หลินสวินนั่งขัดสมาธิอยู่ตรงนั้น สงบใจหยั่งรู้
เหนือภูเขานี้ปกคลุมไปด้วยประทับรบอริยเทพที่หลงเหลือมาตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันรอยหนึ่ง เจตจำนงต่อสู้เก่าแก่ไพศาล เรียกได้ว่าสะท้านโลกา
ทันทีที่หยั่งรู้หลินสวินก็ตื่นตระหนกยิ่งนัก กลิ่นอายของประทับรบอริยเทพนี้บริสุทธิ์หาใดเทียม เจือไปด้วยกลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์ ชั่วพริบตาเท่านั้นทำให้เลือดลมทั่วกายของเขาร้องระงม เกิดเจตจำนงต่อสู้ที่กดข่มไว้ไม่อยู่
เขาสูดหายใจลึก ฝืนเก็บกลั้นเจตจำนงต่อสู้ในใจแล้วหยั่งรู้ต่อ
เขาแน่ใจแล้วว่า กลิ่นอายของประทับรบอริยเทพนี้มีประโยชน์เหลือคณาต่อการฝึกยุทธ์!
หากใช้ใจหยั่งรู้ รวมกับวิชายุทธ์ที่ตนครอบครองอยู่แล้ว จะสามารถใช้ประโยชน์ได้หลายสิ่ง สัมผัสเพียงหนึ่งได้ครอบครองทั้งหมด
หลินสวินกวาดตามอง แล้วค้นพบดังคาดว่าไม่ว่าจะเป็นพวกซาหลิวฉาน หลี่ชิงฮวน อู่ต้วนหยา หรือบุคคลโดดเด่นแห่งยุคคนอื่นๆ ล้วนไม่ได้พักผ่อน ต่างยึดพื้นที่บริเวณหนึ่งและกำลังจดจ่อกับการสงบจิตบำเพ็ญ
เห็นได้ชัดว่าพวกเขารู้คุณประโยชน์ของกลิ่นอายประทับรบอริยเทพอยู่ก่อนแล้ว
หลินสวินไม่ลังเล เพ่งสมาธิ นั่งขัดสมาธิท่ามกลางลมหิมะบนยอดเขา รวมพลังจิตเป็นหนึ่งแล้วเริ่มหยั่งรู้
เขาโคจรวิชาลับดวงใจฉิวหนิว ทำเช่นนี้แล้วจะส่งผลให้เขาสามารถสัมผัสถึงปริศนาแก่นแท้ของประทับรบอริยเทพนั้นอย่างง่ายดายและตรงไปตรงมายิ่งขึ้น
เช่นเดียวกัน หลินสวินไม่ได้ผ่อนปรนความรอบคอบลงโดยสมบูรณ์ เขาควบรวมวิญญาณแห่งพลังจิตได้แล้ว สามารถทำได้หลายอย่างด้วยการตั้งจิตครั้งเดียว ในเวลาเดียวกับที่เขาหยั่งรู้อยู่ เขาก็สำแดงนัยน์ตาเฉาเฟิงกวาดมองห้วงอากาศรอบทิศ
สาเหตุที่เมื่อครู่เขาได้บัวเพลิงแปดกลีบดอกหนึ่งมาราวสามารถคาดการณ์ล่วงหน้า ก็เพราะอาศัยคุณประโยชน์ของนัยน์ตาเฉาเฟิง
วิชาลับนี้สามารถมองทะลุภูผาธารา เส้นสายในนภากาศ และการเปลี่ยนแปลงของสรรพสิ่ง ล้วนสามารถมองขาดได้ในครั้งเดียว
ดังนั้นบนเขาน้ำแข็งปทุมเพลิงนี้ หลินสวินสามารถรับรู้ได้ถึงการเปลี่ยนแปลงน้อยนิดบางอย่างที่ผู้อื่นไม่อาจสังเกตได้ เมื่อดอกบัวเพลิงปรากฏก็สามารถค้นพบได้ล่วงหน้าไปก้าวหนึ่ง
เวลาเคลื่อนไปทีละน้อย
