ตอนที่หลินสวินเดินออกจากหอหิมะล้ำค่า สายแร่วิญญาณและชีพจรปราณวิญญาณหลายเส้นที่เขาได้จากป่าลึกรกร้างเมื่อหลายวันก่อน ก็กลายเป็นความมั่งคั่งดังกล่าว
ในใจเขานับว่าพึงพอใจมาก
ความมหัศจรรย์ของนัยน์ตาเฉาเฟิงอยู่ที่การเสาะหาชีพจรปราณ แต่สำหรับหลินสวิน นี่เท่ากับได้ครอบครองวิธีหาเงินอย่างหนึ่ง
หลินสวินหยิบแผนที่ซึ่งทำจากม้วนหยกออกมา ด้านบนวาดภาพเกี่ยวกับที่ตั้งและเส้นทางแต่ละแคว้นใหญ่ในแดนฐิติประจิม
นี่คือสิ่งที่เขาเพิ่งซื้อจากหอหิมะล้ำค่า
‘ที่นี่ห่างจากแคว้นหงส์สถิตอีกสิบกว่าแคว้น ห่างออกไปราวหนึ่งล้านลี้ ไวที่สุดก็ต้องใช้เวลาสิบวันจึงจะไปถึง…’
หลินสวินใคร่ครวญเงียบๆ
ตอนนี้เขาถูกเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬติดประกาศนำจับ แม้ไปแคว้นหงส์สถิต ก็ทำได้เพียงเลือกเดินทางผ่านป่าลึกเก่าแก่ที่รกร้างไม่มีผู้คน
หากเป็นเช่นนี้ การจะไปถึงแคว้นหงส์สถิตต้องใช้เวลามากกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย
บนถนนผู้คนพลุกพล่าน ร้านค้าเรียงราย เจริญรุ่งเรืองครึกครื้น หลินสวินเดินไปตามทางศิลาครามผ่านเมืองที่คึกคักนี้ สุดท้ายมาถึงหน้าหอสุราแห่งหนึ่ง
บุปผาเมามาย
ชื่อหอสุราสง่างามมาก หอสูงร้อยจั้ง ตัวหอก่อขึ้นจากหินหยกสีเขียวทั้งหมด ล้อมรอบด้วยหมอกจางๆ ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางต้นดอกก่วมหิมะ มีกลิ่นอายเก่าแก่
‘ที่นี่แหละ’
หลินสวินมองชื่อหอสุราแวบหนึ่งก็ก้าวเข้าไป
บุปผาเมามายแห่งเมืองก่วมหิมะเป็นหอสุราที่เก่าแก่ที่สุด ภายในพิเศษมาก ลูกค้าส่วนใหญ่มาจากตระกูลชนชั้นสูงในเมือง ไม่ขาดผู้แข็งแกร่งชั้นยอดของเมือง ไม่เพียงแค่กำลังดื่มสุราเท่านั้น ยังพูดคุยถกปัญหากันด้วย
หลินสวินตรงไปชั้นบนสุด เลือกตำแหน่งข้างหน้าต่างแล้วนั่งลง สั่งเหล้าเก่า ‘ก่วมหิมะบ่ม’ อันเป็นเหล้าเฉพาะของหอสุรากาหนึ่งกับเนื้อกวางวิญญาณสามชั่ง
“อีกสามเดือนเทศกาลโคมกถามรรคจะเริ่มขึ้นแล้ว เท่าที่ข้ารู้ หลี่ชิงฮวนผู้นำรุ่นเยาว์สำนักยุทธ์สมุทรครามแห่งแคว้นเมฆาหยก อู่ต้วนหยาศิษย์สืบทอดอันดับหนึ่งของสำนักตะวันทมิฬแห่งแคว้นจันทร์กระจ่าง องค์ชายสามเผ่าอินทรีทองแห่งแคว้นพฤกษาล่อง… ได้เคลื่อนไหวมุ่งหน้าไปที่เขาพยับครามนั่นแล้ว”
“เทศกาลโคมในครั้งนี้ยิ่งใหญ่อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนจริงๆ ปีศาจรุ่นเยาว์ เหล่าผู้กล้ามารวมตัวกันราวกับหมู่ดาว แน่นอนว่าจะต้องเปล่งประกายจรัสแสงในเทศกาลโคม!”
“ไม่ผิด ข้าได้ยินว่าจั๋วขวงหลันหนึ่งในศิษย์สืบทอดทั้งห้าจากสำนักกระบี่โผผินแห่งแคว้นล้ำเมฆาของเรา ก็จะนำกลุ่มผู้กล้ารุ่นเยาว์ในสำนักไปแสดงความสามารถที่เทศกาลโคมกถามรรคนั่น!”
“จะว่าไปเทศกาลโคมกถามรรคในครั้งนี้ คนที่สะดุดตาที่สุดคือจี้ซิงเหยาธิดาเทพแห่งยุคของเรือนกระบี่เร้นปุจฉา ได้ยินว่าผู้กล้าไร้เทียมทานอวี่หลิงคงที่มาจากแดนพิสุทธิ์อมตะแห่งแดนกาฬทักษิณ ก็จะตามจี้ซิงเหยาไปร่วมงานในครั้งนี้ด้วย!”
