สีหน้าของเขาปนเปไปด้วยความรู้สึกต่างๆ ทรวงอกกระเพื่อมไหว ไม่มีความสงบนิ่งและสุขุมอีกแล้ว
ราชันกึ่งระดับห้าคนออกโจมตี กลับเหลือเพียงคนเดียวที่หนีกลับมาหัวซุกหัวซุน ส่วนอีกสี่คนที่เหลือประสบเคราะห์ทั้งสิ้น นี่ทำให้โก่วซวีสิงไม่อาจยอมรับได้
ความล้มเหลวคราวก่อนเป็นเพราะราชันอสูรเนตรทองนอเดียวตัวหนึ่งลงมือ เช่นนั้นแล้วคราวนี้เล่า
หรือเจ้าเด็กนั่นจะขอให้สิ่งมีชีวิตระดับราชันสักตนมาช่วยเขา
จากนั้นโก่วอิงก็เล่าเรื่องศึกใหญ่ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้อย่างหมดเปลือก ทั้งแสดงอย่างชัดเจนว่าหลินสวินไม่ได้เป็นแค่ผู้กล้าแห่งยุคทั่วๆ ไป
พลังต่อสู้ของเขา รวมถึงวิชาลับและสมบัติที่ใช้ล้วนเรียกได้ว่าน่าพรั่นพรึงและเย้ยฟ้า ไม่มีทางใช้สามัญสำนึกทั่วไปมาประเมินได้
“เป็นเช่นนี้เชียว…”
เมื่อโก่วซวีสิงได้รู้ความจริงก็แทบจะพังทลาย เขารู้สึกว่าน่าขันเกินไปแล้ว
เด็กหนุ่มระดับหยั่งสัจจะคนหนึ่งนะ ภายใต้การล้อมโจมตีของราชันกึ่งระดับห้าคน ไม่เพียงไม่ถูกสังหาร กลับถูกเขาเอาชนะในคราวเดียวได้อย่างนั้นหรือ
หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป ใครจะเชื่อกัน
เดิมทีในใจโก่วหยางป๋อกับโก่วหยางทงยินดีปรีดานัก ออกจะมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่นอยู่บ้าง ย่ามใจที่ได้เห็นโก่วซวีสิงพบความล้มเหลว
แต่เมื่อได้ยินคำอธิบายถึงการต่อสู้ที่เกิดขึ้นจริงจากโก่วอิง พวกเขาก็สีหน้าเคร่งขรึมขึ้นทันตา แววตาไหววูบไม่ว่างเว้น
“เด็กนี่ต้องก้าวเข้าสู่มกุฎมรรคาแล้วแน่ๆ อีกทั้งวิชาลับที่ครอบครองก็ต้องสะท้านโลกาหาใดเปรียบ”
โก่วหยางป๋อเอ่ยเสียงต่ำลึก “แต่หากเพียงเท่านี้ ยังไม่มีทางข้ามระดับใหญ่หนึ่งระดับไปฆ่าราชันกึ่งระดับได้”
“ใช่แล้ว ที่สำคัญที่สุดคงจะอยู่ที่สมบัติที่เขาใช้ชิ้นนั้น!” โก่วหยางทงก็เอ่ยปาก ดวงตาขุ่นมัวปรากฏแสงน่าหวาดหวั่น
“และหากว่ากันเรื่องสมบัติในยุคปัจจุบัน แม้แต่ยอดศาสตรามรรคราชัน ก็ไม่มีทางสังหารราชันกึ่งระดับคนหนึ่งได้ซึ่งหน้า ถ้าสันนิษฐานเช่นนี้ สมบัตินี้ต้องเป็น…”
พูดถึงตรงนี้ ราชันทั้งสองอย่างโก่วหยางป๋อและโก่วหยางทงล้วนหนังตากระตุก พูดพร้อมกันโดยมิได้นัดหมายว่า “สมบัติอริยมรรค!”
เมื่อพูดคำนี้ออกมา โก่วซวีสิงและโก่วอิงล้วนหน้าเปลี่ยนสีไม่หยุด จิตใจไม่อาจสงบนิ่งได้
สมบัติอริยมรรคหรือ
เพียงแค่ความหมายที่คำนี้แสดงออกมาก็ทำให้ผู้อื่นรู้สึกราวขาดอากาศหายใจแล้ว
เพราะสมบัติชั้นนี้มีอานุภาพน่าหวั่นกลัวเหนือจินตนาการ ตามคำร่ำลือ สมบัติอริยมรรคที่แท้จริง เพียงกลิ่นอายก็สามารถกำราบจนราชันเงยหน้าขึ้นมาไม่ได้!
