Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 689

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 689 หมอกควันน่าสงสัยในค่ายทหาร
ตอนที่ 689 หมอกควันน่าสงสัยในค่ายทหาร
โดย
ProjectZyphon
หลินสวินไม่ใส่ใจที่ถูกมองข้าม เขามองออกว่าหลูเหวินถิงไม่ได้มีเจตนาร้าย

“นี่คือหลักฐานรับรองฐานะของข้า”

หลินสวินยื่นป้ายสำริดอันหนึ่งออกไป ด้านหน้าเขียนหมายเลขสามสิบเก้าเอาไว้ และมีหมายเลยสิบสองเขียนอยู่ด้านหลัง

“หลินสิบสอง มาจากค่ายกระหายเลือดหมายเลขสามสิบเก้า?” หลูเหวินถิงถือมันไว้ในมือพลางกวาดตามอง และรับรู้ถึงตัวตนของหลินสวินได้ในทันที

เขาดูคล้ายผงะไปเล็กน้อย “มิน่าเล่าถึงได้ล่าสังหารสร้างคุณูปการทางทหารแลกเหรียญกล้าหาญได้ถึงเพียงนี้ ที่แท้ก็เป็นศิษย์ที่มาจากค่ายกระหายเลือดนี่เอง เจ้าเป็นรุ่นไหนหรือ ครูผู้ฝึกคือใคร”

“ข้าเรียนในค่ายกระหายเลือดเมื่อสี่ปีที่แล้ว ครูผู้ฝึกคือสวีซานชี” หลินสวินเอ่ยง่ายๆ

บัดนั้นสายตาของหลูเหวินถิงแปรเปลี่ยนเป็นแปลกประหลาด กล่าวอย่างตกใจว่า “สี่ปีก่อน? หรือว่าสี่ปีก่อน… เจ้าเพิ่งจะอยู่แค่ระดับกำลังภายในเท่านั้น?”

หลินสวินพยักหน้า

ช่วงเวลาสี่ปี จากระดับกำลังภายใน ทะลวงผ่านระดับจิตผสานวิญญาณและมหาสมุทรวิญญาณสองระดับใหญ่ และเข้าสู่ระดับหยั่งสัจจะที่สูงยิ่งกว่า!

นี่มัน…

น่าทึ่งเกินไปแล้ว!

ภายในใจของหลูเหวินถิงสั่นสะท้าน นิ่งเงียบอยู่เนิ่นนาน กว่าจะกล่าววาจาอย่างปลงตก “ชนรุ่นหลังน่ากลัวเสียจริง จริงสิ เจ้ามาจากค่ายไหน”

หลินสวินอึ้งไป กล่าวว่า “วันนี้ข้าเพิ่งมาถึงสมรภูมิกระหายเลือด”

“อะไรนะ”

หลูเหวินถิงร้องเสียงหลง สีหน้าแปรเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง คล้ายกับได้ยินเรื่องน่าเหลือเชื่อเรื่องหนึ่ง “เจ้าบอกว่าเจ้า… เพิ่งจะมาถึงสมรภูมิกระหายเลือดวันนี้?”

หลินสวินมุ่นคิ้ว เขารู้สึกอยู่เลาๆ ว่าเรื่องราวชักจะไม่ชอบมาพากล

“นี่คือจดหมายแนะนำของข้า” หลินสวินหยิบจดหมายหยกลับที่จ้าวไท่ไหลมอบให้เขาออกมา ก่อนยื่นส่งไป

หลูเหวินถิงคลี่เปิดอ่าน ทั้งตัวพลันอึ้งงันอยู่กับที่ สีหน้าฉายแววประหลาดขึ้นเรื่อยๆ มีทั้งตกตะลึงและสงสัย คล้ายกับพานพบปัญหายากยิ่งที่สุดเข้าให้แล้ว

เนิ่นนานเขาจึงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ หนึ่งเฮือก มองหลินสวินพลางกล่าวว่า “ดึกแล้ว ข้าให้คนไปตระเตรียมที่พักให้เจ้าก่อนดีกว่า เรื่องอื่นๆ พรุ่งนี้ค่อยคุยกันอีกที”

หลินสวินพยักหน้าตอบรับ

……

ครู่ต่อมา หน้าบ้านหินแถวหนึ่งซึ่งตั้งอยู่บนไหล่เขา

“ใต้เท้าหลิน บ้านของที่นี่ส่วนใหญ่ว่างกันทั้งนั้น ท่านสามารถเลือกหลังหนึ่งเพื่อเป็นที่พักของตนได้ตามสบายขอรับ”

หลังจากผู้ติดตามที่หลูเหวินถิงจัดหามาคนนั้นนำทางหลินสวินมาถึงที่นี่แล้ว ก็แนะนำโดยสังเขป ก่อนจากไปอย่างเร่งรีบ ปล่อยหลินสวินที่จับต้นชนปลายไม่ถูกเอาไว้

เดิมทีเขายังอยากถามถึงเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับค่ายทหาร น่าเสียดาย ตั้งแต่ต้นจนจบผู้ติดตามคนนั้นเอาแต่กลัวดอกพิกุลจะร่วงเสมอมา

หลินสวินสูดลมหายใจเข้าลึกๆ หนึ่งเฮือกและไม่คิดมากความอีก สุ่มเลือกบ้านหินหลังหนึ่งแล้วผลักประตูเข้าไป

เห็นได้ชัดว่าบ้านหลังนี้ไม่เคยมีใครพักอาศัยมาก่อน โต๊ะ เตียง รวมถึงของตกแต่งต่างๆ ล้วนมีฝุ่นเขรอะเต็มไปหมด

เมื่อทำความสะอาดอย่างคร่าวๆ แล้วหลินสวินก็แผ่กายลงบนเตียง ภายในใจกลับยังคงมีความข้องใจอยู่มาก ทำให้เขาไม่มีสมาธิฝึกปราณ

ค่ายหมายเลขเจ็ด?

