ตอน ตอนที่ 800 เลือกหนทางตาย จาก Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
ตอนที่ 800 เลือกหนทางตาย คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายกำลังภายใน Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
แม้ขณะนี้ตกอยู่ท่ามกลางวงล้อม ปฏิกิริยาตอบสนองของเขานับว่าน่าตกตะลึงและอาจหาญ พลานุภาพผงาดผยอง พลังรุนแรงร้ายกาจ ฉวยทุกโอกาสการต่อสู้โจมตีศัตรูอย่างหนักหน่วง
ปึง!
ทันใดนั้นเงาร่างหนึ่งพลันโฉบออกมาดุจภูตผี มือกระชับเหล็กหมาดปลายแหลม สาดแสงยะเยือกบาดตากลางอากาศ พุ่งตรงเข้ามาจู่โจมหลังศีรษะหลินสวิน
หลินสวินไม่แม้แต่หันกลับ โคจร ‘ผนึกป้าเซี่ย’ ปล่อยพลังไร้รูปออกมา คู่ต่อสู้พลันถูกพันธนาการประหนึ่งหนอนแมลงติดใยแมงมุมกลางคัน
แย่แน่!
คู่ต่อสู้ตระหนก ดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง
แต่หลินสวินฉวยโอกาสนี้ ร่างกายเคลื่อนไปข้างหลังโดยพลัน แผ่นหลังโก่งขึ้น สำแดงภาพมายาฟู่ซี่เข้าปะทะเต็มกำลัง
ตูม!
มหายุทธ์คนนี้ร้องโหยหวน ทั้งตัวถูกกระแทกกระเด็นสูงไประยะร้อยจั้งปานว่าวสายป่านขาด โลหิตทั่วร่างพรั่งพรู กระดูกปริแตกออกจากกัน
สุดท้ายก็ร่วงลงพื้นดังตุ้บ หัวทิ่มคอแทบหัก ตาเหลือกหมดสติทันที
น่าอนาถเกินไปแล้ว!
ถูกปะทะฟู่ซี่กระแทกร่างเข้าจังๆ พลังน่าหวาดกลัวเช่นนั้นไม่ด้อยไปกว่าถูกคีรีเทพเคลื่อนทับ!
ขณะเดียวกันหลินสวินหมายหัวชายหนุ่มเคร่งขรึมผมแดงดุจเพลิงผลาญ การเข่นฆ่าโรมรันเมื่อครู่ เห็นได้ชัดว่าเจ้าหมอนี่เจ้าเล่ห์ผิดธรรมดา ทันทีที่จู่โจมพลาดก็ถอยร่น รับมือได้ยากนัก ทำเอาหลินสวินพลาดโอกาสจู่โจมสังหารศัตรูหลายครา
ชิ้ง!
ดาบหักออกโจมตี กลายเป็นแสงคมไร้เทียมทานเปล่งประกายแวววาว พุ่งวาบหายไปในพริบตาเดียวท่ามกลางห้วงนภายามค่ำคืน นี่ก็คือศาสตราจิตซึ่งควบคุมโดยจิตรับรู้ รวดเร็วว่องไวหาใดเปรียบ
พรูด!
ชายหนุ่มเคร่งขรึมนั่นไม่สามารถหลบได้ ถูกดาบหักเฉือนตัดหูไปข้างหนึ่ง ขณะเดียวกันแขนซ้ายและไหล่ก็ถูกฟันขาด เลือดแดงสดสาดกระเซ็น
แต่ไม่อาจไม่พูดถึง คนผู้นี้กร้าวแกร่งยิ่งยวด ขณะได้รับบาดเจ็บสาหัส เงาร่างยังพุ่งทะยานหนีห่างออกไปไกล
เพียงแต่สีหน้ากลับเปลี่ยนเป็นผิดแปลกหาใดเปรียบ ภายใต้ความเจ็บปวดสาหัสเกินทน เขาคำรามลั่น “น่าอัปยศนัก! พวกเรามีมากขนาดนี้จะกำราบมันไม่ลงเชียวรึ”
มหายุทธ์คนอื่นแห่งสำนักมุกวิญญาณสีหน้ายุ่งยากหาใดเปรียบ นับจากเริ่มสู้จนถึงตอนนี้ ฝั่งพวกเขามีพวกพ้องบาดเจ็บสาหัสไปห้าหกคนแล้ว เกือบถูกสังหารอยู่หลายครา
ตรงกันข้ามศัตรูกลับไร้ความเสียหาย อานุภาพกร้าวแกร่งยิ่งกว่าเดิม นี่ทำให้พวกเขาอัดอั้นและเคียดแค้นอยู่ในใจ รู้สึกอับอายหาใดเปรียบ
“เจ้าเด็กสวะ ดูสิว่าเจ้าจะอาละวาดได้สักกี่น้ำ!”