“น่าเสียดาย งานระดับนี้เป็นของผู้ถูกเลือกชั้นหนึ่งแห่งยุค คนธรรมดาอย่างข้าแม้แต่สิทธิ์เข้าร่วมยังไม่มี”
ชั้นบนสุดของหอ กลุ่มผู้ฝึกปราณกำลังวิพากษ์วิจารณ์ พูดคุยเกี่ยวกับข่าวลือและข่าวสารของเทศกาลโคมกถามรรค พลางส่งเสียงถอนหายใจออกมาอย่างต่อเนื่อง
นี่ทำให้หลินสวินแปลกใจไม่น้อย ไม่คิดว่าเทศกาลโคมกถามรรคครั้งนี้ยังไม่ทันเริ่มขึ้นด้วยซ้ำ กลับได้รับความสนใจขนาดนี้แล้ว
ตอนอยู่ในแคว้นวิญญาณอัคนี เขาเคยถูกเยวี่ยเจี้ยนหมิงผู้กล้ารุ่นเยาว์แห่งสำนักยุทธ์พันเวทเชิญชวน อยากให้เขาไปร่วมเทศกาลโคมกถามรรคด้วย
ภายหลังฟางหลินหานแห่งอาศรมดาบแปดวิทูรเองก็เคยกล่าวว่า ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องไปเห็นเทศกาลโคมกถามรรคสักครั้ง
จนถึงตอนนี้แม้แต่ในเมืองชายแดนของแคว้นล้ำเมฆา ยังได้ยินเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเทศกาลโคมกถามรรค นี่จะไม่ให้หลินสวินตะลึงได้อย่างไร
‘ดูเหมือนว่ายามเทศกาลโคมกถามรรคครั้งนี้เริ่มขึ้น คงจะดึงดูดความสนใจของทั้งแดนฐิติประจิม…’
หลินสวินดื่มเหล้าพลางกินเนื้อกวางวิญญาณ
ก่วมหิมะบ่มหวานชื่น กลมกล่อมติดปาก มีกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ ส่วนเนื้อกวางวิญญาณนั้นหมักดองด้วยวิธีลับ หอมเผ็ดเข้มข้น รสชาติยอดเยี่ยมมาก
บางครั้งบางคราวหลินสวินจะเหลือบตามองไปยังห้องส่วนตัวห้องหนึ่งอย่างคล้ายจงใจแต่ก็ไม่ได้ตั้งใจ
ภายในห้องส่วนตัว เงาร่างกลุ่มหนึ่งนั่งอยู่ บุคลิกน่าเกรงขาม แต่ละคนสีหน้าหยิ่งผยองและเคร่งขรึม ไม่ต้องวิเคราะห์โดยละเอียดก็สามารถรู้ได้ว่า พวกเขามาจากเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬ!
จากข่าวที่หลินสวินได้รับจากต้นข่าวสารก่อนหน้านี้ ผู้ฝึกปราณคนใดที่ได้เบาะแสเกี่ยวกับเขา ล้วนสามารถรับรางวัลเป็นแกนวิญญาณระดับสูงหนึ่งพันจากมือผู้แข็งแกร่งเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬ
จุดประสงค์ที่หลินสวินมาหอสุราบุปผาเมามายในครั้งนี้ง่ายมาก เขาอยากดูว่าหากตนปรากฏตัวด้วยตัวเอง จะสามารถได้รับรางวัลนี้หรือไม่!
ดื่มเหล้ากินเนื้อจนอิ่มแล้ว หลินสวินกำลังจะเคลื่อนไหว ทว่าจู่ๆ ก็เห็นหนุ่มสาวกลุ่มหนึ่งเดินขึ้นหอมา แต่ละคนล้วนงดงามหล่อเหลา บุคลิกไม่ธรรมดา ราวกับเทพเซียนโดดเด่นสะดุดตา
ผู้นำคือจั๋วขวงหลันหนึ่งในศิษย์สืบทอดแท้จริงทั้งห้าแห่งสำนักกระบี่โผผิน ข้างๆ เขายังมีดรุณจ้าวกระบี่เซี่ยอวี้ถังและอีกหลายคนติดตามมาด้วย
ทันทีที่พวกเขาปรากฏตัว เสียงพูดคุยในหอสุราก็หายไปทันที เปลี่ยนเป็นเงียบสนิท แต่ละสายตาล้วนถูกดึงดูดไป สีหน้าต่างแฝงความเคารพ
เห็นได้ชัดว่าลูกค้าเหล่านี้ล้วนจำฐานะของพวกจั๋วขวงหลันได้ ในใจจึงเกิดความหวาดหวั่น ราวกับคิดไม่ถึงว่าเหล่าผู้สืบทอดสำนักกระบี่โผผินอย่างพวกเขามาปรากฏตัวที่นี่ได้อย่างไร
ทันทีที่พวกของจั๋วขวงหลันมาถึง ก็ได้ยินเสียงหัวเราะเบิกบานดังแว่วมาจากห้องส่วนตัวห้องหนึ่ง จากนั้นชายหนุ่มสง่างามคนหนึ่งพลันก้าวเท้าออกมา
“พี่จั๋ว พวกท่านมาเสียที เชิญๆ”
ชายหนุ่มคนนั้นสวมชุดคลุมสีแดงเพลิง เรียวคิ้วตางาม ระหว่างที่มองมาดูมีชีวิตชีวา บุคลิกองอาจ หากพูดถึงอานุภาพก็ไม่ด้อยไปกว่าจั๋วขวงหลัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์