ซาหลิวฉานก่อนหน้านี้โกรธจัด สำแดงวิชาลับไร้เทียมทาน เสียงธรรมสะเทือนเลื่อนลั่น สะท้อนลักษณ์เงามายาฉลามสมุทรสีเลือดบรรพกาล ราวกับจะกลืนกินฟ้าดิน
แม้แต่ชิงเหลียนเอ๋อร์ ในเวลาเช่นนี้ล้วนไม่อาจไม่หลบ
แต่การปะทะหนักหน่วงนี้ ผู้ที่ถูกซัดพินาศไม่ใช่เทพมารหลินแต่กลับเป็นซาหลิวฉาน นี่ทำให้ทุกคนต่างคาดไม่ถึง
เหนือคำว่าเหลือเชื่ออย่างแท้จริง
ความแข็งแกร่งแห่งพลังต่อสู้ของซาหลิวฉานได้รับการยอมรับจากคนรุ่นเยาว์แดนฐิติประจิมนานแล้ว ถูกขนานนามว่าผู้กล้าแห่งยุค ทั้งบัดนี้ที่สำแดงคืออภินิหารไร้เทียมทาน แต่ยังถูกเทพมารหลินซัดทำลายในการปะทะซึ่งหน้า นี่ไม่ได้บ่งชี้ว่าศักยภาพที่แท้จริงของเทพมารหลินเหนือกว่าซาหลิวฉานหรือ
นี่ทำให้ผู้กล้าแห่งยุคมากมายตรงนั้นต่างลอบตกตะลึง
อย่างเช่นเด็กสาวชุดม่วงที่มาจากตำหนักปรกอุดมซึ่งนิ่งเงียบไม่พูดจา วางตัวโดดเด่นเหนือโลกามาตลอด ขณะนี้กลับไม่อาจนิ่งสงบอยู่บ้าง บนใบหน้างามฉายระลอกคลื่นเสี้ยวหนึ่ง
ส่วนผู้สืบทอดแดนพิสุทธิ์อมตะเหล่านั้นต่างตะลึงตาค้าง พวกเขาถึงขั้นรู้สึกว่า หลินสวินในเวลานี้มีท่วงท่าสง่างามเหนือกว่าศิษย์พี่อวี่หลิงคง!
นี่เป็นไปได้อย่างไร
พวกเขายากจะเชื่อ
ไม่เพียงแค่พวกเขา ไป๋หลิงซีที่ดูเหมือนเงียบสงบดังเดิม อันที่จริงขณะนี้มือหยกขาวกระจ่างของนางก็สั่นเล็กน้อย เผยให้เห็นว่าในใจนางหาได้นิ่งสงบเช่นภายนอก
“เจ้าถึงกับทำให้ข้าบาดเจ็บ?”
กลางอากาศ สีหน้าซาหลิวฉานถมึงทึงดวงตาเบิกกว้าง คล้ายไม่อาจยอมรับทุกอย่างนี้ น้ำเสียงเจือความเดือดดาลและประหลาดใจ
“การฆ่าเจ้าง่ายราวพลิกฝ่ามือ จำเป็นต้องตื่นตูมเช่นนี้ด้วยหรือ”
หลินสวินยิ้มเยาะ ผมดำของเขาพลิ้วไหว ทั่วร่างอาบไล้แสงเจิดจรัส พลังเจตจำนงแห่งมรรคหมุนเวียน ขับเน้นจนเขาเหมือนมหาสุริยันดวงหนึ่งที่สาดส่องฟ้าดิน
เขาไม่ได้หยุดมือ ขณะกล่าวเงาร่างพุ่งไปเบื้องหน้าต่อสู้อย่างต่อเนื่อง
“ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะแกร่งขนาดนี้จริงๆ!”
เหนือความคาดหมาย ชิงเหลียนเอ๋อร์ที่เพิ่งหลีกหลบถึงกับชิงลงมือก่อน ดาบโค้งสีเขียวแหลมคมเปล่งประกายที่ครอบครองตัดขวางห้วงอากาศ
ฟึ่บ!
คมดาบนับหมื่นพันปรากฏกลางท้องฟ้า ประดุจดาวหางโน้มดิ่งเจิดจรัสแปลบตา เขียวครามเวิ้งว้างทั่วผืนแผ่น ความน่าตระหนกชวนประหวั่นแห่งไอดาบแหวกผ่าฟ้าดิน รวมตัวหนาแน่นดั่งพายุฝน
ผู้ฝึกปราณมากมายกลางที่นั้นแสบตาจนต่างลืมตาไม่ขึ้น แสงดาบส่องพร่างพราวหนาแน่น โชติช่วงเพริศพรายเกินไป
“จันทร์เขียวประหัตมาร!” ซาหลิวฉานนัยน์ตาพลันหดรัด เดิมหมายออกจู่โจม แต่เวลานี้เขากลับเลือกเฝ้าดูเพราะมองออกว่า ที่ชิงเหลียนเอ๋อร์สำแดงคือมรดกลับพิทักษ์เผ่าแขนงหนึ่งของเผ่าหงส์เขียว
ทันทีที่สำแดง ดาบดุจจันทร์เขียวแขวนประดับเวิ้งฟ้า สามารถปั่นป่วนฟ้าดิน กำจัดเทพมาร อานุภาพน่าหวาดกลัวยิ่ง
อีกทั้งดาบในมือชิงเหลียนเอ๋อร์คือสมบัติล้ำค่าบรรพกาลชิ้นหนึ่งนาม ‘ดาบทลายแสงเขียว’ พลานุภาพเทียบกับยอดศาสตรามรรคราชันแล้วไม่ด้อยไปกว่ากัน
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ซาหลิวฉานอยากลองดูว่าหลินสวินจะรับมือการโจมตีของชิงเหลียนเอ๋อร์ได้หรือไม่ เพราะจวบจนตอนนี้เขาไม่อาจยอมรับภาพที่ถูกซัดโจมตีเมื่อครู่ รู้สึกว่าเสมือนฝันเกินไป
ครืน!
