เดิมเขาวางแผนล่อเสือออกจากถ้ำ ชักนำอสูรเฒ่าเครือเถาไปยังสถานที่ลับตาคน จากนั้นค่อยอาศัยธนูวิญญาณไร้แก่นสารจู่โจมสังหารมัน
แต่เขากลับคาดไม่ถึง อสูรเฒ่าเครือเถาซึ่งอยู่ภายใต้ความเดือดดาลถึงกับวางวาสนาบนยอดเขาดาราโรยไม่ลง ไม่ได้ไล่ตามมาสังหาร
“คุณชายเก่งกล้าสามารถฝีมือเทียมฟ้า วันนี้ข้าเหล่าจูเปิดโลกทัศน์จริงๆ นับถืออย่างยิ่ง โปรดรับการคารวะจากข้าเหล่าจู!”
ด้านข้าง หมูอสูรมารท่าทางเคร่งขรึมจริงจังโค้งคำนับ สีหน้าเปี่ยมด้วยความเลื่อมใส
เพี๊ยะ!
หลินสวินฟาดฝ่ามือหนึ่งลงบนท้ายทอยเขา ก่อนกล่าวเย็นชา “ประจบสอพลอให้น้อยหน่อย อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ คราวนี้หากข้าเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น เกรงว่าเจ้าคงดีใจกว่าใครเพื่อน”
หมูอสูรมารแยกเขี้ยวยิงฟันลูบท้ายทอยบวมเป่ง กล่าวหน้าตาน้อยใจ “คุณชาย ท่านเข้าใจผิดแล้ว ข้าเหล่าจูจะเป็นพวกอกตัญญูได้อย่างไร”
“หน้าไม่อาย!”
แม้แต่ซย่าเสี่ยวฉงยังทนดูไม่ไหว กลอกตาใส่หมูอสูรมารคราหนึ่ง เจ้าหมอนี่ไร้ศีลธรรมเกินไปแล้ว ก่อนหน้ามัวแต่คิดว่าจะเผ่นอย่างไรมาตลอดแท้ๆ
หมูอสูรมารไม่กระดากละอายแม้แต่น้อย ยังคงมีท่าทางโศกเศร้ากล่าวทอดถอนใจ “เฮ้อ ดูท่าแม่นางน้อยก็เข้าใจผิด ไม่สู้พวกเราไปพูดคุยตามลำพังเล่า”
พูดพลางมองซย่าเสี่ยวฉงด้วยหน้าตาคาดหวัง
ซย่าเสี่ยวฉงตกใจสะดุ้งโหยง “ข้าไม่อยากพูดคุยกับหมูตัวหนึ่งเพียงลำพัง น่ากลัวเกินไปแล้ว”
หมูอสูรมารตัวนี้พิกลซะจริง ไม่มีศีลธรรมซ้ำยังหน้าด้าน ทำให้หลินสวินยังอดเลื่อมใสไม่ได้
“เสี่ยวฉง เหลือเวลาทดสอบแค่สามวัน เจ้าต้องเร่งมือหน่อย”
หลินสวินพลันกล่าว
ซย่าเสี่ยวฉงชะงักกึก ใบหน้าเล็กไร้เดียงสาย่นยู่ขึ้นทันที กล่าวโอดครวญ “โอ๊ย ข้าน่ะไม่อยากเข่นฆ่าล่าสัตว์อีกแล้ว เหนื่อยเหลือเกิน ข้าเองก็ไม่ชอบกลิ่นคาวเลือด…”
หมูอสูรมารที่อยู่ด้านข้างพลันเอาอกเอาใจทันที ตบหน้าอกกล่าว “แม่นางน้อย ข้าเหล่าจูไปเป็นเพื่อนเจ้า ยกชารินน้ำนวดบ่าทุบขา ข้าเชี่ยวชาญทุกอย่าง รับรองว่าเจ้าต้องพอใจ!”
นี่ยังเป็นพญาอสูรมารระดับกระบวนแปรจุติอยู่ไหมเนี่ย
หลินสวินแทบหมดคำพูด
แต่ซย่าเสี่ยวฉงยิ่งกล่าวดูถูก “เสียแรงที่เจ้าเป็นส่วนหนึ่งของอสูรมารบำเพ็ญ รู้ว่าข้าจะล่าสังหารพวกเจ้าสัตว์ปีศาจอสูรมาร เจ้าไม่เพียงไม่ขัดขวาง กลับยังเสนอตัวมาช่วย ช่างไร้ยางอายซะจริง!”
หมูอสูรมารท่าทางครัดเคร่งคุณธรรม คิดจะพูดอะไรก็ถูกเท้าข้างหนึ่งของหลินสวินถีบเข้าจังๆ ด้วยเขาออกจะรับเจ้าหมอนี่ไม่ได้อยู่บ้าง ช่าง… หน้าด้านเกินไปแล้ว!
