“แล้วเจ้าคิดอย่างไร” หลินสวินเลิกคิ้ว
“จะลองดูว่าเจ้าจะมีปัญญารักษาวาสนาชิ้นนี้ได้หรือไม่!”
ขณะพูดเงาร่างอู่ต้วนหยาไหววูบ ชุดสีขาวพลิ้วไหว เรียกดาบศึกเล่มหนึ่งออกมาเสียงดังชิ้ง ขาวเจิดจ้าดั่งอสนี พุ่งพิฆาตไปทางหลินสวิน
สวบ!
ห้วงอากาศถูกฉีกกระชากอย่างง่ายดายราวกับเนื้อผ้า คมดาบนั้นดุดันและเผด็จการเป็นล้นพ้น ขาวโพลนดุจดั่งอสนีคดโค้งที่พุ่งยิง น่าสะพรึงอย่างที่สุด
ตูม!
แทบจะในเวลาเดียวกัน หลินสวินเริ่มขยับแล้ว หนำซ้ำทันทีที่ลงมือก็ใช้พลังแท้จริงออกมา แสงหมัดสายหนึ่งผสานความเร้นลับทั้งมวลแห่งวิชาเก้าหมัดสะเทือนสวรรค์ แล้วปล่อยพุ่งออกมาทันควันในยามนี้
ชั่วขณะนั้นประหนึ่งอาทิตย์ดวงใหญ่ปรากฏขึ้น พาให้ฟ้าดินเปลี่ยนสี ความโชติช่วงของพลังหมัดคล้ายจะบดขยี้ฟ้าดินให้สลายกลายเป็นผุยผง
“เจ้าคือ…” เดิมทีซาหลิวฉานก็หมายจะลงมือเช่นกัน แต่เวลานี้เขาคล้ายจำอะไรได้ ร้องเสียงหลง หน้าเปลี่ยนสีทันควัน
ในเวลาเดียวกันบุคคลไร้เทียมทานคนอื่นๆ ต่างใจสะท้าน รับรู้ถึงความน่าสะพรึงและเผด็จการของหมัดนี้
ปึง!
พลังหมัดและคมดาบเข้าปะทะราวกับดาวหางพุ่งชนกัน ระเบิดแสงเรืองรองศักดิ์สิทธิ์คับฟ้าออกมา คลื่นอากาศน่าหวาดกลัวหอบม้วนออกไป พาให้เขาน้ำแข็งลูกนี้สั่นสะเทือนวูบหนึ่ง
เวลานี้ไม่ว่าจะเป็นเหล่าผู้กล้าที่อยู่เชิงเขาหรือที่อยู่บริเวณอื่นๆ ต่างพากันนัยน์ตาหดรัดโดยไม่รู้ตัว
พวกเขาตะลึงเมื่อเห็นการปะทะครานี้ อู่ต้วนหยาถึงกับถูกโจมตีจนซวนเซถอยหลัง สั่นเทิ้มไปทั่วร่าง ดาบศึกในมือส่งเสียงร้องโหยหวนแหลมสูง แทบปลิวออกจากมือ!
แต่เจ้าตัวเลือดลมในร่างพลิกตลบ ยากทานทนจนแทบกระอักเลือด
เขาหน้าเปลี่ยนสียกใหญ่ สัมผัสถึงความไม่เข้าที กำลังจะโจมตีกลับเต็มกำลัง แต่หลินสวินที่ครอบครองข้อได้เปรียบตั้งแต่แรกไหนเลยจะเกรงใจ ถือโอกาสนี้พุ่งไปข้างหน้าแล้วกระแทกออกมาอีกหนึ่งหมัด
ตูม!
พลังหมัดน่าสะพรึงพุ่งพรวดออกไป เจิดจ้าเสียจนอู่ต้วนหยาแทบลืมตาไม่ขึ้น หนำซ้ำยามนี้เขาจะเปลี่ยนกระบวนท่าอีกก็ไม่ทันเสียแล้ว ไม่อาจไม่เป็นฝ่ายถูกซัด
เสียงดังปึงสนั่นหวั่นไหว อู่ต้วนหยาถูกซัดสะเทือนอีกครั้ง ซวนเซถอยกรูด กระดูกทั่วร่างส่งเสียงเสียดสีรุนแรง สีหน้าแปรเป็นขาวซีด เลือดสายหนึ่งไหลออกจากมุมปาก
เขาตื่นตระหนก รู้สึกลนลาน เจ้าหมอนี่เป็นใครกัน เหตุใดถึงแข็งแกร่งและน่าสะพรึงเพียงนี้
ตูม!
