Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 844

ตอนที่ 844 แอบอ้างชื่อเสียงลวงโลก
บนโลกนี้ไม่มีความพยาบาทโดยไร้เหตุผล

ในมุมมองของหลินสวิน วิธีการของซาหลิวฉานไม่ได้ต่างอะไรกับจงหลีอู๋จี้และชิงเหลียนเอ๋อร์ แค่เห็นตนเป็นฐานรองเหยียบ คิดเหยียบตนขึ้นไป ใช้สิ่งนี้เพิ่งกิตติศัพท์ของเขาก็เท่านั้น

“หืม?”

ขณะที่หลินสวินหันหลังจะไปจากต้นข่าวสารก็เห็นเงาร่างคุ้นตาสายหนึ่ง เขาเลิกคิ้วขึ้นโดยพลัน มุมปากผุดเส้นโค้งวูบหนึ่ง ช่างโลกกลมเสียจริง!

คนผู้นั้นคือชายชราผอมแห้งปานเสาไม้ไผ่ ดวงตาเจ้าเล่ห์กลิ้งกลอก เวลานี้กำลังขมีขมันไปอยู่ต่อหน้าซาหลิวฉาน ร้องเรียกว่า “คุณชายซา ข้ามาจากเผ่าวาทวาโย จะขอคำชี้แนะจากท่านเกี่ยวกับเทพมารหลินในเวลานี้ได้หรือไม่”

เดิมทีซาหลิวฉานที่ถูกขวางทางไม่ใคร่สบอารมณ์นัก แต่เมื่อได้ยินคำว่า ‘เทพมารหลิน’ สามคำนี้ เขาหยุดชะงักทันใด ปรายตามองไป่เฟิงหลิวปราดหนึ่ง พยักหน้ากล่าวอย่างสงวนท่าที “เจ้าอยากถามเรื่องอะไรก็พูดออกมาเถอะ เรื่องเกี่ยวกับเทพมารหลิน ข้าไม่มีอะไรถือเป็นข้อห้าม”

คำพูดหนักแน่นและตรงไปตรงมายิ่ง

“ไม่เสียแรงที่เป็นผู้กล้าแห่งยุคจากทะเลมารพิฆาต ความงามสง่าของคุณชายซาทำให้คนข้าไม่เลื่อมใสไม่ได้”

เจ้าเฒ่าสากกะเบือไป่เฟิงหลิวปั้นหน้าเคร่งขรึม แต่กลับประจบสอพลออย่างหน้าไม่อายยิ่งนัก จากนั้นถึงได้ปั้นจิ้มปั้นเจ๋อเอ่ยถามอย่างกระตือรือร้น “คุณชายซา ไม่ทราบว่าขอถามหน่อยหรือไม่ ท่านมีมุมมองและความเห็นอย่างไรต่อเทพมารหลิน”

ซาหลิวฉานเอ่ยโดยไม่ลังเล “ก็แค่เจ้าคนแอบอ้างชื่อเสียงลวงโลกคนหนึ่งเท่านั้น! ข่าวลือเกี่ยวกับเขาในโลกนี้ข้าดูแล้วล้วนไม่เป็นความจริงทั้งสิ้น คงไม่พ้นเป็นเพียงคำที่กุขึ้นโดยไม่มีมูล หากเขากล้าปรากฏตัว ข้าจะเปิดโปงความจริงของเขา ทำให้เขาชื่อเสียงป่นปี้ ให้ทั่วหล้าได้ประจักษ์ความจริง!”

คำพูดของเขาราบเรียบและหนักแน่น เหยียดหยามหาใดเปรียบ นิยามหลินสวินเป็นพวก ‘แอบอ้างชื่อเสียงลวงโลก’

สิ่งนี้ทำให้หลินสวินที่ลอบสังเกตทุกอย่างในมุมมืดอดหัวเราะเย็นชาในใจไม่ได้ ดูท่าเจ้าหมอนี่จะมุ่งร้ายหมายหัวหาเรื่องเขาให้ได้สินะ

ไป่เฟิงหลิวฮึกเหิมยิ่ง นี่เป็นข่าวสารมือหนึ่งเชียว!

