เช่นเดียวกัน หากคิดแพร่ข่าวอะไร เผ่าวาทวาโยสามารถรับหน้าที่อย่างสบายเช่นกัน ความปากสว่างของพวกเขาล้วนสร้างชื่อทั่วดินแดนรกร้างโบราณ
แน่นอนว่าเผ่าวาทวาโยรับผิดชอบแค่การค้นหารวบรวมและกระจายข่าวสาร สำหรับข้อเท็จจริงของข่าว พวกเขาไม่ไปคัดกรองหรอก
บางครั้งการสร้างข่าวลือเท็จเทียมส่วนหนึ่งก็นำมาซึ่งการประณามด่าทอจากผู้ฝึกปราณมากมาย มองว่าพวกเขาฟังลมเป็นฝน แพร่ข่าวลือโป้ปดหลอกลวงปวงชน
แต่โดยส่วนใหญ่ข่าวที่เผ่าวาทวาโยเผยแพร่ยังคงเชื่อถือได้มาก
“น่าแปลก เมื่อวานลานประลองยุทธ์ไก่ฟ้าสีเงินยังมีการต่อสู้ยอดเยี่ยมหาใดเปรียบอยู่เลย ทำให้เด็กหนุ่มปริศนาคนหนึ่งผงาดกร้าว เอาชนะสถิติของเฉิงลี่เสวี่ยในคราเดียว อึกทึกครึกโครมทั้งสนาม แต่ทำไมกลางดึกเมื่อคืนลานประลองยุทธ์ไก่ฟ้าสีเงินถึงไฟไหม้ได้”
เมื่อได้ยินข่าวที่เผ่าวาทวาโยเผยแพร่ ผู้ฝึกปราณมากมายต่างประหลาดใจ
“เหอะๆ อาจเป็นเรื่องที่คู่แข่งบางส่วนของลานประลองยุทธ์ไก่ฟ้าสีเงินสร้างขึ้นก็เป็นได้ ถึงอย่างไรคนร่วมอาชีพนั่นแหละคือศัตรูคู่แค้น และนครเตโชก็มีลานประลองยุทธ์หลายสิบแห่ง การประชันขันแข่งและต่อต้านล้วนยากหลีกเลี่ยง”
มีคนทำการสันนิษฐาน มีสุขบนทุกข์ของผู้อื่น
ได้ยินเสียงวิพากษ์วิจารณ์เหล่านี้ หลินสวินตีหน้าซื่อ ในใจกลับรู้สึกประหลาดอยู่บ้าง ไหนเลยจะคาดคิดว่าเรื่องที่เขาก่อกลับทำลานประลองยุทธ์อื่นกลายเป็นแพะรับบาป
แต่เช่นนี้ก็ดี อย่างน้อยที่สุดต่อให้ลานประลองยุทธ์ไก่ฟ้าสีเงินแค้นตนเข้ากระดูก เกรงว่าคงไม่มีทางนำเรื่อง ‘อัปยศอดสูใหญ่หลวง’ เช่นนี้ป่าวประกาศออกมา
หากเป็นเช่นนั้นจริง นั่นคงไม่ต่างอะไรกับตบหน้าตัวเอง ที่เสียหน้าคงมีเพียงลานประลองยุทธ์ไก่ฟ้าสีเงินเท่านั้น
“ฮ่า ชะตาฟ้าลิขิต เดิมวันนี้ไม่คิดไปลานประลองยุทธ์ไก่ฟ้าสีเงิน ที่นั่นก็บังเอิญไฟไหม้พอดี”
ซย่าเสี่ยวฉงหลุดขำ สาวน้อยไร้เดียงสาช่างไม่รู้อะไร เพลิงอัคคีครั้งนี้แท้จริงแล้วเกิดจากหลินสวินผู้อยู่ข้างกายนาง
“ชะตาฟ้าลิขิตจริงๆ” หลินสวินยิ้มรับ สองมือวางไว้หลังศีรษะ เดินเล่นตามสบายบนถนนสายหลักอันครึกครื้น ยิ้มมีนัยลึกซึ้ง
…
ลานประลองยุทธ์พันกระเรียน
ด้วยมีประสบการณ์การต่อสู้ที่ลานประลองยุทธ์ไก่ฟ้าสีเงินแล้ว เมื่อมาถึงที่นี่หลินสวินทำการสมัครอย่างคุ้นเคย จากนั้นจึงขึ้นสังเวียนประลอง
การหลอมชำระวิถียุทธ์ต่างจากการสังหารศัตรูจริง ต้องการผู้แข็งแกร่งที่สามารถต่อสู้อย่างแท้จริงมาแลกเปลี่ยนความรู้และต่อกร และในระหว่างประลองก็เคี่ยวกรำหยั่งรู้ปริศนาแก่นพิสุทธิ์ของวิถียุทธ์อย่างแท้จริง
นี่ก็คือการ ‘ประลองฝีมือ’ ที่เรียกกันทั่วไป
สำนักโบราณบางส่วน ถึงขั้นมีผู้อาวุโสเยี่ยมยุทธ์เฉพาะทางมาต่อสู้แลกเปลี่ยนความรู้กับศิษย์ ทุ่มเทชี้แนะสุดแรงใจ และสามารถทำให้ศิษย์ยึดกุมแก่นพิสุทธิ์วิชาลับบางประการได้ในเวลาอันรวดเร็ว
เห็นชัดว่าสำหรับหลินสวินนี่คงเป็นเรื่องเพ้อฝันไม่อาจเอื้อม