เวลานี้ฮว่าชิงฉือไม่อาจนิ่งดูดาย เขาเริ่มเคลื่อนไหวเช่นกัน แขนเสื้อเกิดเสียงสะบัดโบก เรียกกระถางหยกสีขาวซึ่งมีกลิ่นอายโบราณออกมา ตัวกระถางสูงเพียงหนึ่งฉื่อ มีสามขาสองหู พื้นผิวสลักภาพลับลายเมฆขด
วู้ม!
กระถางหยกทะยานฟ้า เรืองแสงหมุนวน ห้วงอากาศราวไม่อาจแบกรับน้ำหนักมัน ทรุดทลายปริออกสนั่นหวั่นไหว!
นี่คือสมบัติโบราณที่น่ากลัวยิ่งยวดชิ้นหนึ่งโดยไม่ต้องสงสัย ทั้งยังสมบูรณ์ไร้ตำหนิ ทำให้อานุภาพของมันไม่ธรรมดายิ่งกว่าเดิม
ครืนๆ…
ขณะหมุนวน รอบตัวกระถางหยกแผ่รุ้งเทพที่ราวกับหยกขาวสายแล้วสายเล่าออกมาอย่างแผ่วพลิ้ว ยาวประมาณร้อยจั้ง ตัดผ่านอากาศเข้าไปปกคลุมหลินสวิน อานุภาพแห่งรัศมีแสงทำให้ม่านรัตติกาลบนท้องฟ้าสว่างจ้า
นัยน์ตาหลินสวินหรี่ลง ดาบหักพุ่งโฉบอากาศ เข้าประจัญบานกับกระถางหยก แสงศักดิ์สิทธิ์โหมกระหน่ำ เสียงปะทะปึงปังกัมปนาท
ที่ทำหลินสวินเกินคาดหมายอยู่บ้างคือกระถางหยกนั่นแข็งแกร่งผิดธรรมดา ใช้คมของดาบหักล้วนไม่อาจก่อความเสียหายแก่มัน
แต่ฮว่าชิงฉือกลับตะลึงยิ่งกว่า ที่มาของกระถางหยกของเขาไม่ธรรมดา เป็นสมบัติหายากตกทอดมาจากบรรพกาลที่ได้มาจากแดนเร้นลับแห่งหนึ่ง พลานุภาพเรียกได้ว่าเป็น ‘ยอดศาสตรามรรคราชัน’
แต่บัดนี้กลับทำอะไรดาบหักเล่มหนึ่งไม่ได้ นี่ทำให้เขารู้ได้ทันทีว่าดาบหักนั่นต้องไม่ใช่ธรรมดา!
“ลุยพร้อมกัน ฆ่าเด็กนี่ซะ!”
