Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 838

ตอนที่ 838 รับรู้มูลเหตุ
เมืองหมอกโลหิต หน้าต้นข่าวสาร

สีหน้าหลินสวินเดี๋ยวมืดทะมึนเดี๋ยวกระจ่างปรวนแปรไม่หยุด

เขาหยุดยืนอยู่ตรงนี้นานมากแล้ว เพียงแต่จนบัดนี้อารมณ์ยังไม่อาจนิ่งสงบ

บนต้นข่าวสาร มีภาพการต่อสู้ระหว่างเขากับเด็กสาวหน้ากากปริศนาที่นครเตโช

ยังมีข่าวที่เขาสังหารผู้แข็งแกร่งระดับราชันกึ่งระดับเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬสี่คน

กระทั่งแม้แต่ประโยค ‘สังหารสุนัขสวรรค์มายาทมิฬทั้งใต้หล้า’ ที่เขาเคยกล่าวตอนนั้นก็ล้วนเห็นได้บนต้นข่าวสาร

เพียงแต่…

หลินสวินกลับไม่อาจจินตนาแต่แรก ว่าในช่วงเวลาหลังตนออกจากเมืองก่วมหิมะจะเกิดเรื่องมากขนาดนี้

‘ข่าวชวนตะลึง เทพมารหลินถูกสัตว์ประหลาดเฒ่าระดับราชันเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬสองคนตามล่า ไม่รู้เป็นตาย!’

‘มีหญิงสาวปริศนาปรากฏตัว คล้ายอริยเทพแห่งบรรพกาล!’

‘เขาเถื่อนเมฆินทร์พินาศย่อยยับ ผู้แข็งแกร่งเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬที่อยู่ภายในถูกสังหารหมดไม่รอดสักคน ทั้งหมดล้วนเป็นฝีมือหญิงสาวปริศนานั่น!’

เมื่อดูทุกอย่างเสร็จสิ้น สุดท้ายหลินสวินก็เข้าใจ ที่แท้คำว่า ‘ออกไปดูสักหน่อย’ ที่หญิงสาวปริศนาในห้องโถงมรรคาสวรรค์นั่นกล่าวถึง แท้จริงแล้วคือทำเรื่องใหญ่โตฮือฮาหาใดเปรียบมากเช่นนี้!

เข้าเขาคุนอู๋ที่ตั้งเรือนกระบี่เร้นปุจฉาเพียงลำพังราวเข้าสู่แดนไร้ผู้คน แม้แต่อริยะที่แท้จริงยังไม่กล้าเหนี่ยวรั้ง

จากนั้นนางไปถึงริมแม่น้ำพรมแดน หมุนตัวสังหารทั้งเขาเถื่อนเมฆินทร์ ทำลายล้างผู้แข็งแกร่งเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬบนเขาเถื่อนเมฆินทร์ทั้งหมดชั่วพริบตา!

สุดท้ายนางสิ้นธุระก็จากไป ปิดซ่อนชื่อเสียงและเกียรติยศ

‘สันนิษฐานเช่นนี้ นาง… มีหรือจะไม่ใช่ผู้ที่ไม่ด้อยไปกว่าอริยบุคคลมากสามารถคนหนึ่ง’

สีหน้าหลินสวินเปลี่ยนเป็นพิลึกพิลั่นนัก จิตใจซัดสาดโหมกระหน่ำ

‘ที่แท้ไม่เพียงแต่โก่วหยางป๋อและโก่วหยางทง แม้แต่แหล่งพำนักในแดนฐิติประจิมของเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬ ล้วนถูกนางขุดรากถอนโคนในชั่วแวบเดียว!’

‘อืม นางเคยบอกว่าจะยื่นมือช่วยข้าสามครั้ง กล่าวเช่นนี้ หากครั้งหน้าข้าเจอเคราะห์สังหารถึงชีวิตก็สามารถขอให้นางออกมือใช่หรือไม่’

หลินสวินมีความคิดผุดขึ้นเป็นสาย

แต่ไม่นานสีหน้าเขาพลันอึมครึม อารมณ์เปลี่ยนเป็นย่ำแย่

เขาเห็นข่าวนั่นที่ไป่เฟิงหลิวประกาศ บ่งชี้โดยตรงว่าระหว่างเขาและหญิงสาวปริศนามีความเกี่ยวเนื่องกัน!

หลินสวินสามารถจินตนาการได้เลยว่า เมื่อคนบนโลกทราบข่าวนี้จะก่อให้เกิดความอึกทึกครึกโครมมากเพียงใด ต้องมีสายตามากมายจับจ้องมาที่ตน ทำการวิพากษ์วิจารณ์และคาดเดาไม่รู้จักจบจักสิ้นแน่

‘มิน่าตอนที่เพิ่งเข้าเมืองหมอกโลหิต ตลอดทางถึงได้เจอสายตาเคลือบแคลงและพิลึกพิลั่นมากขนาดนั้น ที่แท้เป็นเจ้าสากกะเบือเฒ่าไป่เฟิงหลิวนี่เสี้ยมออกมา…’

หลินสวินแค้นจนอยากต่อยคน

เจ้าไป่เฟิงหลิวนี่ช่างเป็นพวกปากสว่างกลัวฟ้าดินไม่อลหม่าน เขาสร้างเรื่องออกมาเช่นนี้ ไม่ต่างอะไรกับนำตนวางบนกองเพลิง!