ทั่วผืนฟ้าไอดาบตัดสลับ เขียวเลื่อมพรายดุจจันทร์เสี้ยวคลั่งระบำ ปั่นป่วนหยินหยาง
ไม่จำเป็นต้องสงสัย เห็นภาพที่หลินสวินซัดซาหลิวฉานจนย่อยยับ ทำชิงเหลียนเอ๋อร์เองก็สั่นสะท้านยกใหญ่ ดังนั้นเวลานี้จึงลงมือใช้วิชาไม้ตาย
หลินสวินไร้หวั่นเกรง ถือทวนใหญ่เจิดจ้าดุจหิมะเล่มหนึ่งเสียงดังชิ้ง แหวกสังหารออกไปปานสายฟ้าแลบ
นี่คือสมบัติชิ้นหนึ่งซึ่งชิงมาจากมือซาหลู่หลังสังหารอีกฝ่าย
เคล้ง! เคล้ง! เคล้ง!
ดาราเพลิงซ่านเซ็น แสงอัศจรรย์แผ่กระจาย ไอสังหารสะเทือนเก้าสวรรค์
แค่ชั่วพริบตา เขากับชิงเหลียนเอ๋อร์ประมือกันนับร้อยครั้ง คมดาบพลุ่งพล่านไร้ขอบเขต แทบฝังกลบหลินสวินทั้งตัว
ชิงเหลียนเอ๋อร์ตอนนี้เรียกได้ว่าน่ากลัวอย่างแท้จริง ความน่ากลัวของอานุภาพเฉียบขาด แสงดาบเขียวเลื่อมพรายดุจจันทร์เสี้ยวสายแล้วสายเล่าโหมปล่อยออก ฉีกผ่าแหวกอากาศทลาย
ครืน!
ห่างออกไปสิ่งปลูกสร้างบางส่วนถูกไอดาบฟัน แยกทลายในบัดดล พื้นดินต่างถูกตัดออกเป็นร่องร้าวขนาดมหึมาไขว้ขนานกันมากมาย
แครก!
แค่ชั่วพริบตา ทวนใหญ่ในมือหลินสวินถูกฟาดหักแตกละเอียด
เฮือก!
ทุกคน ณ ที่นั้นส่งเสียงสูดหายใจ หรือเทพมารหลินจะประสบเคราะห์แล้ว
มุมปากชิงเหลียนเอ๋อร์ปรากฏเส้นโค้งเย็นเยียบ แต่ไม่รอให้นางมีความสุข เส้นโค้งตรงมุมปากก็แข็งตัว
เพราะขณะที่ทวนแตกสลาย ใจกลางหว่างคิ้วหลินสวินมีแสงดาบบริสุทธิ์เจิดจ้าราวหิมะสายหนึ่งโฉบออกมา ปรากฏกลางท้องฟ้ากะทันหัน
พริบตานั้นประดุจดั่งลำแสงที่มาจากบรรพกาล ไหลผ่านสายน้ำแห่งกาลเวลา มีความงามตระการชวนตะลึง เหมือนไม่ใช่ความจริงเกินไป
ผลุบ!
ชิงเหลียนเอ๋อร์ส่งเสียงกรีดร้อง คล้ายได้รับความตระหนกถึงขีดสุด เงาร่างพุ่งถอยกลางอากาศ
มวลชนตะลึงงัน เดิมคิดว่าเทพมารหลินจะประสบเคราะห์ ไหนเลยจะคิดว่าพริบตานี้ ชิงเหลียนเอ๋อร์กลับคล้ายพบเจอเคราะห์มหาวิบัติ!
เร็วเกินไปแล้ว!
ทุกอย่างล้วนเกิดขึ้นในชั่วประกายไฟ ทำเอาผู้ฝึกปราณมากมายต่างไม่ทันตอบสนอง
มีเพียงบุคคลแห่งยุคบางส่วนที่สังเกตเห็นอย่างว่องไวว่า แสงดาบสายนั้นที่โฉบออกจากร่างหลินสวิน เพียงชั่วพริบตาก็ทำชิงเหลียนเอ๋อร์บาดเจ็บสาหัส!
แม้แต่พวกเขาเองยังจับได้แค่ภาพนี้ แต่ไม่อาจสืบรู้ความเร้นลับชวนประหวั่นซึ่งแฝงในการโจมตีอย่างแท้จริง
ฟึ่บ…
บนท้องฟ้า ชิงเหลียนเอ๋อร์ถอยถึงนอกระยะร้อยจั้ง รอยแผลที่เลือดหลั่งรินลากยาวจากตำแหน่งไหล่ซ้ายถึงส่วนท้องฝั่งขวา โลหิตไหลล่อง อีกเพียงนิดก็จะผ่าอกแหวกท้องนางแล้ว!
“สวรรค์!” เมื่อเห็นภาพนี้ชัดเจน ผู้ฝึกปราณในที่นั้นขนพองสยองเกล้า ตกใจจนทั่วร่างแข็งทื่อตะลึงงันอยู่ตรงนั้น ชิงเหลียนเอ๋อร์เกือบประสบเคราะห์?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์