ต้นไม้โบราณชนิดนี้มีสีขาวแวววาวทั้งต้นราวกับก่อตัวจากหิมะน้ำแข็ง ปกคลุมด้วยหมอกสีขาวจาง เมื่อทอดสายตามองไป ต้นไม้นับพันนับหมื่นต้นราวกับกำแพงหยกขาว เลือนรางสดใส งดงามอย่างยิ่ง
นี่คือทัศนียภาพอันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองก่วมหิมะ
ว่ากันว่าในสมัยโบราณ ที่นี่เคยมีต้นก่วมหิมะต้นหนึ่งแจ้งมรรค ในวันที่กลายเป็นอริยะ ใบไม้ปลิวไสวราวกับเกล็ดหิมะ สำแดงเหตุการณ์อัศจรรย์ที่ใบไม้บดบังท้องฟ้า หิมะน้ำแข็งปรากฏทั่วทั้งเมือง
หลินสวินกลับไม่มีกะจิตกะใจจะชื่นชมทิวทัศน์ที่งดงามนี้ เขาสวมเสื้อคลุม ปีกหมวกปิดใบหน้า เดินอยู่บนถนนอย่างเร่งรีบ
‘เผ่าวาทวาโยช่างเป็นตัวปากโป้งที่มีชื่อเสียงแห่งยุคจริงๆ เผยแพร่ข่าวไวกว่าใคร!’ หลินสวินลอบวิจารณ์
เขาเข้าเมืองมาก่อนอวี๋เสวี่ยเจียวและน้องชาย ทั้งยังมาถึงหน้าต้นข่าวสารนั่นก่อน
ตอนแรกอยากดูว่าช่วงนี้มีเรื่องใหญ่อะไรเกิดขึ้น ใครจะคิดว่าข่าวฮือฮาที่เห็นล้วนเกี่ยวข้องกับตน…
หากไม่ใช่เพราะเขามือไวตาไว รีบใช้เสื้อคลุมบดบังใบหน้าเอาไว้คงถูกจำได้แล้ว
‘เผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬนี่ต่ำช้าจริงๆ ดันติดประกาศนำจับข้า คิดว่าข้ารังแกได้ง่ายจริงๆ หรือ’
หลินสวินคิดถึงประกาศนำจับที่เห็นเมื่อครู่นี้ ไอสังหารก็พลุ่งพล่านขึ้นในใจอย่างควบคุมไม่อยู่
หลังออกจากนครเตโช เขาถูกตามฆ่ามาตลอดทาง เจออันตรายไม่รู้เท่าไหร่
ตอนนี้ยังไม่ทันที่เขาจะไปชำระความ อีกฝ่ายกลับติดประกาศนำจับ หมายจะประกาศจับเขาทั่วทั้งแดนฐิติประจิม
นี่เป็นการทำทุกวิถีทางเพื่อฆ่าเขาอย่างไม่ต้องสงสัย!
‘ช่างเถอะ รอให้เสร็จธุระก่อนค่อยไปคิดบัญชีกับหมาดำสารเลวพวกนี้’ หลินสวินสูดหายใจเข้าลึกๆ พลางตัดสินใจ
……
หอหิมะล้ำค่า
นี่เป็นร้านค้าที่ใหญ่ที่สุดของเมืองก่วมหิมะ ด้านในขายสมบัติ ของมีค่า ลูกกลอนโอสถ สมบัติวิญญาณ… สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ฝึกปราณในเมืองได้อย่างเต็มที่
ไม่นานหลินสวินก็ปรากฏตัวที่นี่ และได้รับการต้อนรับอย่างกระตือรือร้นจากผู้ดูแลหญิงคนหนึ่ง
“ข้าอยากขายวัตถุดิบวิญญาณจำนวนหนึ่ง เจ้าช่วยจัดการให้ข้าหน่อย” หลินสวินพูดสั้นๆ ตรงประเด็น
ผู้ดูแลหญิงอึ้งไป อดถามไม่ได้ “คุณชายจะขายวัตถุดิบวิญญาณระดับใด จำนวนเท่าไหร่ หากน้อยเกินไป…”
หลินสวินฟังความสงสัยในคำพูดของผู้ดูแลหญิงออก พลันพูดตัดบทว่า “คุณภาพของวัตถุดิบวิญญาณนับว่าไม่เลว จำนวนก็มากพอ ตอนนี้ข้าเพียงเป็นห่วงว่าหอหิมะล้ำค่าของพวกเจ้าจะรับไหวหรือไม่”
ผู้ดูแลหญิงยิ้มอย่างหยิ่งผยองมาก กล่าวเรียบๆ “คุณชายคงไม่รู้ว่าหอหิมะล้ำค่าของเราเป็นถึงร้านค้าอันดับหนึ่งในเมือง ทั่วทั้งเมืองก่วมหิมะนี้ จนปัจจุบันยังไม่มีสินค้าที่หอหิมะล้ำค่าของเรารับไม่ไหว”