จนกระทั่งขบวนของซาหลิวฉานจากไป ไป่เฟิงหลิวยังคงครุ่นคิดในสมองว่าควรใช้ประโยชน์จากข่าวนี้สร้างความฮือฮาในเมืองผาดาราอย่างไรดี

‘ซาหลิวฉานคนนี้ช่างโง่เง่านัก ยังคิดเหยียบหัวเทพมารหลินเพื่อยกตน ช่างจินตนาการหลุดโลกเสียจริงหนอ…’

‘แต่ว่าเช่นนี้จึงจะมีสีสันมากขึ้น อย่างไรเสียก็เป็นการโคจรมาพบกันระหว่างผู้กล้าแห่งยุค จะต้องดึงดูดความสนใจคนทั้งโลกได้อย่างแน่นอน’

“ท่านเป็นสหายที่มาจากเผ่าวาทวาโยหรือ” เวลานี้เองเด็กหนุ่มที่ท่าทางดูซื่อสัตย์ตรงไปตรงมา บุคลิกทั่วๆ ไปคนหนึ่งก็เดินเข้ามาใกล้

ไป่เฟิงหลิวพยักหน้าอย่างจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว “ทำไม มีธุระหรือเจ้าหนู”

เด็กหนุ่มเกาหัวแกรก กวาดมองรอบบริเวณอย่างระมัดระวังแล้วกดเสียงเบากล่าวว่า “ข้ามีเบาะแสของเทพมารหลิน…”

ไม่รอพูดจบไป่เฟิงหลิวก็ตาลุกวาวทันที “เจ้าแน่ใจ?”

เด็กหนุ่มกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ “หากท่านไม่เชื่อ ข้าขายข่าวให้คนอื่นก็สิ้นเรื่อง”

กล่าวเสร็จเขาหันหลังตั้งท่าจะจากไป กลับถูกไป่เฟิงหลิวรีบร้อนขวางเอาไว้ กล่าวด้วยสีหน้ารู้สึกผิด “พี่ชายตัวน้อย ไม่ใช่ว่าข้าไม่เชื่อเจ้า เป็นเพราะเรื่องนี้มีผลกระทบใหญ่หลวงนัก หากเจ้าหลอกข้า ผลที่ตามมาจะร้ายแรงยิ่ง”

เด็กหนุ่มยังคงกล่าวอย่างโกรธเคือง “ข้าพาท่านไปพบเขาได้ แต่ว่าท่านต้องตกรางวัลให้ข้าก่อนสักเล็กน้อย”

ไป่เฟิงหลิวเห็นเช่นนี้ก็แน่ใจทันที สัมผัสได้ว่าเด็กหนุ่มคนนี้น่าจะไม่ได้โกหก

เขาล้วงถุงเก็บของใบหนึ่งออกมาอย่างภาคภูมิใจ ยื่นให้เด็กหนุ่ม “ในนี้มีหนึ่งร้อยแกนวิญญาณขั้นกลาง หากเจอเทพมารหลินจริงๆ ของพวกนี้ก็เป็นของเจ้าทันที!”

เด็กหนุ่มยิ้มอย่างซื่อๆ เก็บถุงเก็บของไว้แล้วกล่าวว่า “ตามข้ามา”

ไป่เฟิงหลิวรีบตามไปทันใด

เพียงแต่หนึ่งถ้วยชาผ่านไป ไป่เฟิงหลิวกลับรู้สึกทะแม่งชอบกล เด็กหนุ่มคนนี้พาเขาลัดเลาะทั่วเมือง เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาตลอดทาง ยิ่งเดินก็ยิ่งห่างไกลขึ้นทุกที

“ข้าว่านะพี่ชายตัวน้อย ข่าวของเจ้าผิดพลาดใช่หรือไม่ ที่นี่ห่างไกลเกินไปแล้วกระมัง…” เขากล่าวอย่างสงสัย