ฮว่าชิงฉือตวาดลั่น พลังอำนาจน่ายำเกรง เผ้าผมหนวดเคราแผ่สยาย มือกระชับกระถางหยก ปล่อยรุ้งเทพดุจหยกขาวสาดซัดฟ้าดิน
พร้อมกันนั้นมหายุทธ์ระดับกระบวนแปรจุติคนอื่นก็โหมโจมตีเข้ามาพร้อมกันอีกครา
เขตพื้นที่ป่าเขารัศมีร้อยลี้ล้วนตกอยู่ในความพังทลาย ราพณาสูร สรรพสิ่งดับสลาย สิ่งมีชีวิตซึ่งพำนักอยู่ภายในหลีกหนีอย่างลุกลนนานแล้ว
การเคลื่อนไหวใหญ่โตยิ่งนัก ท้องฟ้ายามค่ำผืนนี้ล้วนถูกส่องสว่าง แสงสมบัติทะลวงเมฆา ประกายศักดิ์สิทธิ์ลอยล่องโชติช่วง สั่นสะเทือนผิดปกติ
หลินสวินยิ้มเยาะ ในใจเดือดดาลนัก เจ้าพวกนี้ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา เขาควบคุมดาบหักเข้าปะทะกระถางหยกในมือฮว่าชิงฉือ
ขณะเดียวกันก็ย่างก้าวไปบนห้วงอากาศอย่างแข็งกร้าว ออกหมัดอย่างมุทะลุ สำแดงความเร้นลับแห่งเคล็ดวิชาเก้าหมัดสะเทือนสวรรค์
ไม่อาจล่าช้าอีก ชักช้าจะไม่ทันการ แม้ที่นี่เป็นทุ่งกว้างป่าร้างนอกเมือง แต่ถึงอย่างไรก็ห่างจากนครเตโชไม่มาก ยิ่งชักช้าก็ยิ่งก่อให้เกิดเหตุไม่คาดฝันได้ง่าย
เสียงสวบหนึ่งดังขึ้น ความเร็วของหลินสวินบรรลุถึงขีดสุด เร็วจนไม่อาจจินตนา
ส่วนพลังหมัดเขาอัดแน่นถึงขั้นสมบูรณ์สูงสุด ซัดออกไปตามสบายก็มีอานุภาพสะท้านฟ้าสะเทือนดิน แหวกขุนเขาแยกสมุทร ไม่มีสิ่งใดไม่พังทลาย
ตูม!
มหายุทธ์ระดับกระบวนแปรจุติคนหนึ่งถือเกราะสมบัติป้องกัน ชนปะทะกับหลินสวินอย่างไม่หวั่นเกรงแม้แต่น้อย ผลคือสองแขนระเบิดแหลก เกราะสมบัติแตกละเอียด ร่างกายตกกระแทกพื้นรุนแรง เส้นเอ็นตัดขาดดับชีวาโดยสมบูรณ์
เพราะผู้ปรากฏตัวคือซุนฮวน ผู้ก่อตั้งอาวุโสสำนักมุกวิญญาณซึ่งคอยบัญชาการอยู่ลับๆ เป็นสัตว์ประหลาดเฒ่าที่พลังปราณขาดเพียงเสี้ยวก็จะก้าวสู่ระดับราชันอย่างแท้จริง
อย่าเห็นว่าท่าทางเขาละอ่อน อันที่จริงอายุกว่าพันปีแล้ว
แต่เหนือความคาดหมายพวกเขา หลินสวินที่มองเห็นภาพนี้กลับเยือกเย็นไม่หวั่นเกรง ตรงกันข้ามกลับดูเหมือนคาดเดาสิ่งนี้ไว้ล่วงหน้าแล้ว กล่าวว่า “ไอ้แก่ ในที่สุดเจ้าก็ปรากฏตัว ข้ารอเจ้าเสียนาน แต่คาดไม่ถึงว่าเจ้าจะมีความอดทนกว่าที่คิด”
นัยน์ตาดำของหลินสวินฉายแววเยียบเย็น ไอสังหารในใจโหมกระหน่ำ พลังทั่วร่างยิ่งเปี่ยมท้นในชั่วพริบตา ประดุจเพลิงอัคคีพลุ่งพล่าน
ก่อนเริ่มการต่อสู้ เขาก็สังเกตเห็นแล้วว่ามีสัตว์ประหลาดเฒ่าผู้หนึ่งแฝงตัวอยู่ในความมืด หากไม่ใช่เช่นนั้นหลินสวินคงเข่นฆ่าสังหารครั้งใหญ่อย่างอหังการไม่กลัวผู้ใดไปแล้ว
แต่ยามนี้อีกฝ่ายเปิดเผยตัว เท่ากับไม่มีภัยคุกคามอันใดอีก
“ไอ้เด็กสวะ เจ้ายังกล้าบ้าระห่ำ คงอยากตายจนทนไม่ไหวสินะ!” ฮว่าชิงฉือตวาดด่าหลินสวินด้วยสีหน้าไม่เป็นมิตร
“ยังไม่คุกเข่ารับความตายอีก!” คนอื่นๆ ต่างส่งเสียงเย็นชา คิดว่าซุนฮวนปรากฏตัว สถานการณ์บ่งชัดว่าหลินสวินต้องตายแน่อย่างไม่ต้องสงสัย
ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นถึงผู้ก่อตั้งที่ยิ่งใหญ่ของพวกเขาสำนักมุกวิญญาณ เป็นสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับกึ่งราชันผู้หนึ่งซึ่งสั่นสะเทือนแคว้นวิญญาณอัคนี!
