Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 755

ตอนที่ 755 ทำนายโชคเคราะห์
“ข้าจะไปแล้ว”

บนถนนอันเจริญรุ่งเรืองของนครต้องห้าม หลินสวินเอามือไพล่หลังเดินเคียงข้างกู่เหลียงด้วยท่าทางสบายๆ

บนถนนคึกคักมาก คนและรถราวิ่งกันขวักไขว่ ผู้คนพลุกพล่าน เจริญรุ่งเรืองเช่นเคย

นี่ก็คือเมืองหลวงของจักรวรรดิ เป็นสถานที่ที่ผู้ฝึกปราณในใต้หล้าปรารถนาที่สุด ในทุกๆ วันมีหนุ่มสาวไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ที่เพิ่งเข้าสู่สังคมเดินทางไกลหลายพันลี้มาเพื่อแสวงหาชื่อเสียงหรือผลประโยชน์ ต่างคาดหวังที่ยืนในเมืองใหญ่นี้

ใช้ชีวิตในเมืองใหญ่ไม่ใช่เรื่องง่าย!

หลินสวินรับรู้เรื่องนี้อย่างลึกซึ้ง

เพียงแต่ปัจจุบันชื่อเสียงของเขาโด่งดังไปทั่วหล้าแล้ว โดดเด่นเหนือใครในบรรดาคนรุ่นเยาว์ และตอนนี้กำลังจะจากไป อย่างไรก็ต้องอาลัยอาวรณ์เมืองนี้อยู่บ้าง

“ได้ยินข่าวแล้ว ตอนนี้ข่าวที่เจ้าจะไปฝึกปราณยังดินแดนรกร้างโบราณแพร่ไปทั่วนครต้องห้ามแล้ว เพียงแต่…”

กู่เหลียงลังเลอยู่ครู่จึงถามว่า “เจ้าจะกลับมาหรือไม่”

หลินสวินชะงัก “กลับมาสิ อย่างไรบ้านข้าก็อยู่ที่นี่”

กู่เหลียงยิ้ม สายตามองไปไกลๆ พร้อมพูดว่า “เรื่องนี้ก็ไม่แน่ โลกภายนอกกว้างใหญ่มาก ใหญ่จนเหนือจินตนาการ แสงสีมากมายงดงามและมีสีสัน หากก้าวสู่เส้นทางนี้ ใครจะมั่นใจว่าชีวิตนี้จะได้กลับมาอีก”

ทันใดนั้นเขาพลันตบไหล่หลินสวินพร้อมยิ้มพูด “แต่ข้าดีใจที่เจ้าไป ในใจข้า สำหรับเจ้าแล้วจักรวรรดิเป็นแค่สระน้ำเล็กๆ ไม่พอให้เจ้าผจญภัย เจ้าต้องการเวทีที่ใหญ่กว่า ฟ้าดินที่กว้างขวางกว่า จึงจะสามารถสำแดงปณิธานในใจได้ ไปได้ไกลยิ่งกว่าบนเส้นทางมหามรรค!”

หลินสวินเงียบ

ทั้งสองเดินเล่นพลางพูดคุยด้วยอารมณ์ผ่อนคลาย และมาถึงที่ตั้งของหอดูดาวหลวงโดยไม่รู้ตัว

หอดูดาวหลวงสูงเก้าพันฉื่อ ตั้งตระหง่านทรงพลังพุ่งสู่ฟากฟ้า

“ได้ยินว่ายอดหอดูดาวหลวงสามารถมองลงมาเห็นนครต้องห้ามกว่าครึ่ง และเป็นสถานที่ทำนายลักษณ์ฟ้า ทำนายดวงชะตาจักรวรรดิ”

กู่เหลียงเงยหน้าขึ้นมองแล้วพูดว่า “โดยเฉพาะราชครูบนหอดูดาวหลวง มีทักษะเชื่อมสวรรค์ที่ไม่อาจคาดเดา เล่าลือกันว่าบนโลกนี้แทบไม่มีเรื่องอะไรที่เขาไม่รู้ เรียกได้ว่าสติปัญญาดุจดั่งมหาสมุทร ราวกับผู้พยากรณ์”

“ราชครูหรือ…”

แววประหลาดแวบผ่านนัยน์ตาหลินสวิน เขาเคยได้ยินมานานแล้วว่าราชครูคนนี้อาศัยอยู่อย่างสันโดษบนหอดูดาวหลวงตลอดทั้งปี เป็นบุคคลลึกลับที่มีตำนานสีสันอย่างที่สุดในจักรวรรดิ

ไม่ว่าจะเป็นราชวงศ์หรือผู้ฝึกปราณในใต้หล้า ล้วนให้ความเคารพราวกับเทพเทวดา!