บริเวณยอดเขาเงียบเชียบไร้เสียง ดอกบัวเพลิงยังไม่ปรากฏขึ้นอีก
กลับเป็นบริเวณด้านล่างของภูเขาที่มีดอกบัวเพลิงดอกแล้วดอกเล่าเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้แข็งแกร่งที่เฝ้าอยู่ที่นั่นมาโดยตลอดช่วงชิง
แต่คุณสมบัติของดอกบัวเพลิงเหล่านั้นล้วนต่ำกว่าระดับกลาง อย่างมากก็มีกลีบดอกห้ากลีบ ดึงดูดเหล่าบุคคลไร้เทียมทานอย่างพวกหลินสวินได้ไม่มากนัก
ในระหว่างนี้ก็มีผู้กล้าบางคนได้รับภัยคุกคามถึงชีวิต โชคร้ายถูกคัดออกไปยามชิงวาสนา
ขณะเดียวกันก็มีเหล่าผู้กล้าที่มาใหม่มากมายเริ่มขึ้นเขา หมายจะช่วงชิงวาสนา
ไม่เพียงแดนลี้ลับหิมะน้ำแข็ง ในบริเวณอื่นของแดนลี้ลับมหาปัญจธาตุผันแปรแห่งนี้ เหตุการณ์ทำนองนี้ก็ดำเนินอยู่เช่นกัน
มีคนถูกคัดออก และมีคนได้รับวาสนา กลายเป็นเมื่อมีคนสุขก็มีคนเศร้าจริงๆ
……
หืม?
ทันใดนั้นเองหลินสวินที่นั่งขัดสมาธิอยู่ก็ผุดลุกขึ้น เงาร่างหายวับ พุ่งลงไปยังที่ที่อู่ต้วนหยาอยู่
“เจ้าจะทำอะไร!”
อู่ต้วนหยาหน้าเปลี่ยนสีโดยพลัน ชักดาบศึกออกมาเสียงดังชิ้ง ท่าทางตระหนกตกใจ
สวบ!
หลินสวินไม่สนใจเขา เอื้อมมือขึ้นไปยังศิลาหิมะที่อยู่ไม่ไกลนัก
เดิมทีที่นั่นว่างเปล่าไม่มีสิ่งใด แต่ยามหลินสวินยื่นมือออกไป กลับมีดอกบัวเปล่งประกายราวเพลิงแผดเผาดอกหนึ่งปรากฏออกมา
ฟุ่บ!
ชั่วพริบตา บัวเพลิงเจ็ดกลีบดอกนี้ก็ถูกหลินสวินเก็บไป
อู่ต้วนหยาดวงตาแข็งค้าง หน้าแดงเถือก รับรู้ได้ว่าการตอบโต้ของตนเมื่อกี้รุนแรงเกินไป รู้สึกขายหน้าไปบ้าง
แต่ที่ทำให้เขาขุ่นเคืองก็คือ หากไม่ใช่หลินสวินลงมือ เดิมทีดอกบัวเพลิงเจ็ดกลีบนี้ควรจะเป็นของเขา!
บุคคลโดดเด่นแห่งยุคคนอื่นก็ตื่นตระหนก เมื่อเห็นภาพนี้แล้วสีหน้าล้วนแปลกประหลาดไปบ้าง ดวงตาฉายแวววาวโรจน์ในชั่วครู่เดียว
หากกล่าวว่าครั้งแรกหลินสวินจับพลัดจับผลูไม่ได้ตั้งใจ แต่โชคดีชิงดอกบัวเพลิงดอกหนึ่งไปได้ นั่นอาจจะเป็นสิ่งที่โชคนำพามา
แต่ตอนนี้ เขากลับชิงดอกบัวเพลิงได้อีกดอกหนึ่งล่วงหน้าไปก่อน เห็นได้ชัดว่านี่ไม่เกี่ยวกับโชค!
เด็กนี่ต้องครอบครองวิชาลับบางอย่าง สามารถคาดการณ์ล่วงหน้า ค้นพบร่องรอยการปรากฏของดอกบัวเพลิงได้ก่อน!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์