“เป็นไปไม่ได้ ข้าได้ยินมาว่ายามนี้เทพมารหลินถูกคนจำนวนมากเห็นเป็นเป้าโจมตี เขาย่อมไม่กล้าปรากฏตัวในสถานที่ที่คนพลุกพล่าน ต้องซ่อนตัวอยู่เป็นแน่” เด็กหนุ่มกล่าวขอไปที

ไป่เฟิงหลิวหัวเราะฮ่าๆ ความสงสัยในใจจางหายลงไปมาก ตรงข้ามกลับทำลำพองกล่าวว่า “พี่ชายตัวน้อย เจ้าคงไม่เข้าใจ ยิ่งเป็นเช่นนี้ ยิ่งสะท้อนความพิเศษของเทพมารหลินออกมาได้ ดังคำกล่าวที่ว่าต้นไม้ใหญ่กลางป่ามักถูกมรสุมโค่น ยิ่งเรื่องนี้รุนแรงมากเท่าไร ยามที่เทพมารหลินปรากฏตัวก็ยิ่งดึงดูดสายตาคนทั้งโลกได้มากเท่านั้น”

เขายิ่งพูดยิ่งคะนอง พูดจนน้ำลายแตกฟอง “เจ้าลองจินตนาการดูว่ายามที่เทพมารหลินปรากฏกายชิงชัยกับผู้กล้าแห่งยุคมากมาย เหตุการณ์นั้นจะยอดเยี่ยมมากเพียงใด จะต้องสร้างความฮือฮาไปทั่วแดนฐิติประจิมอย่างไม่ต้องสงสัยสักนิด!”

“อ้อ! แน่นอน ข้าก็จะกระจายข่าวออกไปให้เร็วที่สุด ถึงตอนนั้นข้าก็จะได้อาศัยโอกาสนี้พลอยสร้างชื่อไปด้วย!”

เด็กหนุ่มเอ่ยอย่างไม่เข้าใจ “ทำเพื่อสร้างชื่อ?”

ไป่เฟิงหลิวกล่าวชี้แนะอย่างคนมากประสบการณ์ล้าสมัย “พี่ชายตัวน้อย แค่มองก็รู้ว่าเจ้าไม่เข้าใจ ถึงตอนนั้นถ้าหากเทพมารหลินฝ่าฟันอุปสรรคได้ตลอดทาง นั่นย่อมทำให้กิตติศัพท์แพร่หลายไปอีกขั้น ชื่อเสียงกิตติศัพท์เช่นนี้ของเขาได้มาจากไหนกัน ยังไม่ใช่เพราะข้าสร้างมาเองกับมือหรือ เกียรติยศระดับนี้ใช่ว่าใครจะมีในครอบครองได้!”

เด็กหนุ่มร้องอ้อหนึ่งครา กล่าวต่อไปว่า “หากเทพมารหลินเคราะห์ร้ายถูกพวกไร้เทียมทานบางคนซัดโจมตีจนพ่ายแพ้จะทำอย่างไร”

ไป่เฟิงหลิวหัวเราะฮ่าๆ ดังลั่น มีท่าทีเร่าร้อนชี้แนะเรื่องสำคัญ “เจ้าเนี่ยยังเด็กเกินไปจริงๆ เทพมารหลินแพ้แล้วเกี่ยวอันใดกับข้า ข้าแค่รับผิดชอบกระจายข่าวสาร ชาวโลกคงไม่เอาความพ่ายแพ้ของเทพมารหลินมาโบ้ยใส่หัวข้าหรอก ถึงตอนนั้นอย่างมากข้าก็แค่ไปขุดกล้าพันธุ์ดีที่เหมือนกับเทพมารหลินอีกสักคน และช่วยเขาสร้างกิตติศัพท์ใหม่ตั้งแต่ต้นอีกครั้งก็สิ้นเรื่อง”

เด็กหนุ่มกล่าวคล้ายขบคิด “พูดเช่นนี้ ไม่ว่าเทพมารหลินแพ้หรือชนะ สำหรับท่านก็มีแต่ได้กับได้สินะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์