ความว่องไวของหลินสวินทำให้ชายชราผู้นั้นทำใจเชื่อได้ยาก การโจมตีเช่นนี้ เหตุใดถึงออกมาจากมือของเด็กหนุ่มระดับหยั่งสัจจะคนหนึ่งได้
น่าเสียดายที่ไม่ทันให้ได้คิดมาก จิตวิญญาณก็ถูกทำลาย สิ้นชีพโดยสมบูรณ์
การตายของชายชราทำให้ราชันกึ่งระดับอีกสี่คนล้วนตื่นตะลึงแทบร้องออกมา พวกเขาก็คิดไม่ถึงเช่นกันว่าเกิดเหตุเช่นนี้ขึ้นได้อย่างไร
นี่เป็นการโจมตีอย่างไรกัน
ช่างเหมือนไม่มีสิ่งใดที่ทำให้แตกหักไม่ได้ ไม่มีสิ่งใดที่ทำลายไม่ได้ ไม่มีสิ่งใดเทียบเทียมได้ แข็งแกร่งเกินต้านทาน!
ตูม!
อานุภาพที่เหลืออยู่ของดาบหักไม่ได้ลดลง ห้วงอากาศถูกตัดออกเป็นรอยแยกยาวไปถึงหน้ายอดเขา ยอดเขานั้นถูกซัดให้ราบ ไหวเอนโครมคราม
จากนั้นดาบหักก็ไหววูบแผ่วเบาแล้วกลับมาตรงหน้าหลินสวิน ทั้งร่างของหลินสวินในตอนนี้ส่องแสงเจิดจ้าราวสุริยัน ทำให้ผู้อื่นไม่อาจมองตรงๆ ได้
เขาเหมือนเทพเทวา ดาบหักเจิดจ้าราวหิมะวนอ้อมรอบกาย สั่นสะท้านจิตวิญญาณ ฉายแสงไปทั่วภูผาธารา
สวบ!
เขาไม่ได้ลังเล โคจรวิชาอริยะยุทธ์และโทสะหยาจื้ออย่างเต็มกำลัง ทั้งตัวราวมีพลานุภาพที่สามารถกลืนกินบุพกาล ควบคุมดาบหัก กระโจนออกมาข้างหน้า
“เร็วเข้า! ลงมือพร้อมกัน!”
ชายกลางคนน่าเกรงขามคำรามเดือดดาล ถือทวนยาวสีเลือดฟาดฟันออกไป
อีกด้านหนึ่งสตรีที่อาบชโลมสายฟ้าเงาร่างไหววูบ ขยับค้อนทองสายฟ้า ชี้ขึ้นฟ้าแล้วตีลงมาอย่างฉกาจฉกรรจ์
เสียงสวบดังขึ้น ชายผอมบางอีกคนหนึ่งนัยน์ตายิงแสงเลือดออกมาราวภูตผี เรียกเหล็กหมาดแหลมเรียวเล่มหนึ่งออกมาแล้วโจมตีหลินสวินอย่างเงียบเชียบไร้เสียง
ส่วนบุรุษชุดนักพรตที่ยืนอยู่รอบนอกก็เคลื่อนไหวเช่นกัน
วิ้ง!
เขาดีดนิ้วมือเรียวยาวเบาๆ โคมทองที่อยู่ในมือเขาหมุนคว้างลอยสูงขึ้นกลางอากาศ เปลวเพลิงสีทองน่าหวาดหวั่นไหลพุ่งออกมาปกคลุมหลินสวิน ราวแปรสภาพเป็นเตาหลอมกลียุค
เปลวเพลิงสีทองไหลบ่าราวสมุทร เจิดจรัสงดงาม มีพลังแผดเผาน่าตื่นตระหนก เผาห้วงอากาศจนถล่มทลายเกิดเป็นโพรงสีดำมากมาย
ทวนโลหิต
ค้อนอัสนี
เหล็กหมาดแหลม
โคมทอง…
สมบัติอัศจรรย์มากมาย วิชาลับพรั่งพรู พาให้ฟ้าดินแถบนี้ตกอยู่ในการต่อสู้ดุเดือดโหดร้ายหาใดเทียบ ฟ้ามืดดินหม่น หินทรายปลิวว่อน พร้อมกับเสียงระเบิดทลายโครมครามสนั่นหวั่นไหวจนหูแทบดับ
ทุกอย่างนี้ล้วนสำแดงพลานุภาพของราชันกึ่งระดับสี่คนออกมาอย่างหมดจด หากเปลี่ยนเป็นผู้ฝึกปราณคนอื่น เกรงว่าจะถูกกำจัดตายคาที่ไปนานแล้ว
เพียงแต่ต่างจากเมื่อครู่ หลินสวินก็เปลี่ยนเป็นคนละคนโดยสิ้นเชิงเช่นกัน เจตจำนงแห่งมรรคอบอวลไปทั้งกาย รัศมีเทพครั่นครืน ทรงพลังและผงาดผยองถึงที่สุด
ดาบหักเคลื่อนไหวไปในอากาศราวอสนีบาตตระการตา เหมือนรุ้งเทพหวีดร้อง รวดเร็วอย่างน่าประหลาดหาใดเทียบ ทั้งคมดาบก็ไร้เทียมทาน!
บนผิวดาบพวยพุ่งไปด้วยสัญลักษณ์ลายมรรคคลุมเครือ คลื่นน่าหวาดหวั่นที่สั่นสะท้านจิตใจเทพมารปรากฏขึ้น ประหนึ่งสามารถกำราบทั้งผีและเทพ!
