Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 659

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 659 อิทธิพลของคนผู้หนึ่ง
ตอนที่ 659 อิทธิพลของคนผู้หนึ่ง
โดย
ProjectZyphon
ตะวันลอยขึ้นห้วงนภา รุ่งอรุณทอแสงเบิกฟ้า วันใหม่มาเยือนแล้ว

คนธรรมดาทั่วไป โจรขโมยชั้นเลว ผู้ฝึกปราณขั้นปลายแถวมากมายในนครต้องห้าม ต่างเริ่มต้นชีวิตวันธรรมดาและสามัญเฉกเช่นทุกวัน

แต่ในหมู่ขุมอำนาจใหญ่แห่งนครต้องห้ามกลับเกิดกระแสครึกโครมอยู่ก่อนแล้ว

ข่าวคราวส่วนหนึ่งซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน ผ่านการหมักบ่มและสั่งสมข้ามคืน ท้ายที่สุดก็ดุจภูเขาไฟปะทุ สนั่นหวั่นไหวม้วนตลบทั่วนคร

ตอนนี้แม้แต่พวกที่เกี่ยวข้องกับขุมอำนาจใหญ่ไม่มากยังรู้ชัดว่า บุคคลชั้นแนวหน้าของสามตระกูลรองของตระกูลหลินแทบจะถูกสังหารหมู่ไม่มีเหลือ ยอมสวามิภักดิ์ต่อตระกูลหลินแห่งภูเขาชำระจิตอย่างสมบูรณ์!

คราวนี้แม้แต่ผู้ฝึกปราณซึ่งตอบสนองช้าหน่อยต่างรู้ว่ามรสุมลูกใหญ่ได้มาถึงแล้ว นครต้องห้ามนี้กำลังเกิดเรื่องใหญ่!

สาเหตุมีเพียงหนึ่งเดียว…

เด็กหนุ่มปฐมาจารย์สลักวิญญาณผู้เคยมีชื่อเสียงสะเทือนนครต้องห้ามในปีนั้น มีชีวิตรอดกลับมาแล้ว!

“ครึ่งปีเงียบสงัด เมื่อคลื่นลมหวนกลับ จะแพ้ชนะหรือถูกผิด ล้วนดูที่ปัจจุบัน! หึๆ เหล่าอสรพิษเจ้าถิ่นในนครต้องห้ามพวกนั้น เกรงว่าคงไม่อาจจินตนาการว่าเจ้าหนูนั่นจะใช้วิธีแข็งกร้าวเช่นนี้หวนคืนนครต้องห้ามกระมัง”

อัครการค้า เทพเศรษฐีสือผู้ร่างกว้างหุ่นท้วมลิ้มรสชาพลางทอดถอนใจเนิบช้า

เขาพูดกับบุตรสาวข้างกาย “น่าเสียดายนะ พี่ใหญ่กับน้องเล็กของเจ้าต่างไปดินแดนรกร้างโบราณแล้ว มิฉะนั้นล่ะก็ หากรู้ข่าวว่าเจ้าหนูนี่กลับมาจะต้องนั่งไม่ติดเป็นแน่”

‘เทพเศรษฐี’ แห่งจักรวรรดิจื่อเย่าผู้นี้ วันนี้อารมณ์ดียิ่งอย่างหาได้ยาก ใบหน้าอ้วนเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

“ท่านพ่อ เป็นหลินสวินคนนั้นกลับมาจริงๆ หรือ”

สือซือกล่าวอย่างสงสัย นางไร้เครื่องประทินโฉม แต่ใบหน้ากลับงามสง่า บุคลิกเย็นชาโดดเดี่ยวดุจหยกน้ำแข็ง เป็นบุตรสาวคนรองของเทพเศรษฐีสือ

ในอัครการค้ามีเพียงเทพเศรษฐีสือที่กล้าเรียกนางว่า ‘เจ้ารอง’ (เสี่ยวเอ้อร์) คนอื่นเห็นแล้วไม่อาจไม่เรียกด้วยความยกย่องว่า ‘คุณหนูรอง’

“ข่าวนี้จริงแท้แน่นอนไม่มีทางปลอมเท็จ ยิ่งไปกว่านั้น นอกจากเด็กนี่แล้วยังมีใครที่อาจหาญกล้าอาศัยยามรัตติกาลเข้าสังหารคนตระกูลรองแห่งตระกูลหลินตัวคนเดียว ฟันศีรษะมนุษย์จนเลือดชโลมธรณีเช่นนี้”