ดูเหมือนว่าในสมรภูมิกระหายเลือด ค่ายทหารที่เป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิจะไม่ได้มีเพียงที่นี่แค่แห่งเดียว

แล้วไหนจะหลูเหวินถิงคนนั้น ยามที่รู้ว่าวันนี้ตนเพิ่งมาถึงสมรภูมิกระหายเลือด ปฏิกิริยาก็ออกจะผิดวิสัยเสียเหลือเกิน จะต้องมีเหตุผลอะไรในนี้อย่างแน่นอน

ใคร่ครวญอยู่สักพัก หลินสวินพลิกกายลุกขึ้นแล้วผลักประตูออกไป

เขาจำเป็นต้องหาคนมาถามข้อมูลพื้นฐานบางอย่างเกี่ยวกับค่ายทหารเสียหน่อยแล้ว และภายในใจก็มีตัวเลือกอยู่แล้ว…

หัวหน้าทหารยามที่เฝ้าหอสังเกตการณ์คนนั้น

……

โรงเตี๊ยมดาบโลหิต

ขณะที่หัวหน้าทหารยามที่เรียกตัวเองว่า ‘เหล่าหวง’ คนนั้นพาหลินสวินมาถึงที่นี่ ทำให้หลินสวินรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าภายในค่ายทหารแห่งนี้จะมีสถานที่แบบนี้อยู่ด้วย

โรงเตี๊ยมคึกคักยิ่ง ผู้ฝึกปราณเป็นกลุ่มก้อนรวมตัวกันอยู่ในนั้น ร่ำสุราพูดคุยกัน บรรยากาศแสนสับสนอลหม่าน

“ใต้เท้า พูดคุยกันในสถานที่แบบนี้ไม่เลวกระมัง ผู้ฝึกปราณจำนวนมากในค่ายทหารของพวกเรา ขอเพียงกลับมาจากสนามรบก็จะมาระบายอารมณ์ดื่มด่ำอยู่ที่นี่ ไม่เช่นนั้นวันเวลาที่มีแต่การเข่นฆ่าล้มตายเช่นนี้ก็คงอัดอั้นซ้ำซากเกินไป ไม่ว่าใครก็คงต้องขาดใจตายกันทั้งนั้น”

เหล่าหวงทำหน้าหดหู่

เขาสั่งเหล้าหนึ่งกา นั่งดื่มอยู่ตรงข้ามหลินสวิน เหล้านั้นเป็นสุราเข้มที่หมักเป็นพิเศษ จัดเตรียมให้ผู้ฝึกปราณโดยเฉพาะ รสชาติเผ็ดร้อนดุจดาบ ฤทธิ์แรงยิ่งใหญ่

เหล้าเพียงกาเดียวก็สิ้นเปลืองคะแนนของหลินสวินไปสามสิบแต้ม และเหรียญกล้าหาญชั้นสองสองอันที่เขาแลกในวันนี้ รวมกันแล้วได้รับคะแนนเพียงหนึ่งพันแต้มเท่านั้น

กล่าวอีกนัยหนึ่งว่า คุณูปการทางทหารคือเหรียญกล้าหาญ เหรียญกล้าหาญชั้นสองหนึ่งชิ้น สามารถแลกคะแนนได้ห้าร้อยแต้ม

คะแนนเหล่านี้สามารถนำมาแลกเปลี่ยนเป็นวัตถุดิบได้ทั้งหมด รวมถึงค่ากินดื่มในโรงเตี๊ยมแห่งนี้ด้วย

“ข้าอยากขอคำแนะนำบางอย่างจากเจ้า” หลินสวินกล่าวอย่างไตร่ตรอง

เหล่าหวงโบกมือเป็นพัลวัน “มิกล้าให้คำแนะนำหรอก แต่ถ้าหากสามารถช่วยใต้เท้าได้ ข้ารับรองว่าจะพูดทุกสิ่งที่รู้”

หลินสวินเองก็ไม่พิรี้พิไร ถามคำถามที่ตนสนใจมากที่สุด “วันนี้เป็นครั้งแรกที่ข้ามาสมรภูมิกระหายเลือด เจ้าคิดว่าคนใหม่อย่างข้าควรจะทำความเข้าใจเรื่องอะไรก่อนบ้าง”

พรวด!

เหล้าในปากเหล่าหวงพ่นออกมา สำลักจนน้ำตาแทบไหล เพียงแต่เขากลับไม่ไยดีสิ่งเหล่านี้ หากแต่มองไปทางหลินสวินด้วยสีหน้าตื่นตะลึง “ใต้เท้า ท่านคงไม่ได้ล้อเล่นกระมัง”

ล้อเล่นน่า!

ในสมรภูมิกระหายเลือดแห่งนี้ เหล่าหวงถือว่าเป็นผู้อาวุโสที่ลุยศึกนองเลือดมานับครั้งไม่ถ้วนคนหนึ่ง แต่ยังไม่เคยเห็น ‘ผู้มาใหม่’ แบบนี้มาก่อน!

ผู้มาใหม่คนหนึ่ง สามารถตัดแขนข้างหนึ่งของทายาทราชนิกุลคนเถื่อนมืดได้หรือ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์