นี่เป็นพลังของราชันในขอบเขตระดับ ขนานนามว่ามกุฎมรรคาอันแข็งแกร่งที่สูง วิชาอริยะยุทธ์และโทสะหยาจื้อถูกหลินสวินโคจรถึงระดับสูงสุดที่ไม่เคยมีมาก่อนโดยสมบูรณ์
กระทั่งพูดได้ว่า นี่เป็นครั้งแรกที่หลินสวินใช้พลังทั้งหมดที่มีอย่างไม่ออมมือเช่นนี้ พลังไพศาลที่ฮึกเหิมร้อนเร่า ต่อสู้ราวเพลิงลุกโหมเช่นนั้น ทำให้เขามีความเชื่อมั่นและความกล้าหาญว่าสามารถผลักดันเก้าชั้นฟ้าสิบชั้นดินได้โดยสมบูรณ์ ไม่หวาดกลัวสิ่งใดก
ปัง!
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง เหล็กหมาดแหลมก็ระเบิดแหลก ชายผอมบางส่งเสียงร้องตื่นตระหนก ลุกลี้ลุกลนหลบหนี เพียงแต่เงาร่างกลับยังคงเชื่องช้า
นี่เป็นพลังของผนึกป้าเซี่ย สามารถสร้างผนึกไร้รูปได้ หากเป็นเมื่อก่อนคงไม่มีทางใช้กับราชันกึ่งระดับได้เลย
เพียงแต่หลังจากหลอมรวมกับเจตจำนงแห่งมรรคธาตุน้ำ ผนึกป้าเซี่ยก็แปรสภาพ ทันทีที่สำแดงออกมา พลันเล่นงานจนอีกฝ่ายรับมือไม่ทัน
ต่อให้ทำได้เพียงทำให้เงาร่างของฝ่ายตรงข้ามช้าลง แต่ในการห้ำหั่นดุเดือดเช่นนี้ก็เพียงพอให้ถึงแก่ชีวิตได้!
ฉัวะ!
ไม่เหนือจากที่คาด หลินสวินคว้าโอกาสนี้ไว้ ดาบหักไหววูบแผ่วเบาก็ฟันบั้นเอวฝ่ายตรงข้ามขาด เลือดไหลราวน้ำพุ สิ้นชีพคาที่ท่ามกลางเสียงร้องโหยหวน
ถ้าว่ากันตามสามัญสำนึก ราชันกึ่งระดับถูกฆ่าตายได้ยากยิ่ง พลังจิตของพวกเขาให้กำเนิดจิตวิญญาณ ถูกพลังมหามรรคที่ตนครอบครองปกป้อง หากพลังจิตไม่ดับสิ้นก็มีโอกาสเย้ยความตายกลับมามีชีวิตอีกครั้งหนึ่ง
แต่พลังของดาบหักน่าพรั่นพรึงมากเกินไป เป็นศาสตราจิตไร้เทียมทาน บนนั้นอบอวลไปด้วยพลังลายมรรคคลุมเครือ สามารถกำจัดพลังจิตได้ในชั่วพริบตา!
หรือพูดได้ว่า ขอเพียงถูกดาบหักสังหาร แม้แต่เซียนเทพมาก็ช่วยไม่ได้แล้ว ย่อมเป็นไปไม่ได้ที่จะฟื้นคืนชีพอีกครั้ง
ราชันกึ่งระดับอีกคนหนึ่งถูกฟัน!
ภาพนองเลือดนี้กระตุ้นให้ราชันกึ่งระดับอีกสามคนที่เหลือหน้าเปลี่ยนสีอย่างยิ่ง ตื่นตระหนกระคนเกรี้ยวกราดถึงที่สุด
คิดจนหัวแตกก็ไม่อาจจินตนาการได้ว่าเหตุใดถึงเกิดเรื่องประหลาดเหลือเชื่อเช่นนี้ !
ในใจพวกเขาสั่นระรัวจนไม่อาจสงบนิ่งได้ สีหน้าก็แปรเปลี่ยนเป็นอึมครึมคล้ำเขียว เมื่อสู้ไปเรื่อยๆ ก็ยิ่งรุนแรงและน่ากลัวแล้ว
เพียงแต่ทั้งหมดนี้ล้วนดูไร้ประโยชน์
เวลานี้หลินสวินกำลังดำดิ่งกับการขัดเกลาอย่างหนึ่ง กำลังขัดเกลาอานุภาพใหม่เอี่ยมของดาบหัก เมื่อเขาค่อยๆ หลอมรวมมรดกอักษร ‘ปฐม’ แห่งค่ายกลลายมรรคเข้ากับเจตจำนงแห่งมรรคธาตุน้ำ อานุภาพของดาบหักก็เพิ่มขึ้นทีละขั้นตามไปด้วย!
ดาบหักยิ่งเจิดจ้าขึ้นราวภาพนิมิต เผยคมสะท้านโลกออกมา แสงนี้แยงตานัก ทำให้ผู้อื่นไม่อาจมองจ้องใกล้ๆ ได้
ส่วนบนพื้นผิวของดาบ สัญลักษณ์ลายมรรคที่คลุมเครือตลบอบอวล พลานุภาพเช่นนั้นทำให้ตัวหลินสวินเองยังรู้สึกตื่นตระหนกและเหนือความคาดหมาย
นี่ถึงเป็นอานุภาพที่แท้จริงของดาบหักหรอกหรือ
หลินสวินรับรู้ว่า ทั้งหมดนี้ต้องเกี่ยวข้องกับการครอบครองพลังเจตจำนงแห่งมรรค หรืออาจเป็นเพราะมีพลังเจตจำนงแห่งมรรค ถึงได้ปลุกอานุภาพที่แท้จริงภายในดาบหักได้!
ตูม!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์