เทพเศรษฐีสือใช้นิ้วเคาะที่วางแขน ทอดถอนใจไม่หยุด “เพียงแต่ข้าเองก็ไม่กล้าเชื่ออยู่บ้าง ไม่เจอกันแค่ครึ่งปี เขาถึงกับสามารถเอาชนะหลินซีซีมหายุทธ์ระดับกระบวนแปรจุติเช่นนี้ หากนี่เป็นเรื่องจริง…”

กล่าวถึงตรงนี้ เขาดูเหมือนไม่รู้จะอธิบายเช่นไรอยู่บ้าง นิ่งงันอยู่ครู่ใหญ่จึงกล่าวจริงจัง “ที่สามารถแน่ใจได้คือ ตระกูลทรงอิทธิพลชั้นสูงแห่งนครต้องห้ามหลังจากนี้ ต้องมีที่สำหรับตระกูลหลินเป็นแน่!”

แม้แต่คนใหญ่คนโตอย่างเทพเศรษฐีสือยังรู้สึกตระหนกต่อการเปลี่ยนแปลงของหลินสวิน เด็กหนุ่มอายุสิบกว่าปีคนหนึ่ง บนวิถีรอยสลักวิญญาณบรรลุถึงขั้นปฐมาจารย์ด้วยตัวเอง ชื่อเสียงโด่งดังไปถ้วนทั่ว เพียงพอจะทำให้มหาอำนาจมากมายไม่อาจไม่เคารพสามส่วน

มาบัดนี้ แม้แต่พลังปราณของเขายังเปลี่ยนแปลงจนน่ากลัวเช่นนี้ สามารถบดขยี้มหายุทธ์ระดับหยั่งสัจจะกลุ่มหนึ่งด้วยตัวคนเดียว และข้ามระดับไปสยบมหายุทธ์ระดับกระบวนแปรจุติ!

นี่เห็นชัดว่าน่ากลัวเกินไปแล้ว!

“ท่านพ่อ เขาสามารถทำได้ถึงขั้นนั้นจริงหรือ”

สือซือประหลาดใจ ไม่ค่อยเข้าใจความรู้สึกของเทพเศรษฐีสืออบู่บ้าง นางเห็นว่าด้วยฐานะของบิดาตอนนี้ กลับยกย่องชื่นชมเด็กหนุ่มวัยสิบกว่าปีคนหนึ่งเช่นนี้ ดูเหมือนจะมากเกินไป

“เจ้ารอง ตั้งแต่เด็กเจ้าก็ไม่ชอบเรื่องทางโลก มุ่งมั่นสงบใจ สัมผัสโลกภายนอกน้อยนัก ดังนั้นจึงไม่เข้าใจความสามารถของเจ้าหนูนี่ จากจุดนี้ก็พอเข้าใจได้ แต่เมื่อใดที่เจ้ารู้จักเบื้องลึกของเจ้าหนูนี่จริงๆ จะเปลี่ยนทัศนะไปอย่างมาก”

เทพเศรษฐีสือกล่าวยิ้มแย้ม “เดิมทีข้ายังคิดว่า หากเป็นไปได้จะให้เจ้าหมั้นหมายกับเจ้าหนูนี่…”

ไม่รอให้พูดจบสือซือก็ถ่มน้ำลายออกมาคำหนึ่ง ก่อนแค่นเสียงกล่าว “คิดหาสามีให้ข้า ต้องให้ข้าหาเองถึงจะถูก หลินสวินนั่นต่อให้พวกท่านกล่าวว่าเลิศเลอเพียงใด แต่หากข้าไม่ชอบพอ เช่นนั้นข้าก็ไม่มีทางแต่งให้เขา”

ในสายตาคนภายนอก สือซือครอบครองทุนทรัพย์อันน่าภาคภูมิอย่างแท้จริง ทั้งรูปโฉม ความรู้ และพื้นฐานครอบครัวนางล้วนอยู่ในอันดับสูง ต่อให้เป็นในนครต้องห้ามนี้ ก็มีน้อยคนนักที่จะสามารถเทียบนางได้

