สมัยอยู่ในส่วนลึกของทะเลกลืนวิญญาณ หลินสวินก็พึ่งพาสมบัติชิ้นนี้หนีการตามสังหารของราชันกลุ่มหนึ่ง เข้าไปในสุสานสมุทรฝังมรรคกับเด็กสาวลึกลับนามอาหูอย่างปลอดภัย
แต่ตอนนี้พลังต้องห้ามที่ปะทุขึ้นที่ยอดเขาดาราโรยกลับสามารถกำราบยานขนส่งอวกาศได้ นี่ทำให้เขาอดตื่นตระหนกไม่ได้ รับรู้ได้ว่าเกิดเรื่องยุ่งยากเข้าแล้ว
ถ้าเขาคาดเดาไม่ผิด ค่ายกลลี้ลับที่ปรากฏบนยอดเขาดาราโรยนั้น น่าจะเป็นค่ายกลใหญ่น่าครั่นคร้ามที่อริยะที่แท้จริงวางไว้ค่ายหนึ่ง
หาไม่แล้วเป็นไปไม่ได้เด็ดขาดที่จะมีพลังน่ากลัวปานนี้!
ครืน!
พลังต้องห้ามที่ระเบิดขึ้นบนยอดเขาดาราโรยยิ่งน่ากริ่งเกรงขึ้นไปอีก สัญลักษณ์คลุมเครือสีเงินช่วงโชติโบยบินเต็มฟ้า กระจัดกระจายไปในท้องฟ้ายามรัตติกาล ส่องสว่างภูผานที
สิ่งมีชีวิตในขอบเขตพันลี้ล้วนตกใจ คลานกับพื้นตัวสั่นระริก รู้สึกได้ถึงกลิ่นอายน่าหวาดหวั่นกดทับยากบรรยาย
ที่ตีนเขา ผู้แข็งแกร่งที่หนีออกมาจากยอดเขาดาราโรยก็พากันหน้าเปลี่ยนสี ต้องหลบหนีออกมาไกล นี่ทำให้พวกเขายิ่งชิงชังหลินสวิน
ถ้าไม่ใช่เพราะเภทภัยที่เขาก่อทั้งหมดนี้ จะทำให้ยอดเขาดาราโรยเปลี่ยนแปลงกะทันหันเช่นนี้ได้อย่างไร ส่งผลให้พวกเขาต้องถอยออกมาอย่างยากลำบาก
โดยเฉพาะอสูรเฒ่าเครือเถายิ่งคับแค้นใจจนเข่นเขี้ยว โกรธจนควันออกหู สีหน้าคล้ำเขียวหาใดเทียบ หากไม่ใช่เพราะห้วงอากาศอันตรายนัก เขาก็อยากกระโจนขึ้นไปฉีกหลินสวินทั้งเป็น
น่าโมโหเกินไปแล้ว!
ให้เขาเด็ดโอสถ แต่เขากลับเล่นลูกไม้เช่นนี้ ช่างสมควรตายนัก!
บนจุดสูงสุดของยอดเขาดาราโรย สถานการณ์แปรผันยิ่ง บนผืนดินสีเงินยวงดุจหิมะปรากฏค่ายกลโบราณค่ายหนึ่ง ด้านบนเชื่อต่อพลังแห่งดารานภากาศ ด้านล่างซึมซับแก่นแท้แห่งฟ้าดิน ขับเน้นลวดลายเร้นลับของค่ายกลที่หนาแน่นให้งดงามและศักดิ์สิทธิ์
สามารถเห็นได้รางๆ ว่าส่วนลึกของค่ายกลโบราณนั้นมีไข่ยักษ์ขนาดเท่าหินโม่ ทั้งใบแวววาวกลมเกลี้ยง เปล่งรัศมีดาราบริสุทธิ์ฟองหนึ่ง
เหมือนกับสัตว์ปีศาจบรรพกาลฟักออกมา เต็มไปด้วยกลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์ ปรากฏให้เห็นอย่างรางเลือนในค่ายกล ดูลึกลับถึงที่สุด
พลังแห่งดาราและแก่นแท้แห่งฟ้าดินที่ค่ายกลโบราณซึมซับพรั่งพรูลงบนไข่ฟองนี้ราวกระแสธาร และถูกไข่ดูดซับไว้
‘ไข่ฟองหนึ่งหรือ’
บนฟ้าสูงขึ้นไป หลินสวินเบิกตากว้าง แทบไม่อาจทำใจเชื่อได้ว่าค่ายกลเทพค่ายหนึ่ง ครอบครองยอดเขาแห่งหนึ่ง เชื่อมโยงพลังดาราฟ้าดิน ทั้งหมดนี้เพื่อให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตในไข่ฟองนี้หรือ
นี่ช่างน่าตื่นตะลึงเกินธรรมดานัก!