โก่วหยางป๋อนิ่วหน้าแล้วพูดว่า “ไม่ อาจจะเป็นศาสตราจิตชั้นยอดชิ้นหนึ่งก็ได้ แต่ว่าถ้าเป็นเช่นนี้จริง นั่นหายากยิ่งกว่าสมบัติอริยมรรคเสียอีก…”
ศาสตราจิต ไร้เทียมทานและหาได้ยาก ใช้วัตถุดิบศักดิ์สิทธิ์ที่แท้จริงหลอมขึ้นมา พบเห็นได้ในสมัยบรรพกาลเท่านั้น ในโลกยุคปัจจุบัน ต่อให้เป็นราชันที่แท้จริงก็แทบจะครอบครองสมบัติเช่นนี้ได้ยาก
อานุภาพของศาสตราจิตอาจไม่น่ากลัวเท่าสมบัติอริยมรรค แต่มันกลับหายากกว่า กระทั่งว่าศาสตราจิตบางชิ้นก็เป็นสมบัติล้ำค่าแห่งอริยมรรค!
อย่างไรเสียศาสตราจิตก็เป็นเพียงนามเรียกทั่วไป หมายถึงสมบัติลี้ลับล้ำค่าที่สามารถใช้วิชาจิตขับเคลื่อนควบคุม
สบบัติอริยมรรคที่มีคุณประโยชน์เหลือเชื่อบางชิ้นก็มีพลานุภาพเช่นนี้เช่นกัน
“ยานสมบัติที่เหมือนสมบัติอริยมรรคชำรุดลำหนึ่ง ดาบหักที่เหมือนศาสตราจิตไร้เทียมทานเล่มหนึ่ง… และพลังของเจ้าเด็กนี่ก็น่าหวาดหวั่นเช่นนี้ เป็นไปได้สูงที่จะก้าวเข้าสู่มกุฏมรรคา ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ก่อนหน้านี้เจ้าเด็กนี่จะต้องเคยได้รับมหาศุภโชค!”
โก่วหยางทงผุดลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ดวงตาวาวโรจน์ราวตัดรัตติกาล
“ก็ถึงเวลาที่พวกเราจะลงมือแล้ว”
อีกด้านหนึ่งโก่วหยางป๋อก็ลุกขึ้นช้าๆ เอ่ยปากเสียงเบา
“ไป!”
ราชันทั้งสองไม่ลังเลสักนิด เงาร่างไหววูบ หายตัวไปในอากาศ
ตั้งแต่เริ่มจนจบไม่ได้ถามความเห็นของโก่วซวีสิงเลย ประหนึ่งละเลยเขาไปแล้ว
เห็นได้ชัดว่าตั้งแต่พวกเขาแน่ใจว่าหลินสวินมีศุภโชคอยู่กับตัว ตัวตนของหลินสวินก็ดึงดูดความสนใจของพวกเขาได้สำเร็จ
ที่สำคัญยิ่งกว่าก็คือ ต่อให้มีฐานะเป็นราชัน แต่พวกเขาก็มีความปรารถนาต่อสมบัติอริยมรรคอย่างยิ่งยวด!
……
ครู่เดียวโก่วซวีสิงก็สีหน้าเหยเกหาใดเทียบ โกรธจนกัดฟันกรอด
เขารู้ว่าพริบตาที่ตาแก่สองคนนี้เคลื่อนไหว เขาก็ไม่มีโอกาส ‘ทำความดีชดใช้ความผิด’ อีกแล้ว ที่รอเขาอยู่ต้องเป็นบทลงโทษรุนแรงจากเผ่า รวมถึง…
การโจมตีและเหยียบย่ำที่เข้ามาซ้ำเติมเขานับไม่ถ้วน!
ไม่แน่ว่าชั่วชีวิตนี้จะเชิดหน้าขึ้นมาไม่ได้อีก!
“เหตุใดถึงเป็นเช่นนี้ได้… ทำไม… ทำไมกัน…”
โก่วซวีสิงยิ่งคิดยิ่งไม่ยินยอม ตัวเขามีสัญญาณคล้ายพังทลาย อกสั่นขวัญแขวน
“นายน้อย ไม่แน่ว่าสถานการณ์อาจจะไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ท่านคิดก็ได้ แม้เป็นตาแก่สองคนนั้นลงมือ แต่ใครจะรับประกันได้ว่าพวกเขาจะไม่พ่ายแพ้ล่ะ”
โก่วอิงพลันเอ่ยปาก ทำให้โก่วซวีสิงผงะไป
“ท่านคิดดูสิ ถ้าตาแก่สองคนนั้นล้มเหลวขึ้นมา ผลลัพธ์นั้นก็ยิ่งรุนแรง ความรับผิดชอบก็ไม่ได้อยู่ที่นายน้อยด้วย อย่างไรเสียขนาดราชันยังทำอะไรเจ้าเด็กนั่นไม่ได้ นับประสาอะไรกับท่านเล่า”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์