…
รัตติกาลลาลับ รุ่งอรุณทอแสงเบิกฟ้า วันใหม่มาเยือน
ภูเขาโคม่วงกว้างขวาง หมู่เขาซ้อนสลับยอดทิวร่วมแนว ย้อมแสงทองอร่ามแห่งอาทิตย์ยามเช้า สาดประกายพลังชีวิตอันแตกต่าง
ในลำธารกลางหุบเขา ซย่าเสี่ยวฉงกำลังถือทวนเงินเล่มหนึ่งเข่นฆ่าปลาอสูรมารเกศเขียวสิบกว่าตัวซึ่งครองอาณาเขตในลำธาร
บริเวณที่ไม่ห่างเท่าไหร่หมูอสูรมารกำลังง่วนอยู่กับการก่อไฟต้มน้ำ คิดว่าอีกประเดี๋ยวจะนำปลาอสูรมารซึ่งถูกฆ่าบางตัวลงหม้อ ต้มสุกแล้วเติมเต็มท้อง
ยอดเขาเตี้ยต่ำลูกหนึ่งริมลำธารกลางหุบเขา หลินสวินนั่งหันหน้าเผชิญดวงตะวัน เงาร่างสูงสง่าอาบไล้ท่ามหมอกแสงรุ่งอรุณ ดูโดดเด่นละโลกีย์
ไม่นานนักเขาตื่นจากสมาธิ หัวคิ้วขมวดมุ่นอย่างอดไม่อยู่
พลังปราณของเขาบรรลุถึงขั้นสมบูรณ์สูงสุดของระดับหยั่งสัจจะนานแล้ว ระยะนี้แทบสะกดข่มแรงกระตุ้นของการเลื่อนสู่ระดับกระบวนแปรจุติไม่อยู่
นี่คือสิ่งที่หลินสวินไม่หวังจะเห็น
เพราะที่เขาดำเนินคือมรรคาแห่งมกุฎราชัน แม้พลังปราณปัจจุบันบรรลุถึงขั้นสมบูรณ์ แต่ด้านการฝึกยุทธ์และลำดับขั้นแจ้งมรรคยังมีข้อบกพร่องบางส่วน
อย่างเช่น ‘มังกรเคราะห์เก้ากระบวนแปร’ ‘เคล็ดวิชาเก้าหมัดสะเทือนสวรรค์’ มรดกวิชาลับสองส่วนนี้ก็ไม่เคยบรรลุถึงขั้นสมบูรณ์ไร้บกพร่อง
หรืออย่างท่วงทำนองแห่งมรรคธาตุน้ำที่เขาควบคุม แม้สมบูรณ์แบบแล้ว แต่กลับยังไม่อาจทลายปราการก้าวสู่ระดับ ‘เจตจำนงแห่งมรรค’ ที่สูงขั้นกว่าได้
‘จำเป็นต้องทำเวลาหลอมชำระวิชายุทธ์และพลังท่วงทำนองแห่งมรรคธาตุน้ำ…’
หลินสวินเข้าใจกระจ่างนานมากแล้ว พลังแห่งมหามรรค มีเพียงถึงระดับกระบวนแปรจุติจึงจะสามารถสะท้อนอานุภาพของมันออกมาอย่างแท้จริง
ถึงเวลานั้นในการต่อสู้ของผู้ฝึกปราณ พลังมหามรรคที่ควบคุมได้ยิ่งแกร่ง ยิ่งสามารถเผยศักยภาพของตนอย่างทรงพลัง!
หลินสวินนิ่งเงียบไปครู่หนึ่งค่อยนำม้วนคัมภีร์สีขาวเงินเรียบง่ายม้วนหนึ่งออกมา นี่คือ ‘เคล็ดวิชาเร้นดาราควบคุมหนอน’ ที่ได้มาจากเซ่าเฮ่า เป็นวิชาลับซึ่งใช้เลี้ยงและควบคุมหนอนกินเทพโดยเฉพาะ
พอนึกถึงเซ่าเฮ่า หลินสวินก็อดนึกถึงยอดเขาดาราโรยปริศนาลูกนั้นไม่ได้
ค่ายกลใหญ่ซึ่งอบอวลด้วยไอศักดิ์สิทธิ์อันเก่าแก่ ไข่แห่งกลุ่มดาว รวมถึงนายน้อยเผ่าราชันเร้นดาราผู้หนึ่งซึ่งจำศีลอยู่ภายใน…
ทุกอย่างนี้ล้วนเห็นได้ว่าวิเศษอัศจรรย์เหลือเกิน ทำให้ผู้คนยากจะเข้าใจ
หลินสวินสูดหายใจลึก ไม่คิดมากความอีก เริ่มศึกษาเคล็ดวิชาเร้นดาราควบคุมหนอน
สองสามชั่วยามผ่านไปโดยไม่รู้ตัว
เมื่อถึงยามเที่ยง หลินสวินปิดม้วนคัมภีร์ในมือ นัยน์ตาดำยังเต็มไปด้วยความรู้สึกตระหนกและอัศจรรย์
จากที่บันทึกไว้ ที่มาของหนอนกินเทพน่าอัศจรรย์ยิ่งยวด ถูกจัดอยู่ในอันดับเจ็ดแห่ง ‘กระดานหนอนประหลาดบรรพกาล’!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์