‘หืม?’

หลินสวินสังเกตเห็น ไป่เฟิงหลิวปล่อยข่าวนี้ออกมาไม่นาน เซี่ยอวี้ถังก็แพร่ข่าวสาร

แต่เมื่อเห็นเนื้อหาข่าวชัดเจน นัยน์ตาหลินสวินพลันเปลี่ยนเป็นเย็นเยียบ หว่างคิ้วเจือความหนาวเย็น

เขาคาดไม่ถึงว่าคนที่กระโดดออกมาโจมตีตนคนแรกจะเป็นเซี่ยอวี้ถัง ‘คนคุ้นเคย’ คนนี้ นี่ทำให้ในใจเขามีความโกรธซึ่งไม่อาจระงับ

ล้วนมาจากจักรวรรดิจื่อเย่าในโลกชั้นล่างเหมือนกัน แต่เจ้าเซี่ยอวี้ถังนี่กลับอวดตัวเป็นผู้สืบทอดสำนักกระบี่โผผิน ใช้วิธีต่ำทรามเช่นนี้โจมตีตนต่อหน้าคนทั่วโลก เจตนาเรียกได้ว่าเหี้ยมโหดเหลือประมาณ

‘ครั้งก่อนตอนเจอกัน ข้าบอกแล้วว่าบุญคุณความแค้นจบสิ้นลงตรงนั้น แต่เจ้ากลับกระโดดออกมาโจมตีข้าในเวลานี้ เช่นนั้นต่อไปหากพบเจอกันอีกก็อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ…’

หลินสวินพึมพำอยู่ในใจ

ที่ทำให้หลินสวินหมดคำพูดคือ ต่อมาเขาก็เห็นว่าหลังจากเซี่ยอวี้ถังแพร่ข่าว กลับเป็นเจ้าสากกะเบือเฒ่าไป่เฟิงหลิวนี่ออกแก้ต่างเพื่อตน…

‘เจ้าหมอนี่เป็นตาแก่แปลกประหลาดจริงๆ’ หลินสวินแอบพึมพำ

ไม่ว่าเซี่ยอวี้ถังหรือไป่เฟิงหลิวจะทำให้หลินสวินหงุดหงิดในใจอยู่บ้าง แต่ยังไม่ถึงขั้นทำให้เขาโกรธ เพราะไม่คู่ควรพอ

แต่เมื่อเห็นข่าวต่อมา สีหน้าหลินสวินพลันเปลี่ยนเป็นอึมครึมอยู่บ้าง

‘โลกปัจจุบันนับวันยิ่งเหลวแหลกขึ้นทุกที สามารถเอาคำว่า ‘เทพมาร’ มาใช้กับตัวเองง่ายๆ เลยหรือ ไปบอกเทพมารหลินที่ว่านี่ ถ้ากล้าก็มาเขาพยับครามเข้าร่วมเทศกาลโคมกถามรรค ข้าจงหลีอู๋จี้จะคว่ำเขาเป็นคนแรก!’

จงหลีอู๋จี้?

หลินสวินไม่รู้ว่านี่มันตัวอะไร เห็นการลบหลู่และประณามเช่นนี้หลินสวินแค่รู้สึกว่าน่าขัน

แต่เมื่อเห็นว่าธิดาเทพเผ่าหงส์เขียวคนหนึ่งนามชิงเหลียนเอ๋อร์เอ่ยปาก ในที่สุดหลินสวินก็มีโทสะบ้างแล้ว

‘พิภพไร้ผู้กล้าแล้วหรือ ถึงนำพวกไร้น้ำยามาสร้างชื่อ ถ้าหลินสวินนั่นกล้าปรากฏตัวบนเขาพยับคราม ข้าจะทำให้เขาสำนึกผิดขอขมาต่อหน้าธารกำนัล ยอมรับว่าชื่อตนไม่สมชื่อ!’

นี่มันไม่เกรงใจกันมากไปแล้ว ไม่เพียงแต่ลบหลู่ ยังเจือรสหยามเหยียดโดยไม่ปกปิดแม้แต่น้อย

ตุ๊กตาดินเหนียวยังมีธาตุแท้เป็นดินอยู่สามส่วน นับประสาอะไรกับหลินสวินคนที่แต่ไหนแต่ไรไม่เคยยอมเสียเปรียบ หากจงหลีอู๋จี้และชิงเหลียนเอ๋อร์นี่แค่กล่าวคำพวกนี้กันส่วนตัว หลินสวินคงคร้านจะคิดเล็กคิดน้อย ถึงอย่างไรเขาก็ควบคุมปากคนทั้งใต้หล้าไม่อยู่

แต่ที่ทำให้หลินสวินโมโหคือ เจ้าสองคนนี้ประกาศต่อหน้าธารกำนัล ทำให้ผู้ฝึกปราณทั้งแดนฐิติประจิมต่างเอาไปพูดต่อ นี่จะไม่ทำเกินไปหน่อยหรือ

‘ไม่มีความแค้นต่อกัน พวกเจ้ากลับกระโดดออกมาเพ่งเล็งข้า เห็นว่าข้ากลั่นแกล้งง่ายนักหรือ คิดจะเหยียบข้าไว้ใต้ฝ่าเท้าส่งเสริมเกียรติยศตนเอง ก็ไม่จำเป็นต้องใช้อุบายสกปรกเช่นนี้!’

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์