หลินสวินนั่งขัดสมาธิ ข้างๆ มีเศษผงผลึกวิญญาณระดับสูงกองใหญ่
เขาทำสมาธิมาเป็นเวลาห้าวันแล้ว บริเวณหน้าอกตรงหัวใจของเขา ชีพจรวิญญาณสีขาวสว่างแผ่แสงศักดิ์สิทธิ์ราวกับภาพในห้วงฝัน
ภายในแสงศักดิ์สิทธิ์นั่นปรากฏหุบเหวขนาดใหญ่ขึ้นอย่างคลุมเครือไม่ชัดเจน
หุบเหวราวกับภาพลวงตา ว่างเปล่าและไม่มีที่สิ้นสุด
ในขณะที่หลินสวินกำลังสงบจิตใจหยั่งรู้และสำรวจ ราวกับได้ยินเสียงธรรมอันเก่าแก่ดังมาจากส่วนลึกของเหวอย่างคลุมเครือ
พลังทั่วร่างของเขาโคจรหมุนเวียนอย่างเงียบๆ สารกาย พลังชีวิตและจิตวิญญาณอิ่มเอิบเต็มเปี่ยมแต่ไร้ตัวตน จิตใจปลอดโปร่ง ไม่มีความคิดมากวนใจ ลืมเลือนตัวเองไปอย่างสิ้นเชิง
กระแสความร้อนลึกลับแผ่ออกจากจุดปราณทั้งสี่แห่งเส้นปราณหัวใจ ไหลเข้าสู่ส่วนต่างๆ ของร่างกาย หล่อเลี้ยงเลือดเนื้อ กระตุ้นศักยภาพให้ฟื้นคืนมา
ส่วนถ้ำสวรรค์ในร่างกาย แสงศักดิ์สิทธิ์พรั่งพรูไหลหลั่ง บนแท่นมรรคโบราณมีแสงสมบัติที่ขาวดั่งหิมะลอยขึ้นมาสามสาย ลอยอยู่รอบๆ แท่นมรรค ยิ่งดูศักดิ์สิทธิ์และงดงามกว่าเดิม
ทุกอย่างที่เกิดขึ้นนี้ หลินสวินไม่รู้สึกตัวเลยสักนิด
……
วันที่เจ็ดของการทำสมาธิ
เสียงกรอบแกรบดังขึ้นจากข้างในตัวหลินสวิน ราวกับเสียงของดักแด้ทะลุรังไหม
พลันเห็นเส้นผมยาวของหลินสวินร่วงหลุดลงมา จากนั้นผมยาวดกหนาและดำขลับก็งอกขึ้นมาใหม่ด้วยความเร็วที่เหลือเชื่อ แต่ละเส้นล้วนส่องแสงแวววาว ยาวจรดลงมาถึงเอวราวกับน้ำตกสีดำ
จากนั้นผิวหนังของหลินสวินก็แตกออกทั่วทุกที่ แล้วเกิดผิวชั้นใหม่ที่ใสเหมือนแกะสลักจากหยกซึ่งสมบูรณ์แบบที่สุด ลวดลายกล้ามเนื้อไหลเวียนด้วยท่วงทำนองแห่งมรรค
ดูอ่อนนุ่มและเป็นประกาย เต็มไปด้วยพลังอันน่าสะพรึงกลัวอย่างที่สุด
จนกระทั่งตอนหลัง รอบตัวของหลินสวินปรากฏแสงศักดิ์สิทธิ์ขึ้น ละอองแสงโคจรอยู่รอบตัวเป็นประกายระยิบระยับ ขับเน้นให้เขาดูเหมือนวิญญาณเซียนที่กำลังจะลอกคราบ
ทุกอย่างราวกับเกิดใหม่ ประหนึ่งถอดรยางค์เปลี่ยนกระดูก!
……
ปิดด่านวันที่สิบ
รอบข้างหลินสวินเงียบสงบ บรรยากาศยิ่งเปลี่ยนเป็นโดดเด่นและไร้ตัวตน มีท่วงทำนองแห่งมรรคอันยากจะเปรียบเปรยแผ่กระจายออกจากรอบตัว
และภายในร่างกาย ยามนี้มีเสียงคำรามดุจดั่งฟ้าร้อง อวัยวะภายใน ถ้ำสวรรค์ เส้นปราณโลหิต กระดูกต่างสั่นไหวด้วยจังหวะอันเป็นเอกลักษณ์อย่างพร้อมเพรียงกัน สารกาย พลังชีวิตและจิตวิญญาณรอบตัวราวกับภูผาทลายทะเลกระหน่ำ ส่งเสียงคำรามอยู่ภายในร่าง
ตุบ!
ตุบ!
ตุบ!
