พร้อมกับเสียงนี้ บนต้นไม้โบราณสีเงินที่ตระหง่านทรงพลังต้นหนึ่งใกล้จุดสูงสุดของยอดเขา พลันปรากฏเถาวัลย์ประหลาดหาใดเทียบเส้นหนึ่ง
มันมีความหนาเท่าถังน้ำ ยาวราวร้อยจั้ง ครึ่งหนึ่งของลำต้นเขียวชอุ่ม ราวกับเจียระไนจากหยกสีเขียวเข้ม เปล่งพลังชีวิตมหาศาลไร้เทียมทาน
ส่วนลำต้นอีกครึ่งหนึ่งกลับเหี่ยวเฉาราวถ่านไม้ ดุจไม้ที่ถูกสายฟ้าฟาด เต็มไปด้วยกลิ่นอายความตายทึบทึม
สองสิ่งนี้ขับเน้นตรงข้ามกัน ครึ่งหนึ่งเต็มไปด้วยพลังชีวิต อีกครึ่งหนึ่งตายซากไร้ชีวา ดั่งความโรยราและรุ่งเรืองดำรงอยู่ด้วยกัน เวียนว่ายเป็นสังสารวัฏ พาให้ผู้คนกระทบกระเทือนใจอย่างรุนแรง
มันแผ่ออกลงมาจากบนต้นไม้เก่าแก่สีเงิน กลิ่นอายน่าหวาดหวั่นหาใดเทียบก็อบอวลตามมาด้วย ทำให้ฟ้าดินบริเวณนี้เกิดเสียงครวญด้วยไม่อาจแบกรับไหว
แต่มันระมัดระวังนัก พลานุภาพที่แผ่ออกมาไม่กล้าเข้าใกล้จุดสูงสุดของยอดเขา ประหนึ่งกลัวรบกวนอะไรบางอย่าง
อสูรเฒ่าเครือเถา!
เพียงมองปราดเดียวหลินสวินก็บอกที่มาที่ไปของอีกฝ่ายได้
ตามคำพูดของงูเหลือมยักษ์วารีทมิฬกับหมูอสูรมาร นี่ต้องเป็นพญาอสูรมารอันดับหนึ่งของภูเขาโคม่วง ครอบครองพลังระดับราชันกึ่งระดับ น่าพรั่นพรึงถึงที่สุดอย่างแน่นอน
ตั้งแต่ค่ายกลโบราณที่ยอดเขาดาราโรยปรากฏออกมา อสูรเฒ่าเครือเถาก็ยึดครองพื้นที่แห่งนี้ ช่วงนี้สังหารผู้แข็งแกร่งที่มาสำรวจไปไม่รู้เท่าไร ต้องเป็นพวกร้ายกาจที่สังหารหมู่จนเกิดเป็นวิบัติภัยตนหนึ่งแน่
เมื่อรับรู้ได้ว่าอสูรเฒ่าเครือเถาเคลื่อนไหว ผู้ฝึกปราณมากมายที่ซ่อนอยู่ในความมืดเหล่านั้นก็พากันหันเหความสนใจมาทางนี้
“ดังคาด เจ้าอสูรมารเฒ่าตนนี้ไม่มีทางยอมให้ใครเข้าใกล้จุดสูงสุดของยอดเขาได้เลย ที่นั่นเป็นอาณาเขตที่มันยึดครอง ใครเข้าไปใกล้ต้องตายแน่”
“เจ้าหนุ่มนั่นต้องเจอเภทภัยเข้าแล้ว!”
“เจ้าหนุ่มนั่นบ้าระห่ำเหมือนกันนะนี่ เขาก็ไม่คิดเสียหน่อยว่าที่นี่มีผู้แข็งแกร่งเฝ้ารออยู่มากขนาดนั้น ทำไมจนถึงตอนนี้ไม่มีใครกล้าบุ่มบ่ามเข้าใกล้ตำแหน่งสูงสุดของยอดเขา”
“ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน ขอเพียงเป็นอัจฉริยะเหนือโลกามักจะตายก่อนวัยอันควรได้ง่าย ดูท่าตอนนี้ กลัวแต่เจ้าเด็กนี่จะพ้นเคราะห์นี้ได้ยากแล้ว”
ในความมืดมิด บางคนทอดถอนใจ บางคนมีความสุขที่ได้เห็นคนอื่นพบเคราะห์ บางคนเสียดาย รู้สึกว่าที่หลินสวินทำไม่คุ้ม
นั่นเป็นถึงอสูรเฒ่าเครือเถา ราชันกึ่งระดับผู้หนึ่งเชียวนะ!
อย่าว่าแต่ผู้ฝึกปราณระดับหยั่งสัจจะ ต่อให้เป็นมหายุทธ์ชั้นยอดระดับกระบวนแปรจุติยังไม่กล้า!