ลานประลองยุทธ์นครเตโชแม้มีมากและไม่ขาดแคลนผู้แข็งแกร่งชั้นยอด แต่ที่สามารถต่อกรกับหลินสวินกลับน้อยเสียยิ่งกว่าน้อย
ภายใต้ความจนปัญญา หลินสวินได้แค่ระงับพลังของตนทำการฝึกยุทธ์
อีกทั้งมีบทเรียนจากลานประลองยุทธ์ไก่ฟ้าสีเงิน ครั้งนี้เขาจึงเปลี่ยนวิธี หลังชนะแต่ละสนามจะพักก่อนรอบหนึ่ง
และเมื่อชนะถึงยี่สิบสนามก็จะรับรางวัลค่อยลาจาก เปลี่ยนลานประลองยุทธ์แห่งอื่นและทำการขึ้นสังเวียนประลอง
จริงดังคาด หลังทำเช่นนี้ความสนใจที่ได้รับน้อยลงมากอย่างชัดเจน ยามรับรางวัลก็ไม่เจอการเล่นแง่อีก
สองสามวันต่อมา หลินสวินผ่านลานประลองยุทธ์แต่ละแห่งในนครเตโชอย่างนับว่าไปได้ดีมาก
ระหว่างนั้นแม้เขาไม่เคยเจอคู่แข่งที่ทำให้รู้สึกถึงความกดดันอย่างแท้จริง แต่กลับเจอวิชาลับการต่อสู้สารพัดสารพัน
อีกทั้งรูปแบบความชำนาญในการต่อสู้ของผู้แข็งแกร่งต่างเผ่าพันธุ์ล้วนต่างกันออกไป เรียกได้ว่าหลากหลายประเภท ทำให้หลินสวินได้เปิดโลกทัศน์ ได้ประโยชน์ไม่น้อยโดยปริยาย
อย่างเช่นผู้แข็งแกร่งเผ่าเพลิงหินหนืด ทันทีที่ประลองก็เปลี่ยนเป็นหินหนืดเชี่ยวกราก คลื่นอัคนีดุจสายธารปกคลุมฟ้าดิน เผาทำลายห้วงอากาศ เด็ดขาดดุดันเหลือประมาณ
หรืออย่างผู้แข็งแกร่งเผ่าทอฝัน ชำนาญการโจมตีจิตวิญญาณ วิชาลับที่สำแดงสามารถถักทอเขตแดนมายาจู่โจมเสมือนจริงมากมาย แท้เทียมคละผสม ดุจดั่งความฝันเสมือนภาพลวงตา สามารถสังหารคนอย่างไร้ร่องรอย
ยังมีผู้แข็งแกร่งเผ่าฟ้าเครือพฤกษาซึ่งตามพัวพันอย่างที่สุด มีความสามารถเด่นล้ำในการฟื้นคืนตน หลั่งโลหิตคืนชีวา!
หรือพูดได้ว่าแม้สังหารจนเขาเหลือเพียงเลือดหยดเดียว แต่แค่สบโอกาสเขาก็จะรวมกายกลับมาใหม่อีกครั้ง!
นอกจากนี้ยังมีเผ่าอสูรมารบุปผาเขียวที่ชำนาญการใช้พิษ เผ่าเงาหมอกที่สามารถซ่อนเร้นกลบร่องรอย เผ่าจินตเมฆาที่ควบคุมสัตว์ปีศาจลงกรำศึกได้แต่กำเนิด… และอีกต่างๆ นานา
การต่อสู้กับพวกเขาทำให้หลินสวินได้เปิดโลก และทำให้เขามีประสบการณ์และเรียนรู้หลายสิ่ง
นี่ทำให้หลินสวินเองทอดถอนใจ ดินแดนรกร้างโบราณนี้ใหญ่โตนัก แผ่กว้างไพศาล หมื่นเผ่าพันธุ์เรียงราย แต่ละเผ่าพันธุ์ต่างมีพรสวรรค์ จึงสามารถดำรงอยู่ท่ามกลางการประชันขันแข่งอันเหี้ยมโหดจวบจนปัจจุบัน
…
“น้องหลินสวิน ไม่คิดมาเล่นสนุกกับข้าจริงหรือ” ภายในโรงเตี๊ยม ฟางหลินหานถามยิ้มระรื่น
หลายวันนี้แค่เขากลับจากลานประลองยุทธ์นครเตโชก็จะมาเซ้าซี้หลินสวิน หมายต่อสู้แลกเปลี่ยนความรู้กับหลินสวินสักตั้งให้ได้ ทำหลินสวินปวดหัวหาใดเปรียบ
ฟางหลินหานดูเหมือนรู้ว่าหลินสวินไม่มีทางรับคำ เขาพลันเปลี่ยนประเด็นทันที “จริงสิ วันนี้มีข่าวน่าอัศจรรย์หนึ่ง บอกว่ายอดเขาดาราโรยในส่วนลึกภูเขาโคม่วงเกิดการต่อสู้สะเทือนใต้หล้า อสูรเฒ่าเครือเถาเกือบถูกสังหาร บาดเจ็บสาหัสหนีหัวซุกหัวซุน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์