Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 804

ตอนที่ 804 อมฤตแกนสุวรรณ
เขางามทรงพลังลูกหนึ่ง!

เมื่อเข้าไปใกล้หลินสวินดวงตาเป็นประกาย ในใจตื่นตะลึงอยู่บ้าง ในพื้นที่รกร้างเช่นนี้ยังมีภูเขาวิญญาณแบบนี้ด้วย

ก็เห็นภูเขาสูงราวพันจั้งตั้งตระหง่าน โดดเด่นเขียวชอุ่ม อาบไล้แสงตะวันยามรุ่ง หมอกม่วงลอยล่อง เพริศแพร้วเจิดจรัส

บนนั้นต้นไม้เก่าแก่หยั่งรากลึก ไผ่เขียวเริงระบำ พืชมงคลเอ่อท้น บางครั้งบางคราวมีลิงขาวกวางเขียวสัญจรอยู่ภายใน ร่องรอยบางเบาเลือนราง

นอกจากนี้ยังมีเถาวัลย์โบราณพันรัด โป๊ยเซียนขาวผลิดอกเบ่งบาน กวาดตามองไป สภาพบรรยากาศงามสะกดคน ราวกับเป็นแดนมงคลแห่งเซียนสวรรค์

หลินสวินโคจร ‘นัยน์ตาเฉาเฟิง’ สำรวจอย่างเงียบๆ

‘ไอมงคลสะสมอยู่ภายในดั่งพญามังกรจำศีล นี่มันลักษณ์พิเศษชั้นยอดแห่งแดนสมบัติ…’

หลินสวินอัศจรรย์ใจอยู่ครู่ใหญ่ จากที่เขาประเมิน หากเปิดสำนักตั้งพรรคบนเขาลูกนี้คงมากเกินพอ เพราะทั้งหมดล้วนแต่เป็นแดนมงคลบำเพ็ญเพียร!

ทว่าไม่ช้าหลินสวินพลันผวาขึ้นมา เขาสังเกตเห็นความไม่ชอบมาพากล อาณาบริเวณอื่นที่อยู่ใกล้ภูเขานี้เห็นได้ว่าสงบและเงียบสงัดเป็นพิเศษ

กระทั่งใช้จิตรับรู้ตรวจจับยังเสาะหาสิ่งมีชีวิตไม่พบสักตัว แม้แต่มดตัวหนึ่งล้วนหาไม่เจอ!

‘อานุภาพของมันดุจมังกร ไอมงคลอยู่ภายใน ภายนอกสรรพชีวิตกลับหนีห่างไม่กล้าเข้าใกล้ หรือเขาลูกนี้ซ่อนสิ่งเร้นลับสะเทือนใต้หล้าอะไรไว้’

หลินสวินสูดหายใจลึก โคจรไอซวนหนีปกคลุมทั่วร่าง จากนั้นเงาร่างวาบไหว ลอบเข้าภูเขาลูกนี้อย่างเงียบเชียบ

ปัจจุบันเขาควบคุม ‘ไอซวนหนี’ ได้ลึกซึ้งยิ่งกว่าเดิม สามารถกลบกลิ่นอายร่างกายยามเคลื่อนไหว เมื่อเป็นเช่นนี้นอกเสียจากระดับราชันมาเอง ไม่เช่นนั้นคงไม่อาจมองร่องรอยหลินสวินออกได้

แต่หลินสวินสามารถยืนหยัดมากสุดแค่ครึ่งเค่อ หลังผ่านไปครึ่งเค่อไอซวนหนีจะสลายไปไม่อาจควบคุม

บนภูเขาเป็นอีกทัศนียภาพ สนเก่าแก่เขียวขจี ดอกผลอัศจรรย์พบเห็นได้โดยรอบ หมอกวิญญาณปกคลุม ทอแสงทองอร่ามใต้แสงอาทิตย์

ช่วงเวลาสั้นๆ หลินสวินเจอโอสถวิญญาณล้ำค่าอย่างน้อยสิบกว่าชนิด

มีหลินจือโลหิตรากม่วงขนาดกว้างเท่าแขนเด็กขดม้วนดั่งอสรพิษ ต้นวิญญาณพุทราเพลิงซึ่งผลแดงอัคคีอวบอิ่มดุจโคมไฟเล็กๆ แขวนประดับแน่นขนัดทั่วกิ่งก้าน กระทั่งมีบัวหิมะลายทองหยั่งรากกลางสระมรกตลอยล่องเหนือผิวน้ำ!

