ผู้ฝึกปราณทั้งหมดในโรงเตี๊ยมรับรู้ได้อย่างว่องไวว่า การที่สามารถถูกฟางหลินหานเชิญประลองด้วยตนเอง เด็กหนุ่มนั่นไม่มีทางเป็นคนธรรมดาแน่นอน!
นึกถึงท่าทีนิ่งสงบของหลินสวินเมื่อครู่ยามเผชิญหน้าฟางหลินหาน ทำให้ผู้ฝึกปราณเหล่านี้ต่างคาดเดาอย่างลุ่มลึกทันที
“ตรวจสอบดูซิ เจ้าหมอนี่เป็นเทพสวรรค์จากที่ใดกันแน่!”
ไม่ช้าเหล่าผู้ฝึกปราณในโรงเตี๊ยมต่างรีบเร่งออกไป หนึ่งคือมุ่งหมายสืบข่าวถามที่มาของหลินสวินโดยเร็ว
สองคือ ความจริงแล้วพวกเขาไม่อยากรั้งอยู่ต่อ ฟางหลินหานหยิ่งผยองเกินไป เมื่อครู่ด่าจนพวกเขาเดือดพล่านหาใดเปรียบ หากอยู่ต่อไปคงไม่ต่างอะไรกับหาเรื่องให้ถูกด่า
ฟางหลินหานหาได้ใส่ใจเหล่าผู้ฝึกปราณที่เผ่นแน่บจากไป แต่ทอดสายตามองยังห้องที่หลินสวินอยู่
‘น่าสนใจ แคว้นวิญญาณอัคนีนอกจากเยวี่ยเจี้ยนหมิงนั่นแล้ว ในที่สุดก็ปรากฏคู่ต่อสู้ที่พอเข้าตาอีกคน…’
แววตาเขาเต็มไปด้วยประกายวาววาม ครู่ใหญ่จึงถอนสายตากลับ เผยรอยยิ้มโดยไร้สุ้มเสียงก่อนหันหลังเดินกลับเข้าห้องตน
…
เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ!
ภายในห้องหลินสวิน เสียงแตกละเอียดดังขึ้น หนอนกินเทพขนาดเท่าเมล็ดข้าวตัวดำสนิทเก้าตัวกำลังกินอาหารอย่างปิติกระฉับกระเฉง
เพียงไม่นาน หยกควบรวมจิตระดับกลางที่เหลือแค่สองก้อนในมือหลินสวินก็ถูกเขมือบจนเกลี้ยง
‘หิว…’
หนอนกินเทพเก้าตัวเห็นชัดว่ากินไม่อิ่ม แผ่คลื่นจิตสายหนึ่งออกมา
หลินสวินพลันปวดหัว เจ้าพวกตัวน้อยนี่อย่าเห็นว่าขนาดแค่เมล็ดข้าว แต่กินเก่งยิ่ง นี่เพิ่งแค่ไม่กี่วันก็กินหยกควบรวมจิตระดับกลางหมดไปสามก้อนแล้ว
ต้องรู้ว่าหยกควบรวมจิตระดับกลางก้อนหนึ่งสะสมจิตวิญญาณสามร้อยถึงห้าดวง!
นี่ก็หมายความว่า ต้องล่าสัตว์ปีศาจพลังปราณระดับมหาสมุทรวิญญาณจำนวนสามร้อยถึงห้าร้อยตัวขึ้นไป จึงจะสามารถเปลี่ยนเป็นหยกควบรวมจิตระดับกลางก้อนหนึ่ง!
แต่สำหรับหนอนกินเทพ สามารถกินหยกควบรวมจิตระดับกลางก้อนหนึ่งจนหมดในเวลาไม่นาน ซ้ำยังกินไม่อิ่ม…
นี่จะไม่ให้หลินสวินปวดหัวได้อย่างไร
วันนี้ขณะเขาเดินเล่นในนครเตโช ก็รู้สอบถามมาจนรู้ว่าการซื้อขายแลกเปลี่ยนของที่นี่แตกต่างจากโลกชั้นล่าง ผู้ฝึกปราณดินแดนรกร้างโบราณจะใช้แกนวิญญาณแทนสกุลเงิน
ผลึกวิญญาณระดับสูงสิบก้อน เท่ากับแกนวิญญาณขั้นต่ำหนึ่งก้อน
แกนวิญญาณขั้นต่ำหนึ่งร้อยก้อน เท่ากับแกนวิญญาณขั้นกลางหนึ่งก้อน
แกนวิญญาณขั้นกลางหนึ่งร้อยก้อน เท่ากับแกนวิญญาณขั้นสูงหนึ่งก้อน
และมูลค่าทางตลาด หยกควบรวมจิตระดับต่ำซึ่งสะสมจิตวิญญาณจนเต็มหนึ่งก้อน ต้องการแกนวิญญาณขั้นต่ำประมาณหนึ่งร้อยก้อน หรือก็คือเท่ากับแกนวิญญาณขั้นกลางหนึ่งก้อน
ดูไปแล้วราคาอาจไม่สูง แต่หากคำนวณเป็นผลึกวิญญาณระดับสูง หยกควบรวมจิตระดับต่ำหนึ่งก้อนจะเท่ากับผลึกวิญญาณระดับสูงหนึ่งพันก้อนเต็ม!
