ส่วนภูเขาชำระจิตวันนี้ก็เห็นชัดว่าคึกคักเป็นพิเศษ
ช่วงครึ่งปีก่อนที่หลินสวินจะหวนกลับมา นอกจากอัครการค้า สำนักศึกษามฤคมรกต ตระกูลเย่ ตระกูลหนิง ตระกูลกง ขุมอำนาจบางตาพวกนี้ แทบไม่มีขุมอำนาจใดยินดีเหยียบย่างประตูใหญ่ภูเขาชำระจิตอีก
อย่างไรเสียหลินสวินก็ตายไปแล้ว ดังคำกล่าวที่ว่าไม้ล้มวานรเตลิด บนภูเขาชำระจิตไม่มีพวกที่จะพอให้ความสำคัญได้อีก จะเกิดเหตุการณ์ที่คนค่อยๆ เมินเฉยไม่ใยดีบ้างก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังจากสามตระกูลรองของตระกูลหลินซึ่งมีตระกูลจั่วและฉินคอยสนับสนุนเริ่มกดดันภูเขาชำระจิต ภูเขาชำระจิตราวตกอยู่ในสภาพโดดเดี่ยว ศัตรูล้อมทั่วจตุรทิศ สถานการณ์ง่อนแง่น
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ขุมอำนาจใหญ่อื่นๆ แทบอยากจะดูเรื่องสนุก มีสุขบนทุกข์ของผู้อื่น มีหรือจะมาเชื่อมสัมพันธ์อะไรกับภูเขาชำระจิตอีก
แม้แต่อัครการค้า สำนักศึกษามฤคมรกต ตระกูลหนิง ตระกูลเย่ ขุมอำนาจเหล่านี้ก็ต่างทำได้แค่แอบให้ความช่วยเหลือภูเขาชำระจิต
สาเหตุนั้นง่ายดายมาก ที่พวกเขาให้ความสำคัญมีเพียงหลินสวินคนเดียวเท่านั้น แต่หลินสวินตายไปแล้ว ใครเล่าจะใส่ใจว่าภูเขาชำระจิตจะมีโชคหรือเกิดพิบัติ
นี่ใช่ว่าพวกเขาเห็นแก่ตัว ว่ากันตามจริงภูเขาชำระจิตที่สุดแล้วก็แตกต่างจากขุมอำนาจอื่น เติบใหญ่เข้มแข็งเพราะหลินสวินเพียงคนเดียว และประสบทุกข์ติดพันเพราะหลินสวินเพียงคนเดียว
พูดได้ว่าหลินสวินเปรียบเสมือนจิตวิญญาณแห่งภูเขาชำระจิต สภาพร้ายดีของเขาเกี่ยวข้องกับความเป็นตายของภูเขาชำระจิตโดยตรง!
ความเป็นจริงก็โหดร้ายเช่นนี้ หากคิดว่าสามารถพึ่งพิงความช่วยเหลือจากขุมอำนาจอื่น นั่นก็ไร้เดียงสาเกินไปแล้ว
ทว่าภูเขาชำระจิตวันนี้วาดกวาดความซึมเซาและโดดเดี่ยวในครึ่งปีออกไปหมด ปรากฏความครึกครื้นหาใดเปรียบ
ตั้งแต่เช้าตรู่ก็ทยอยมีขุมอำนาจบางส่วนส่งตัวแทนมาเยี่ยมเยียน
บ้างเป็นหุ้นส่วนทางการค้าของตระกูลหลินแห่งภูเขาชำระจิตก่อนหน้านี้ บ้างเป็นผู้มาสืบเสาะยืนยันข่าวคราวของหลินสวิน
กระทั่งขุมอำนาจมากมายจำนวนหนึ่งซึ่งครึ่งปีมานี้แอบโลภโมโทสันต่อตระกูลหลินแห่งภูเขาชำระจิต ปรารถนากัดกร่อนทรัพย์สมบัติตระกูลหลิน บัดนี้ต่างตื่นตระหนกและจิตใจไม่อาจสงบ หอบหิ้วของกำนัลราคาแพงนานัปการมาขอขมาและขออภัย เกรงแต่เมื่อหลินสวินยกดาบเพชฌฆาตขึ้นอีกครา ปลายดาบจะหันจ่อมาทางพวกเขา
แต่ทว่าตระกูลหลินเวลานี้ ไหนเลยจะใส่ใจพวกเขา
หลินจงออกคำสั่งตรงไปตรงมา ช่วงเวลานี้ตระกูลหลินมีเรื่องภายในต้องจัดการ ปฏิเสธไม่พบแขก ปิดประตูปฏิเสธตัวแทนแต่ละขุมอำนาจด้วยท่าทีเย็นชา
ยิ่งภูเขาชำระจิตเป็นแบบนี้ กลับยิ่งทำให้ขุมอำนาจอื่นมั่นใจในความคิด
“หลินสวินต้องกลับมาแล้วแน่นอน ถ้าไม่อย่างนั้นตระกูลหลินมีหรือจะแข็งกร้าวเช่นนี้”
ขุมอำนาจบางส่วนซึ่งครึ่งปีมานี้เคยล่วงเกินภูเขาชำระจิตหวาดหวั่นพรั่นพรึงยิ่งกว่าเดิม