แต่นอกจากหลินสวินจะตื่นตะลึงแล้ว ในใจกลับระมัดระวังยิ่งกว่าเดิม

บนภูเขาวิญญาณลูกนี้มีโอสถวิญญาณมากมาย แต่ไม่เคยมีวิญญาณอสูรมารสัตว์ปีศาจเข้าใกล้ นี่มันผิดปกติเกินไปแล้ว

หลินสวินไม่กล้าไปเด็ดเก็บ เขามุ่งหน้าปีนป่ายต่อเนื่องอย่างเงียบเชียบ

ไม่นานเขาสั่นสะท้านไปทั้งตัว มองเห็นถ้ำสถิตแห่งหนึ่งอยู่บนตัวภูเขา ปากทางตะไคร่เขียวสะสม เถาวัลย์เก่าแก่พันล้อม เห็นชัดว่าไม่เคยมีคนเข้าใกล้นานพอควร

แต่ไม่จำเป็นต้องสงสัย ถ้ำสถิตแห่งนี้ถูกสร้างขึ้น ไม่ใช่เกิดตามธรรมชาติ!

‘นี่คงไม่ใช่ถ้ำสถิตที่ผู้ฝึกปราณบางคนเหลือทิ้งไว้เมื่อนานมาแล้วกระมัง…’

หลินสวินหยุดยืนอยู่ตรงนั้นอาศัย ‘นัยน์ตาเฉาเฟิง’ พินิจพิเคราะห์ ก็เห็นสภาพในถ้ำสถิตนั่นเปล่งประกายเป็นผืนแผ่น ราวซ่อนตะวันดวงหนึ่งเอาไว้ แยงตาจนหลินสวินต้องรีบเบี่ยงสายตาหลบ

ในใจเขาสั่นสะท้านยิ่งยวด นี่บ่งชี้ว่าในถ้ำสถิตนั่นต้องซ่อนสมบัติที่สามารถสะเทือนใต้หล้าไว้อย่างไม่ต้องสงสัย ถึงขั้นแฝงความศักดิ์สิทธิ์ส่องประกายเหลือคณานับ

ใคร่ครวญลังเลครู่หนึ่ง หลินสวินใจกระตุก ปลุกหนอนกินเทพตัวหนึ่งขึ้นมา

‘จะหาสมบัติพบหรือไม่ล้วนขึ้นอยู่กับเจ้าแล้ว’

หลินสวินสูดหายใจลึก ฝากจิตรับรู้เสี้ยวหนึ่งบนตัวหนอนกินเทพ จากนั้นจึงควบคุมหนอนกินเทพเข้าสู่ส่วนลึกของถ้ำสถิต

หากไม่ใช้ ‘นัยน์ตาเฉาเฟิง’ ตรวจสอบ ภายในถ้ำก็มืดมิดไปทั้งผืน ลุ่มลึกเงียบสงบ วกวนซับซ้อน เงียบสงัดหาใดเปรียบ

หนอนกินเทพขนาดเพียงเมล็ดข้าว เงาร่างดั่งภาพมายาท่องเหินอย่างเงียบเชียบ ทุกอย่างระหว่างทางต่างถูกหลินสวินสัมผัสถึง เสมือนเป็นตาข้างหนึ่งของหลินสวิน

ที่ทำให้หลินสวินเกินคาดหมายคือถ้ำสถิตนี้ลึกเกินไป ทั้งมุ่งสู่ใต้ดินตลอด ไม่เหมือนแดนบำเพ็ญเพียร ตรงกันข้ามกับคล้ายช่องทางสู่ใต้พิภพ