“สหายน้อย เจ้าคิดเห็นอย่างไร”
อสูรเฒ่าเครือเถาเข้ามาใกล้ จำแลงเป็นใบหน้าแปลกพิกลใบหน้าหนึ่ง ครึ่งหนึ่งผิวพรรณอ่อนนุ่มราวทารก เปล่งปลั่งกระจ่างใส อีกครึ่งหนึ่งกลับเต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่น โอบล้อมไปด้วยกลิ่นอายความตาย ขนาดดวงตาทั้งคู่ยังปรากฏสภาพที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง รูปลักษณ์ที่แปลกประหลาดพาให้คนอื่นกลัวจนขนหัวลุก
“ศุภโชคครั้งนี้เดิมทีก็เกิดขึ้นจากฟ้าดิน ทั้งไม่ใช่สิ่งที่เจ้าครอบครอง หากเจ้าต้องการก็ไปแย่งชิงมาเอง คิดจะสั่งให้ข้าช่วยเป็นธุระ เจ้าไม่มีคุณสมบัติมากพอ”
หลินสวินสีหน้าเรียบเฉย กิริยาท่าทางสงบนิ่งมั่นคง
ผู้แข็งแกร่งที่อยู่ในความมืดล้วนประหลาดใจและตื่นตระหนก ไม่คิดว่าในเวลาเช่นนี้เด็กหนุ่มจะยังคงสงบนิ่งและแข็งกร้าวปานนี้ พาให้คนหวั่นเกรง
อสูรเฒ่าเครือเถาก็ผงะไปอย่างเห็นได้ชัดครู่หนึ่ง คิดไม่ถึงเช่นกันว่าเด็กหนุ่มระดับหยั่งสัจจะคนหนึ่งจะมีจิตใจกล้าหาญแบบนี้
ทันใดนั้นเขาก็สีหน้าถมึงทึง กล่าวว่า “เปิ่นหวังมอบโอกาสให้เจ้า แต่เจ้าไม่รู้บุญคุณ กลับไร้มารยาทเช่นนี้ หรืออยากตายจริงๆ”
หลินสวินยิ้มแล้ว ดวงตาสีดำปรากฏรังสีเย็นเยียบ “วิญญาณเถาวัลย์เถาหนึ่งเท่านั้น ยังไม่ก้าวเข้าสู่ระดับราชันที่แท้จริง ยังกล้าเรียกตัวเองว่าเปิ่นหวัง (ข้าผู้เป็นราชัน) มาข่มขู่ข้าหรือ”
เฮือก!
ผู้แข็งแกร่งไม่น้อยที่ซ่อนอยู่ในความมืดสูดหายใจหนาวเยือก ต่างสงสัยอยู่บ้างว่าหลินสวินเสียสติไปแล้วหรือ แม้ราชันกึ่งระดับไม่ใช่ราชันที่แท้จริง แต่ก็สามารถโอหังเหนือผู้ฝึกปราณที่ต่ำกว่าระดับราชันได้แล้ว
แต่ในสายตาของเด็กหนุ่ม ประหนึ่งคิดว่าราชันกึ่งระดับไม่ได้พิเศษอะไร… นี่ช่างน่าตกใจเกินไปแล้ว
อสูรเฒ่าเครือเถาหรี่ตา ไอสังหารน่ากลัวพลุ่งพล่านไปทั้งตัว พลานุภาพราวน้ำป่าทลายเขื่อนม้วนกลืนไปทั้งที่นั้น
“เจ้าหนู เปิ่นหวังชื่นชมความกล้าของเจ้านัก ให้โอกาสเจ้าครั้งสุดท้าย ไปเด็ดโอสถสมบัติต้นนั้นมา เปิ่นหวังจะให้เจ้าตายอย่างมีเกียรติอยู่บ้าง”
เขาเอ่ยปาก ทอดสายตามองโอสถสมบัติมหัศจรรย์ดุจหงส์เพลิงเริงระบำต้นนั้นที่อยู่ใกล้กับจุดสูงสุดของยอดเขา
เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการให้หลินสวินเสี่ยงชีวิต!
ใครก็รู้ว่าใกล้ๆ กับโอสถสมบัติมหัศจรรย์ต้นนั้นมีความน่ากลัวใหญ่หลวงซ่อนอยู่ ซึ่งเกี่ยวข้องกับผนึกค่ายกลโบราณที่จุดสูงสุดของยอดเขา หากเข้าไปเด็ดสุ่มสี่สุ่มห้า ผลลัพธ์ต้องน่าอนาถแน่
“ได้สิ”
เหนือความคาดหมายของทุกคน หลินสวินกลับตอบรับอย่างยินดี
ชั่วขณะนี้ผู้ฝึกปราณที่ซ่อนอยู่ในความมืดเหล่านั้นล้วนนึกว่าตนหูฝาดไป เมื่อกี้เจ้าเด็กนี่ยังแข็งกร้าวปานนั้น เหตุใดจู่ๆ ถึงเปลี่ยนความคิดเสียล่ะ
หรือว่าเขาก็หวาดหวั่นอานุภาพร้ายกาจของอสูรเฒ่าเครือเถาแล้ว
“หึ ที่แท้เจ้าก็กลัวตายสินะ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็รีบไปจัดการเสียเถิด!”
อสูรเฒ่าเครือเถาแสดงสีหน้าดูถูก ท่าทีมั่นคงก่อนหน้านี้ของเด็กหนุ่มถูกเขามองว่าเป็นการแสร้งทำเป็นเข้มแข็ง ทว่าภายในอ่อนแอ
“ก็ได้ ในเมื่อเจ้ารีบร้อนขนาดนี้ เช่นนั้นข้าก็จะทำให้เจ้าสมใจ” หลินสวินพยักหน้า พุ่งตัวออกไปยังโอสถสมบัติมหัศจรรย์ต้นนั้น
“รีบร้อนหรือ ทำให้ข้าสมใจหรือ” นัยน์ตาอสูรเฒ่าเครือเถาหรี่ลง รู้สึกว่าคำพูดนี้ประหลาดชอบกล
ครู่ต่อมาเขาก็หน้าเปลี่ยนสี คำรามอย่างกราดเกรี้ยว “หยุดนะ…!”
ด้วยเห็นว่าหลินสวินพลันหยิบคมดาบขาวเจิดจ้าราวหิมะเล่มหนึ่งออกมา ฟันใส่โอสถสมบัติมหัศจรรย์ที่อยู่ไม่ไกลทันทีด้วยความเร็วเหลือเชื่อ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์