หลินสวินขานรับว่าอ้อ ก่อนจะยิ้มพูด “เช่นนี้ก็ดีมาก ข้าอยากเชิญนักประเมินทรัพย์คนหนึ่ง หลังจากนั้นเตรียมแกนวิญญาณให้มากพอ พวกเราก็สามารถแลกเปลี่ยนได้ทันที”
เขาต้องทำเวลา สำหรับเขาเมืองก่วมหิมะไม่ใช่สถานที่ที่จะอยู่ระยะยาว แม้แต่ประกาศนำจับก็ปรากฏออกมาแล้ว หากร่องรอยรั่วไหลออกไป จะต้องนำพาคลื่นลมไม่น้อยเข้ามาแน่
เห็นหลินสวินมั่นใจเช่นนี้ผู้ดูแลหญิงเองก็ไม่กล้ารีรออีก พาเขาเข้าไปในห้องหรูหราที่เงียบสงบ แล้วจากไปอย่างเร่งรีบ
ไม่นานผู้ดูแลหญิงก็กลับมา ข้างกายมีชายหญิงคู่หนึ่งเพิ่มเข้ามา
“คุณหนู เป็นคุณชายท่านนี้ที่ต้องการขายวัตถุดิบวิญญาณ” ผู้ดูแลหญิงแนะนำเสียงเบา
เพียงแต่นางกลับพบอย่างน่าแปลกว่าแวบแรกที่คุณหนูเห็นอีกฝ่ายก็ราวกับต้องคำสาป ท่าทางตกตะลึง
ไม่เพียงแค่คุณหนู แม้แต่คุณชายน้อยก็ตกตะลึงอ้าปากค้าง ท่าทางราวกับเห็นผี
ในเวลาเดียวกันหลินสวินก็อึ้งไปเช่นกัน ลอบพูดในใจว่าบังเอิญจริง ไม่นึกเลยว่าจะเป็นพี่น้องคู่นี้
นี่มันอวี๋เสวี่ยเจียวและอวี๋เสวี่ยเทียน!
พวกเขาเพิ่งกลับหอหิมะล้ำค่า ก็ได้ยินคนรายงานว่ามีลูกค้าคนหนึ่งจะขายวัตถุดิบวิญญาณจำนวนมาก ทั้งยังเป็นห่วงว่าหอหิมะล้ำค่าจะรับไม่ไหว นี่ทำให้พวกเขาทั้งโกรธทั้งรู้สึกว่าน่าขัน
ตระกูลอวี๋ของพวกเขาดำเนินกิจการหอหิมะล้ำค่ามาหลายพันปี ไม่เคยมีลูกค้าคนไหนกล้าคุยโวแบบนี้มาก่อน
ด้วยความสงสัย พวกเขาจึงตัดสินใจมาดูว่าลูกค้าคนนี้เป็นอริยเทพจากไหนกัน ถึงได้กล้าคุยโวเช่นนี้
ถึงขั้นที่ในใจยังสงสัยว่า เป็นคู่แข่งจงใจมาก่อความวุ่นวายหรือเปล่า
เพียงแต่พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่าจะเจอหลินสวินที่นี่!
นึกถึงข่าวฮือฮาที่ได้ยินหน้าต้นข่าวสาร สองพี่น้องนี้ล้วนมีความรู้สึกไม่สมจริง
เด็กหนุ่มผู้กล้าที่ราวกับเทพมารซึ่งตอนนี้ในเมืองก่วมหิมะลือกันอย่างดุเดือด กลับปรากฏตัวที่นี่?
นี่หากเผยแพร่ออกไปจะนำพาความฮือฮาที่ใหญ่โตกว่าหรือไม่
แม้ใบหน้าของหลินสวินถูกปีกหมวกบดบังไปกว่าครึ่ง แต่อวี๋เสวี่ยเจียวยังคงจำฐานะของหลินสวินได้ตั้งแต่แวบแรกที่เห็น!
เพียงแต่ไม่นานอวี๋เสวี่ยเจียวก็รู้สึกแข็งทื่อไปทั้งตัว มองเห็นว่าหลินสวินที่อยู่ตรงหน้ากำลังมองตนอยู่ สายตานั่นแม้จะนิ่งสงบ แต่กลับทำให้นางหัวใจกระเพื่อมไหว หลุดจากภวังค์อย่างสิ้นเชิงในทันที
นางโบกมือให้ผู้ดูแลหญิงคนนั้นออกไป ปิดประตูห้องแล้วจึงกล่าวว่า “คุณชาย… จะขายวัตถุดิบวิญญาณหรือ”
สีหน้าของนางเรียบเฉย ท่าทางเหมือนต้อนรับลูกค้าปกติ
“ท่านพี่ ท่านจำไม่ได้หรือ เขาคือ…” ข้างๆ อวี๋เสวี่ยเทียนอดเตือนไม่ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์