หลังจากหนอนกินเทพเหินลอยได้พันจั้งกว่า เสียงราวฟ้าร้องกัมปนาทครั่นครื้นสะท้อนไม่สิ้น

หลินสวินพลันปลุกใจให้ฮึกเหิม ควบคุมหนอนกินเทพมุ่งหน้าต่อไป ไม่นานนักทัศนวิสัยเปลี่ยนเป็นเปิดกว้าง ปรากฏหมอกแสงศักดิ์สิทธิ์งามตระการหนาแน่นหาใดเปรียบ

ขณะเดียวกันแรงกดดันชวนประหวั่นยากอธิบายอบอวลแผ่กระจาย ทำเอาหนอนกินเทพสั่นสะท้านไปทั้งตัว ส่งความรู้สึกกระสับกระส่ายกลับมา

จากนั้นหลินสวินที่อยู่นอกถ้ำสถิตก็แข็งทื่อไปทั้งตัว สูดหายใจเย็นเยียบ

เขาฝังจิตรับรู้ผ่านตัวหนอนกินเทพจึงจับภาพฉากได้ในชั่วพริบตา ที่ส่วนลึกของหมอกแสงศักดิ์สิทธิ์งามตระการนั่นมีสระน้ำใหญ่มหึมาแห่งหนึ่ง ในสระเต็มไปด้วยของเหลววิญญาณเรืองอร่ามดั่งทอง พลังชีวิตมหาศาลไหลบ่าอย่างเรียกได้ว่าน่าหวาดกลัว เข้มข้นหาใดเปรียบ

หากหลินสวินเดาไม่ผิด ของเหลววิญญาณสีทองกลางสระน้ำนั่นน่าจะเป็น ‘อมฤตแกนสุวรรณ’ ที่พบพานได้แต่ไม่อาจร้องขอซึ่งแทบจะเป็นตำนาน!

นี่คือหนึ่งในสมบัติโอสถไร้เทียมทานที่ถูกขนานนามว่า ‘แปดเซียนฟ้าดิน’ เพียงหยดเดียวก็สามารถปลุกคนตายเปลี่ยนกระดูกเป็นเนื้อหนัง อีกทั้งหากใช้หลอมฝึกยังมีผลอัศจรรย์ไม่อาจประเมิน!

สมบัติล้ำค่าเช่นนี้ แม้แต่ในสำนักโบราณยังเรียกได้ว่าหายาก มีเพียงบุคคลแห่งยุคที่แท้จริงจึงจะสามารถใช้สอยได้

แต่ยามนี้ในถ้ำส่วนลึกของภูเขาวิญญาณไร้นามนี่ถึงกับซ่อนอมฤตแกนสุวรรณสระหนึ่งเอาไว้ หากแพร่งพรายออกไปจะต้องทำให้ทุกขุมอำนาจตาลุกวาว หมายช่วงชิงมาไว้ในมือโดยไม่คำนึงสิ่งตอบแทนทั้งมวลแน่!

หลินสวินใจเต้นโครมคราม นี่ต้องเป็นวาสนาใหญ่แห่งยุคแน่นอน

ทว่าต่อมาหลินสวินพลันหน้าเปลี่ยนสี สะท้านไปทั้งตัว ถึงขั้นเกือบร้องเสียงหลงออกมา

เพราะเวลานี้กลางสระใหญ่มหึมาที่เต็มไปด้วยอมฤตแกนสุวรรณนั่นพลันเกิดเสียงซ่า ปรากฏศีรษะมังกรโผล่ออกมา!

นัยน์ตาดุจกระดิ่งสำริด หนวดมังกรพลิ้วไหว เกล็ดมังกรปกคลุม เขาเดียวบนศีรษะปล่อยแสงหิรัณย์เปล่งประกายเจิดจ้า โชติช่วงหาใดเปรียบ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์