“ฮ่าๆๆ เช่นนั้นก็ดียิ่งนัก ก่อนหน้านี้ข้าคิดให้เจ้าหมั้นหมายกับเขา ตอนนี้น่ะไม่คิดอย่างนั้นแล้ว” เทพเศรษฐีสือหัวเราะร่า

ทันทีที่เขาพูดเช่นนี้กลับทำให้สือซือสงสัยอยู่บ้าง กล่าวว่า “นี่เป็นเพราะเหตุใด”

“เด็กนี่เปลี่ยนแปลงเร็วเกินไป”

เทพเศรษฐีสือถอนหายใจ สีหน้าสับสนอยู่บ้าง “คนประเภทนี้เสมือนดั่งผู้กล้าแห่งยุค ครองอำนาจเหนือผู้คนระดับเดียวกัน ต่อให้เป็นสมัยบรรพกาลก็ยังเรียกได้ว่าเป็นอัจฉริยะล้ำเลิศ แต่ควรรู้ว่าบ่อยครั้งคนเช่นนี้จะมีมหาเคราะห์มหาวิบัติมากมายตามติดมาด้วย หนทางการบำเพ็ญเพียรต้องแตกต่างจากผู้อื่น หากข้าให้เจ้าหมั้นหมายกับเขา จะเป็นโชคหรือภัยก็ไม่อาจแน่ใจ ดังนั้นด้วยเหตุนี้มิสู้ไม่แต่งจะดีซะกว่า”

“นี่…”

สือซือหมดคำจะพูดอยู่บ้าง กล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ “ท่านพ่อ ท่านกำลังพูดว่าข้าบุตรสาวของท่าน ไม่คู่ควรกับเจ้าหมอนี่สินะ”

เทพเศรษฐีสือยิ้มรับ ก่อนสีหน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม “เจ้ารู้ไหมว่าครึ่งปีก่อนหลินสวินมุ่งหน้าไปทะเลกลืนวิญญาณกับใคร”

ไม่รอคำตอบ เขาก็กล่าวด้วยตนเอง “เป็นองค์หญิงจิ่งเซวียน! เจ้าคิดว่าเจ้าเทียบกับองค์หญิงจิ่งเซวียนแล้วเป็นอย่างไร”

สือซือพลันสะท้านในใจ ต่อให้นางมีความรู้เท่าหางอึ่ง ก็รู้ว่าจ้าวจิ่งเซวียนเป็นทายาทสายตรงเพียงคนเดียวของจักรพรรดิและจักรพรรดินีองค์ปัจจุบัน เปรียบดั่งผู้ได้รับการโปรดปรานจากสรวงสวรรค์หนึ่งเดียวไม่มีสอง ในจักรวรรดิมีฐานะพิเศษโดดเด่นยิ่งยวด

ตามที่ได้ยินมา จ้าวจิ่งเซวียนพรสวรรค์เป็นเลิศ นิสัยใจคองามงด ทั้งยังมีรูปโฉมหาใครเสมอเหมือน เจิดจรัสไร้ใครเทียม ตั้งแต่ยังเยาว์ก็ไปบำเพ็ญเพียรยังสำนักโบราณแห่งหนึ่งในดินแดนรกร้างโบราณ

หญิงสาวเช่นนี้ เรียกว่าเป็น ‘ผู้กล้าหญิง’ ก็ไม่ใช่การกล่าวเกินจริงแม้แต่น้อย

แม้เป็นสือซือ ก็ยังไม่กล้าพูดเหลวไหลว่าสามารถเทียบจ้าวจิ่งเซวียนได้ นี่ก็ราวกับตำนานคนหนึ่ง ทำให้นางชื่นชมจากใจ และไม่เกิดจิตใจอาจเอื้อมคิดเทียบเทียม

“ท่านพ่อ ท่านคงจะไม่ได้บอกว่าหลินสวินและองค์หญิงจิ่งเซวียน…” สือซือตะลึงงัน นัยน์ตางามเบิกกว้าง

เทพเศรษฐีสือยิ้มไม่กล่าวคำ

ครู่ใหญ่เขาจึงเอ่ยว่า “เช่นนั้นเจ้ารู้หรือไม่ว่า ข่าวการตายเกี่ยวกับเจ้าเด็กหลินสวินนี่ แรกเริ่มแพร่ออกมาจากที่ใด”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์