แม้แต่ทุกการเต้นของหัวใจก็ราวกับสายฟ้าตะลึงสวรรค์ มีพลังชีวิตยิ่งใหญ่ที่แข็งแกร่งและทรงพลัง
เหล่าทหารคุ้มกันที่เฝ้าอยู่นอกห้องหลินสวิน ยามนี้สั่นเทิ้มไปทั้งตัว รู้สึกว่าจิตวิญญาณเหมือนถูกเสียงมหามรรคอันยิ่งใหญ่เคาะโจมตีอย่างรุนแรง ทรมานจวนเจียนจะกระอักเลือด
และนี่เป็นเพียงแค่การขับเคลื่อนของพลังเสี้ยวหนึ่งที่แผ่กระจายออกมาตอนที่หลินสวินฝึกปราณเท่านั้น!
……
วันที่สิบสามของการปิดด่าน
การเปลี่ยนแปลงในร่างกายของหลินสวินก็จบลง ทุกอย่างดูเงียบสงบขึ้น
ฉัวะ!
และในเวลานี้เองหลินสวินลืมตาขึ้น ชั่วขณะนั้นในห้องราวกับมีสายฟ้าแลบเป็นประกายคู่หนึ่งกวาดผ่าน ฉีกสภาพแวดล้อมอันมืดมนนั่น!
เมื่อดูอย่างละเอียด ดวงตาสีดำขลับของหลินสวินราวกับหุบเหวลึก ภายในประกายศักดิ์สิทธิ์พลุ่งพล่าน มีบุคลิกชวนหวาดหวั่น ราวกับสามารถกลืนกินจิตวิญญาณของมนุษย์ได้!
‘คิดไม่ถึง คิดไม่ถึงเลยจริงๆ… ว่าจะบรรลุขั้นด้วยความบังเอิญ… เรื่องราวบนโลกนี้ช่างเหนือความคาดหมายจริงๆ เต็มไปด้วยเรื่องเหลือเชื่อ…’
มุมปากของหลินสวินเผยรัศมีโค้งแปลกประหลาด ในเวลาเดียวกันประกายศักดิ์สิทธิ์ในดวงตาของเขาถูกเก็บไป เปลี่ยนเป็นสงบนิ่ง ลุ่มลึกและชัดเจน
บรรลุแล้ว!
แม้แต่หลินสวินยังคิดไม่ถึงว่า ในการปิดด่านครั้งนี้จะทำให้ตนบรรลุขั้นโดยบังเอิญ ก้าวเข้าสู่ระดับหยั่งสัจจะขั้นสูง
ดูเหลือเชื่อมากจริงๆ
ก่อนหน้านี้เขายังเตรียมจะสะสมผลึกวิญญาณระดับสูงให้เพียงพอ แล้วค่อยลองบรรลุขั้น แต่เห็นได้ชัดว่าการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากการปิดด่านในครั้งนี้ ทำให้เขาสามารถบรรลุขั้นได้โดยไม่เสียผลึกวิญญาณระดับสูงเพิ่มเลยตั้งแต่ต้นจนจบ!
‘คงจะเกี่ยวกับพลังของชีพจรวิญญาณต้นกำเนิด…’
หลินสวินตกอยู่ในภวังค์ความคิด ก่อนหน้านี้เขาหยั่งรู้และสำรวจชีพจรวิญญาณต้นกำเนิดมาโดยตลอด เพื่อจะควบคุมความลึกลับที่ซ่อนอยู่
แต่เมื่อหยั่งรู้จริงๆ นอกจากเสียงธรรมอันไม่มีที่สิ้นสุด เก่าแก่และคลุมเครือเข้าใจยาก หลินสวินก็ไม่ได้ค้นพบอะไรมากไปกว่านี้เลย
ทว่าตอนนี้หลินสวินถึงตระหนักได้ว่า การหยั่งรู้ครั้งนี้ไม่ได้สูญเปล่า ในสถานการณ์ที่แม้แต่เขายังไม่สามารถรับรู้ได้ พลังปราณกลับกระโดดขึ้นสู่ระดับหยั่งสัจจะขั้นสูง!
‘ชีพจรวิญญาณต้นกำเนิด… หุบเหวกลืนกิน…’
หลินสวินสูดหายใจเข้าลึกๆ แอบตัดสินใจว่าต่อไปจะสำรวจความลึกลับทั้งหมดที่ซ่อนอยู่ พรสวรรค์ที่โดดเด่นเช่นนี้ เป็นขุมทรัพย์ที่ซ่อนอยู่ในร่างกายเลยเชียว หากไม่สามารถขุดความเร้นลับมันออกมาได้ทั้งหมด ก็เป็นการทำลายของมีค่าที่ฟ้าประทานมาให้
จากนั้นหลินสวินเริ่มสัมผัสการเปลี่ยนแปลงของตนหลังจากการบรรลุขั้น
‘พลังกายยกระดับขึ้นขั้นหนึ่ง เลือดลมเปี่ยมล้น แขนขางอกใหม่ได้ แม้จะบาดเจ็บสาหัส เพียงแค่มีเวลามากพอก็สามารถฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว…’
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์