เพียงแต่ไม่นานนักเขาก็ไม่อาจคิดต่อได้ ด้วยยานขนส่งอวกาศที่เขาขับเคลื่อนอยู่ถูกกดทับอย่างรุนแรงยิ่งขึ้นเรื่อยๆ พลังต้องห้ามราวกระแสน้ำกำลังจะท่วมมิดแล้ว
“เจ้าเด็กนั่นจะจบเห่แล้ว!”
ไกลออกไปจากยอดเขาดาราโรย ไม่ว่าจะเป็นผู้ฝึกปราณเผ่ามนุษย์หรืออสูรมารบำเพ็ญก็รับรู้ว่ายานสมบัติที่หลินสวินขับอยู่กำลังจะรับไม่ไหวแล้ว
นี่ทำให้พวกเขามีความสุข รู้สึกสะใจ หมายให้หลินสวินประสบเคราะห์
อสูรเฒ่าเครือเถาเตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว รอเมื่อหลินสวินสิ้นชีพก็จะเก็บรวบรวมซากศพและบดให้แหลกละเอียดเป็นผุยผง
ถ้าไม่ทำเช่นนี้ ก็จะไม่สามารถระบายความแค้นที่อยู่ในใจเขาได้!
“หาเรื่องใส่ตัวเสียจริงเรา จะต้องสู้กับเจ้าเสียแล้ว!”
ในยานขนส่งอวกาศหลินสวินรับรู้ได้ถึงอันตราย กัดฟันแล้วนำคันธนูวิญญาณไร้แก่นสารกับศรแห่งนภาครามออกมา คิดจะประจันหน้ากับค่ายกลโบราณนั้นตรงๆ
เพียงแต่ในตอนที่เขาเตรียมเสี่ยงตายอยู่นี้เอง จู่ๆ เสียงเยียบเย็นเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นในโสตประสาท
‘ขอสหายยั้งมือแล้วฟังข้าพูดเสียหน่อย’
‘ใครน่ะ’
นัยน์ตาดำของเขาหดรัดลงในทันใด ในขณะเดียวกันเขาก็พบว่าสัญลักษณ์ต้องห้ามที่ปกคลุมจากทั่วทุกสารทิศพลันหยุดนิ่งกลางอากาศไม่ไหวติง
นี่เท่ากับคลี่คลายวิกฤตของหลินสวิน ณ ตอนนี้ เพียงแต่เวลานี้เขากลับฉงนใจไม่ว่างเว้น เขาไม่อาจชี้ชัดได้ว่าเสียงเยียบเย็นเสียงนั้นมาจากที่ใด
‘ข้ามีนามว่าเซ่าเฮ่า เป็นนายน้อยเผ่าราชันเร้นดารา ตั้งแต่นานมาแล้วก็หลับใหลอยู่ภายใน ‘ไข่แห่งกลุ่มดาว’ พลังยังไม่ตื่นขึ้นโดยสมบูรณ์ จึงไม่อาจปรากฏกายมาพบกันได้ในตอนนี้’
เสียงเยียบเย็นนั้นราวน้ำพุสายหนึ่ง มีจังหวะจะโคน ทั้งพุ่งตรงไปถึงก้นบึ้งของจิตใจราวเสียงธรรม
หลินสวินจิตใจสั่นสะท้าน สีหน้าแปรเปลี่ยนไปเล็กน้อย เจ้าหมอนี่เป็นถึงสิ่งมีชีวิตที่เติบโตในไข่ซึ่งอยู่ในค่ายกลโบราณ!
เผ่าราชันเร้นดาราหรือ
นี่เป็นเผ่าพันธุ์ใดกัน
แม้ในดินแดนรกร้างโบราณแห่งนี้จะมีเผ่าพันธุ์นับหมื่น แต่เขาไม่เคยได้ยินชื่อเผ่าพันธุ์นี้มาก่อน!
‘ก่อนหน้านี้เจ้าทำลาย ‘ดอกหงส์เพลิงนิพพาน’ ถึงได้ปลุกให้ข้าตื่นขึ้น ทว่าข้าไม่ได้เห็นว่าเจ้าเป็นศัตรู การโจมตีก่อนหน้านี้เป็นการโต้กลับเองของ ‘ค่ายกลศักดิ์สิทธิ์หมู่ดารา’ เท่านั้น’
เซ่าเฮ่าอธิบายเสียงเบา น้ำเสียงไม่ร้อนรน มีพลังน่าเชื่อถือ
‘ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้’
สีหน้าของหลินสวินฉายแววอักอ่วน ก่อนหน้านี้เขาไม่ได้คิดจะทำลายโอสถสมบัติมหัศจรรย์นามว่าดอกหงส์เพลิงนิพพานนั่นทิ้ง
เพียงแต่คิดจะอาศัยพลังต้องห้ามของค่ายกลโบราณนั้นส่งมอบเคราะห์ร้ายให้กับอสูรเฒ่าเครือเถาเท่านั้น
แต่ไม่ว่าจะพูดอย่างไร เขาก็สร้างความขัดแย้งขึ้นก่อนอยู่ดี แต่เซ่าเฮ่าผู้นี้กลับไม่หาความ ดูใจกว้างนัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์