จากมุมมองพวกเขา แม้พลังต่อสู้หลินสวินเย้ยฟ้าแค่ไหนก็ไม่มีโอกาสรอดชีวิตแน่!
“ว่ามาเถอะ เจ้าอยากตายยังไง”
ซุนฮวนย่างก้าวกลางอากาศราวเดินเล่นในลานกว้าง นัยน์ตามีแสงศักดิ์สิทธิ์เอ่อล้น มีความยิ่งใหญ่น่าเกรงขามครองฟ้าดินประการหนึ่ง
แต่วาจาเขายิ่งกร้าวแกร่งเด็ดขาด ท่าทีราวยึดกุมอำนาจการส่งมอบความเป็นตาย ชวนประหวั่นสยบข่มผู้คน
นี่ก็คือความมั่นใจของสัตว์ประหลาดเฒ่า ด้วยยืนอยู่เหนือปลายยอดแห่งการบำเพ็ญ มองดูภูเขาเล็กรายรอบ เห็นผู้ฝึกปราณระดับต่ำกว่าราชันดั่งไร้ตัวตน
หลินสวินยิ้ม ฟันขาวดุจหิมะส่องประกายวิบวับท่ามกลางรัตติกาล สำหรับคนอื่น บางทีราชันกึ่งระดับคงเหมือนภูเขาใหญ่สูงตระหง่านไม่อาจสั่นคลอนจนชวนรู้สึกสิ้นหวัง
แต่สำหรับเขาหลินสวิน ยังไม่ถึงขั้นเป็นภัยคุกคามขนาดใหญ่
ต้องรู้ว่ายามอยู่ในสมรภูมิกระหายเลือด เขาเคยมอบความตายให้ราชันกึ่งระดับเผ่าพ่อมดเถื่อนหลายคนกับมือ!
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนั้นของซุนฮวน จึงทำหลินสวินอดจะรู้สึกขันขึ้นมาไม่ได้
เขายิ้มอย่างกำเริบเสิบสาน ทำเอาพวกเขาฮว่าชิงฉือโกรธจนหน้าเขียว ไอ้เด็กเวรนี่ยังไม่รู้สถานการณ์อีกรึ ช่างเย่อหยิ่งจนถึงขั้นไม่สนชะตากรรม!
ซุนฮวนสีหน้าราบเรียบ ทว่าแท้จริงในใจถูกยั่วโทสะ กะอีแค่ผู้กล้าแห่งยุคคนหนึ่งเท่านั้น ว่ากันตามจริงสุดท้ายก็แค่เด็กหนุ่มระดับหยั่งสัจจะคนหนึ่ง กลับกล้าดูแคลนเขาเช่นนี้ นี่ไม่ต่างอะไรกับยั่วหยอกความน่าเกรงขามเขาซึ่งหน้า
ซุนฮวนถอนใจเบาๆ “ช่างเถอะ ในเมื่อเจ้าไม่ยอมเลือกหนทางตาย ข้าก็จะใช้วิธีเรียบง่ายที่สุดสงเคราะห์เจ้าแล้วกัน!”
เสียงเพิ่งดังออกมา ชายเสื้อเขาพลันสะบัดโบกดั่งมีเวทมนตร์เหมือนในตำนาน ปล่อยแสงมรรคชวนประหวั่นออกไป ก่อนวิวัฒน์เป็นกระแสน้ำหลากรุนแรง ม้วนแผ่ปกคลุมไปทางหลินสวินอย่างมืดฟ้ามัวดิน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์