แต่บรรดาขุมอำนาจซึ่งหาใช่ศัตรูกับภูเขาชำระจิตต่างแอบยินดี ยังดีที่ครึ่งปีมานี้พวกเขาหาได้ทำสิ่งที่เกินพอดี ไม่เช่นนั้นล่ะก็วันนี้คงลำบากแล้ว
“ไม่รู้ว่าตระกูลจั่วและตระกูลฉินจะมีปฏิกิริยาอย่างไร”
นี่คือสิ่งที่ขุมอำนาจมากมายต่างให้ความสนใจยิ่ง
ถึงอย่างไรพวกเขาต่างรู้ชัด ว่าระหว่างตระกูลทรงอิทธิพลชั้นสูงทั้งสองและภูเขาชำระจิตมีความแค้นมิอาจคลายต่อกันเนิ่นนานก่อนหน้านี้
ช่วงที่เกิดเหตุการณ์นองเลือดเมื่อสิบปีก่อน ตระกูลจั่วและฉินแอบแบ่งสรรปันส่วนทรัพย์สินตระกูลหลินไปไม่น้อย
แม้เป็นยามปัจจุบัน ท่าทีของตระกูลจั่วและฉินก็ชัดเจนมาตลอด ว่าสนับสนุนให้ตระกูลรองของตระกูลหลินไปแย่งชิงอำนาจปกครองภูเขาชำระจิต
นี่เป็นการไล่พยัคฆ์กลืนหมาป่าโดยมิต้องสงสัย หมายกลืนกินภูเขาชำระจิตอย่างสมบูรณ์
แต่เห็นชัดว่านับจากหลินสวินหวนกลับเมื่อวาน ทุกอย่างล้วนเปลี่ยนไป การเข่นฆ่านองเลือดของหลินสวิน ทำให้ตระกูลรองสวามิภักดิ์อย่างสิ้นเชิง ถูกรวบเข้าตระกูลหลินแห่งภูเขาชำระจิต
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ตระกูลจั่วและฉินจะทำเช่นไรอีก
นี่คือประเด็นหลักที่ขุมอำนาจทั้งมวลต่างติดตาม
…
ภูเขาชำระจิต ในตำหนักชำระจิต
หลินสวินนั่งอยู่บนที่นั่งประธาน สีหน้านิ่งสงบไร้อารมณ์
เขาไม่ได้นอนทั้งคืน คอยจัดการเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสามตระกูลรองมาตลอด
“นายน้อย อิทธิพลของสามตระกูลรองธารประจิม คานเมฆา ยอดวายุ ล้วนถูกกำลังของพวกเรารับช่วงต่อในเบื้องต้นแล้ว เพียงแต่หากคิดผนวกรวมและย่อยสลายอย่างสมบูรณ์ยังต้องการเวลาอีกพักหนึ่ง”
“นอกจากนี้ กิจการส่วนหนึ่งที่สามตระกูลรองควบคุมดูแลยังอยู่ระหว่างการทำบันทึก พวกเรากำลังคนไม่พอ ได้แต่รับช่วงดูแลทีละก้าว”
“กระทั่งถึงตอนนี้ การดำเนินงานของพวกเรายังไม่พบอุปสรรคใด เห็นชัดว่าหลังผ่านเหตุการณ์ในคืนก่อน สามตระกูลนี้ไม่มีการขัดขืนใดๆ ส่วนเรื่องที่ว่ายังมีใจคิดคดทรยศอยู่หรือไม่ ยังต้องตรวจสอบเข้าไปอีกขั้น”
หลินจงยืนอยู่ข้างๆ ทยอยสรุปข่าวสารที่ได้รับในมือ จากนั้นจึงบอกกล่าวแก่หลินสวิน
หว่างคิ้วเขาเผยความปิติยินดียากปกปิด แต่สายตาที่มองยังหลินสวินซึ่งนั่งอยู่บนตำแหน่งประธานกลับเจือความยำเกรงวูบหนึ่งโดยไม่รู้ตัว
หลินสวินก่อนหน้านี้ถูกเขามองเป็นคนรุ่นหลังที่ต้องดูแลและประคับประคองมาตลอด
บัดนี้ล้วนต่างออกไปโดยสิ้นเชิง พลังและอานุภาพซึ่งหลินสวินมีทั้งมวลปรากฏให้เห็นในการเข่นฆ่าสังหารเมื่อคืนอย่างถึงแก่น
แม้แต่หลินจงเมื่อทราบว่าหลินซีซียังถูกหลินสวินเอาชนะ ก็อดไม่ได้ที่จะสั่นสะท้านอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
หลังสั่นสะท้านความคิดจิตใจก็แปรเปลี่ยนไป
เขารับรู้ว่านายน้อยได้กลายเป็นมหายุทธ์ที่สามารถแบกรับทุกสิ่งอย่างแท้จริงคนหนึ่งแล้ว สติปัญญาและวิธีการของเขา เทียบกับนายท่านในปีนั้นยังน่าตกตะลึงและโดดเด่นยิ่งกว่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์