ผลึกวิญญาณระดับสูงหนึ่งพันก้อน เพียงพอให้หลินสวินใช้ฝึกปราณครึ่งเดือน แต่ที่ดินแดนรกร้างโบราณกลับแลกเปลี่ยนได้แค่แกนวิญญาณขั้นต่ำหนึ่งร้อยก้อน หรือแลกเปลี่ยนเป็นหยกควบรวมจิตระดับต่ำหนึ่งก้อน…
เปรียบเทียบเช่นนี้ก็รู้แล้วว่า ภายในแดนรกร้างโบราณ มูลค่าของหยกควบรวมจิตแพงและน่าทึ่งระดับใด
นี่ยังเป็นแค่มูลค่าของหยกควบรวมจิตระดับต่ำ
ส่วนหยกควบรวมจิตระดับกลางหนึ่งก้อน กลับต้องการแกนวิญญาณขั้นกลางสิบก้อนเต็ม!
นี่เท่ากับแกนวิญญาณขั้นต่ำหนึ่งพันก้อน!
เมื่อนึกถึงว่าหนอนกินเทพเก้าตัวนี้ แค่เวลาไม่กี่วันก็กินหยกควบรวมจิตระดับกลางสามก้อนจนเกลี้ยง หรือก็คือแกนวิญญาณขั้นต่ำสามพันก้อน หลินสวินล้วนหน้ามืดอยู่บ้าง
การลงทุนนี้ช่างน่าหวาดกลัวเกินไปพอดู!
‘มิน่าล่ะสมัยบรรพกาลจำนวนหนอนกินเทพถึงมีน้อยอย่างยิ่ง แค่ราคาที่ต้องจ่ายสำหรับเลี้ยงพวกมันก็ไม่ใช่สิ่งที่ใครจะสามารถแบกรับไหว…’
หลินสวินทอดถอนใจ
เขามายังดินแดนรกร้างโบราณครานี้ ภายในเจดีย์สมบัติไร้อักษรพกผลึกวิญญาณระดับสูงจำนวนมากมาด้วย
แต่หากแลกเปลี่ยนเป็นแกนวิญญาณขั้นต่ำ เบ็ดเสร็จยังแลกเปลี่ยนได้แค่ห้าร้อยกว่าก้อน เท่ากับแกนวิญญาณขั้นกลางห้าก้อน…
ทรัพย์สินนี้ ซื้อหยกควบรวมจิตระดับกลางได้เพียงครึ่งก้อน!
ยิ่งคิดหลินสวินยิ่งกลัดกลุ้ม หนอนกินเทพที่ไหนกัน เห็นชัดว่าเป็นหนอนดูดเลือดกินคนไม่คายกระดูกฝูงหนึ่ง!
‘จำเป็นต้องเร่งหาเงิน!’
นานพอควรหลินสวินจึงกัดฟัน ทำการตัดสินใจ
ไม่เพียงแต่เลี้ยงหนอนกินเทพ จากนี้ยามฝึกปราณในดินแดนรกร้างโบราณ หากไม่มีทรัพย์สินเพียงพอจะเดินหน้าได้อย่างยากลำบาก
ที่สำคัญที่สุดคือแกนวิญญาณหาใช่แค่สกุลเงิน
มันยังเป็นวัตถุวิญญาณตามธรรมชาติอย่างหนึ่ง แฝงพลังวิญญาณบริสุทธิ์เต็มเปี่ยมยิ่งยวด เทียบกับผลึกวิญญาณระดับสูงแล้วล้ำค่ากว่ามาก คือสิ่งจำเป็นอย่างหนึ่งซึ่งสามารถเติมเต็มการฝึกปราณประจำวันของมหายุทธ์ระดับหยั่งสัจจะและระดับกระบวนแปรจุติได้โดยสมบูรณ์
…
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น หลินสวินตื่นจากการนั่งสมาธิและมาที่ชั้นแรกของโรงเตี๊ยม สั่งน้ำชามากาหนึ่งแล้วรินดื่ม
ในใจเขาสงสัยอยู่บ้าง คำนวณตามเวลา งานประลองใหญ่รวมสำนักซึ่งจัดขึ้นโดยสี่สำนักสามตระกูลได้ปิดฉากลงเมื่อวาน
แต่จวบจนตอนนี้ซย่าเสี่ยวฉงกลับยังไม่มาหาตน หรือจะเกิดเหตุไม่คาดฝันอะไรขึ้น
“คุณชาย ข้าน้อยหม่าสิงคง ปัจจุบันทำงานให้ตระกูลเซียวแห่งแคว้นวิญญาณอัคนี ไม่ทราบว่าคุณชายชื่อเสียงเรียงนามว่ากระไร”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์