“ก่อนไปถ้าได้ราชครูทำนายดวงชะตาให้เจ้า ถามโชคเคราะห์สักหน่อยก็คงยิ่งดี”

กู่เหลียงกล่าวทอดถอนใจ “แต่น่าเสียดาย ได้ยินว่าราชครูท่านนี้ละทางโลกไปนานปีแล้ว คงไม่สามารถเป็นไปตามปรารถนาของเจ้าได้”

“ทำนายโชคเคราะห์งั้นหรือ”

หลินสวินยิ้ม เขาไม่เคยเชื่อเรื่องพวกนี้

คำว่าโชคชะตามีตัวแปรหลายอย่างที่ไม่แน่นอน เกี่ยวพันกันเพราะผลกรรม จะทำนายโชคเคราะห์มั่วซั่วได้อย่างไร

“ไปกันเถอะ”

หลินสวินหมุนตัวจะเดินกลับ แต่ในชั่วขณะนั้นประตูบานหนึ่งของชั้นล่างหอดูดาวหลวง กลับมีเด็กชุดเขียวคนหนึ่งเดินออกมาคำนับหลินสวินพร้อมเอ่ย “คุณชายหลินช้าก่อน ท่านราชครูกำชับลงมาว่าให้เชิญคุณชายขึ้นไปดื่มชา”

หลินสวินอึ้งไปชั่วขณะ อดเงยหน้าขึ้นมองหอดูดาวหลวงที่สูงเสียดฟ้าไม่ได้ สีหน้าดูแปลกเล็กน้อย

กลับเห็นกู่เหลียงดีใจยกใหญ่ ใช้แขนสะกิดหลินสวินทีหนึ่งพร้อมเอ่ย “ราชครูมีคำเชิญ ยังไม่รีบไปอีก นี่เป็นโอกาสที่หายากและมีค่ามาก จำไว้ว่าให้ท่านทำนายดวงชะตาให้เจ้าด้วย!”

หลินสวินหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้ คิดๆ แล้วสุดท้ายเขาก็พยักหน้ารับ

เขาเองก็แปลกใจ ตอนที่ตนกำลังจะจากไป ราชครูที่ไม่เคยเห็นหน้าผู้นี้ต้องการพบตนด้วยเรื่องอะไร

……

ตอนที่เดินตามเด็กชุดเขียวขึ้นไปตามบันไดจนถึงบนยอดหอดูดาวหลวง ก็ราวกับมาถึงบนชั้นเมฆ

เมื่อมองลงไป นครต้องห้ามกว่าครึ่งสะท้อนเข้าสู่สายตา ห่างไปไกลสิ่งก่อสร้างเรียงรายกันราวกับใยแมงมุม บนท้องถนนผู้คนราวกับฝูงมด รถม้าเพ่นพ่าน ดูเล็กอย่างที่สุด

เพียงชั่วขณะเท่านั้นหลินสวินพลันเกิดความรู้สึกยิ่งใหญ่ หัวใจปลดโปร่ง

ใต้ฝ่าเท้าคือโลกโลกีย์ ควันเมฆรุ่งเรืองราวกับคลื่นไหลหลั่ง แต่ตัวเขานั้นอยู่ในชั้นเมฆ ประหนึ่งหลุดพ้นสรรพสิ่ง

“เป็นสถานที่ที่ดียิ่ง” หลินสวินถอนหายใจ

“จากตรงนี้สามารถท่าทีต่างๆ ของสรรพชีวิต มองเห็นฟ้าดินที่สูงตระหง่านยาวไกล เช่นนี้กลับได้รู้ว่าสรรพชีวิตล้วนมีทุกข์ ฟ้าดินไร้ปรานี”

เสียงทุ้มต่ำชราดังขึ้นข้างๆ

หลินสวินหันไปเห็นชายชราในชุดคลุมสีเทา หนวดเคราสีขาว ริ้วรอยร่องลึกเต็มใบหน้า ดูแก่ชราอย่างที่สุดคนหนึ่งนั่งอยู่หน้าโต๊ะน้ำชาอย่างสง่า

ร่างกายของเขาเต็มไปกลิ่นอายของกาลเวลา ให้ความรู้สึกของการผ่านโลกมาอย่างโชกโชน แต่แววตากลับใสสะอาดราวกับเด็กทารก หมดจดกระจ่างใสประหนึ่งสามารถสะท้อนความลับที่ลึกที่สุดในใจมนุษย์

“คารวะผู้อาวุโส” หลินสวินคารวะ

ความจริงในใจเขาสั่นไหวเล็กน้อย กลิ่นอายบนร่างชายชราผู้นี้ราบเรียบมาก แต่กลับให้ความรู้สึกไม่มีที่สิ้นสุดราวกับท้องฟ้าที่กว้างใหญ่ไพศาล คาดเดายากกว่าราชันทุกคนที่เขาเคยเจอ!

“นั่งสิ”

ราชครูหยิบกาน้ำชาขึ้นรินให้หลินสวินถ้วยหนึ่ง ท่าทางเนิบช้าแต่กลับมีพลังที่พาให้รู้สึกสงบ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์