต่มหายุทธ์ระดับกระบวนแปรจุติยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา นี่มันเห็นได้ชัดว่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว เปลี่ยนเป็นคนอื่นเกรงว่ายังล้วนไม่อาจเชื่อในทันที

“ข่าวไม่มีทางเป็นเท็จ แต่การเคลื่อนไหวล้างแค้นของเขาคืนนี้ บางทีอาจไม่เหมือนดังข่าวสารที่ว่าเขาทำด้วยตัวคนเดียว เบื้องหลังอาจมีคนใหญ่คนโตที่แท้จริงหนุนหลังเขาอยู่!”

ขุมอำนาจมากมายวิเคราะห์ในตอนท้ายสุด คิดว่าคำอธิบายเช่นนี้จึงจะสมเหตุสมผล หากกล่าวว่าอาศัยหลินสวินเพียงคนเดียว ก็สามารถบดขยี้ธรณีประตูสามตระกูลรองของตระกูลหลินจนบี้แบน ทำให้ระดับกระบวนแปรจุติก้มหัวสวามิภักดิ์ พวกเขาคงไม่อาจเชื่อและยอมรับ

“ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ที่สามารถยืนยันได้คือเจ้าเด็กนี่น่าจะมีชีวิตรอดกลับมาจริง…”

ราตรีนี้คนใหญ่คนโตนับไม่ถ้วนถูกทำให้ตื่น นครต้องห้ามยามดึกยิ่งเต็มไปด้วยสายสืบเหลือคณานับ ออกสืบเสาะซักถามข่าวเกี่ยวกับตระกูลหลินแห่งภูเขาชำระจิตดั่งกระแสวารี ตามหาความจริงของเบื้องหลังทุกประการ

ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะ… หลินสวินกลับมาแล้ว!

ครึ่งปีก่อนเด็กหนุ่มคนนี้ผงาดในนครต้องห้ามอย่างกร้าวแกร่ง สรรสร้างเหตุการณ์เคียงตำนานเรื่องแล้วเรื่องเล่า ประดุจปีศาจไร้เทียมทานตนหนึ่ง ชื่อเสียงขจรขจายไปทั่วอยู่ก่อนแล้ว ถูกคนใหญ่คนโตจากขุมอำนาจใหญ่ๆ นับไม่ถ้วนจดจำ

เมื่อทราบข่าวการตายของเขา มีทั้งคนเป็นสุขบนทุกข์ของผู้อื่น และมีคนทอดถอนใจด้วยเสียดาย

เพียงแต่ใครต่างก็ไม่คาดคิด ว่าเขายังมีชีวิตอยู่!

…..

ณ ตระกูลจั่ว

ในฐานะที่เป็นหนึ่งในเจ็ดตระกูลทรงอิทธิพลชั้นสูง ค่ำคืนนี้ก็ถูกทำให้ตกใจตื่นเช่นเดียวกัน โคมตะเกียงจุดสว่าง เปิดประชุมเป็นการเร่งด่วน

ณ ตระกูลฉิน

สถานการณ์ก็คล้ายคลึงตระกูลจั่ว บุคคลชั้นแนวหน้าแต่ละคนถูกเรียกระดมพลจากทุกแห่งหน รวมตัวกันถกเถียงปรึกษาแผนการรับมือ

ในครึ่งปีนี้ ผู้ที่กดขี่ตระกูลหลินแห่งภูเขาชำระจิตบ่อยที่สุดอาจเป็นสามตระกูลรองของตระกูลหลินนั่น แต่ทุกคนต่างรู้ว่าที่สามตระกูลรองไม่เกรงกลัวสิ่งใดเช่นนี้ เป็นเพราะเบื้องหลังพวกเขามีตระกูลจั่วและตระกูลฉินอยู่!

มาตอนนี้หลินสวินหวนกลับมาแล้ว และคืนเดียวกันนี้ยังยกดาบเพชฌฆาตเข้าสังหารสามตระกูลรอง เช่นนี้แล้วจะให้ตระกูลจั่วและฉินนั่งนิ่งเฉยได้อย่างไร

แม้แต่ส่วนลึกราชวังแห่งนครต้องห้าม ล้วนเป็นเพราะข่าวเหล่านี้ก่อให้เกิดความตื่นตระหนกและการจับตามองมากมาย เพียงแต่มีคนน้อยนักที่จะรู้เท่านั้น

“ในนครต้องห้าม จะเกิดมรสุมขึ้นอีกครั้งแล้ว!”

ค่ำคืนนี้ไม่ว่าใคร ไม่ว่าขุมอำนาจใด ต่างรับรู้ร่วมกันโดยพร้อมเพรียง ว่าเมื่อหลินสวินมีชีวิตหวนกลับมา ก็หมายความว่าความวุ่นวายซึ่งไม่อาจคาดเดากำลังจะเปิดฉากตามมาด้วย

เพราะบนตัวเด็กหนุ่มคนนี้มีจุดที่ผิดปกติธรรมดามากเกินไป เขาดูเหมือนเป็นแค่เด็กหนุ่มคนหนึ่ง แต่กลับมีอิทธิพลยิ่งใหญ่ สามารถทำให้นครต้องห้ามสั่นคลอนได้!

…………………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์