เพียงแต่ไม่รอเขาตอบสนอง หมัดที่สามของหลินสวินก็ทะลวงฟ้ากระแทกลงมาอีก ราวกับหมัดพิโรธที่เทพมารบรรพกาลซัดออกมา และเหมือนอาทิตย์ดวงใหญ่ที่สว่างจ้ากดกำราบลงมา
อู่ต้วนหยาหนังศีรษะมึนชา ขนลุกขนชัน เขาตกใจจนส่งเสียงร้องแหลมออกมาคราหนึ่ง ดีดตัวเต็มแรงพุ่งไปหลบยังจุดไกลๆ อีกด้านอย่างทุลักทุเล
เพียงแต่หมัดนี้เพิ่งมาแค่ครึ่งทางก็ถูกหลินสวินเก็บกลับคืน ไม่ได้ซัดออกไปจริงๆ ท่าทีที่เก็บปล่อยดังใจเช่นนั้น แสดงให้เห็นว่าการฝึกยุทธ์ของเขามีระดับความเชี่ยวชาญน่าสะท้านโลกเพียงใด
เวลานี้เหล่าผู้กล้าที่อยู่บริเวณอื่นต่างอึ้งค้างอยู่กับที่นานแล้ว
ไหนเลยพวกเขาจะคาดคิด บุคคลไร้เทียมทานผู้มีสมญานามว่า ‘ดรุณดาบมารคลั่ง’ ชื่อก้องแดนฐิติประจิมมานานอย่างอู่ต้วนหยา จะถึงกับถูกกดดันจนไม่เป็นท่าถึงเพียงนี้
เพิ่งเปิดศึกเท่านั้นก็ถูกพลังหมัดอีกฝ่ายบีบจนโงหัวไม่ขึ้น ซวนเซถอยกรูด นี่เห็นได้ชัดว่าน่าเหลือเชื่อเกินไปแล้ว
แต่ซาหลิวฉานกลับสีหน้าอึมครึม สายตาลุกโชน สายตาที่มองไปทางหลินสวินฉายแววเคียดแค้น และมีความกริ่งเกรงที่ยากจะสังเกตเห็นเสี้ยวหนึ่ง
ส่วนบุคคลไร้เทียมทานคนอื่นเวลานี้ต่างก็มีความรู้สึกตั้งตัวไม่ทัน การต่อสู้เมื่อครู่สั้นเหลือแสน แต่กลับดุเดือดสะท้านโลกอย่างไม่ต้องสงสัย
โดยเฉพาะฝีมือที่เด็กหนุ่มคนนั้นสำแดงออกมาทั้งหมดเผด็จการถึงขีดสุดชัดๆ พาให้พวกเขาต่างพรั่นใจและกดดัน
“ไม่ลองแล้วหรือ ทำไมถึงหนีเสียแล้ว” หลินสวินยิ้ม
ไกลออกไป ใบหน้าอู่ต้วนหยาร้อนวูบวาบ ภายในใจเปี่ยมด้วยความโมโหระคนอับอาย แต่ละฉากเมื่อครู่ราวกับภาพฝันชัดๆ พาให้เขาตั้งรับไม่ทัน
หากรู้เช่นนี้แต่แรก เขาจะลงมือสุดกำลังตั้งแต่คราแรกแน่!
แต่เมื่อก้าวแรกพลาด ก้าวต่อๆ ไปย่อมต้องพลาด ทำให้เขาตกอยู่ในสภาพผู้ถูกกระทำและเสียเปรียบ จนถึงขั้นถูกซัดให้อับอายขายหน้าถึงเพียงนี้
“เข้ามาอีก!”
อู่ต้วนหยาคำรามอย่างเดือดจัด ดวงตาแทบปริแตก
เดิมทีเขาแสนจะเอ้อระเหย อาภรณ์สีขาวพลิ้วไหว สง่างามทำตัวตามสบาย แต่ยามนี้กลับหน้าคล้ำเขียว ปรากฏความบิดเบี้ยวและดุร้ายรางๆ มีท่าทางเดือดจัดจนแทบคลั่ง
“ไม่ต้องสู้กันแล้ว”
เวลานี้เอง หลี่ชิงฮวนผู้ถ่อมตัวคนนั้นก็ก้าวเข้ามา ขวางอยู่เบื้องหน้าอู่ต้วนหยา
“เหตุใดต้องขวางข้า!” อู่ต้วนหยาโพล่งอย่างเดือดดาล
กลับเห็นหลี่ชิงฮวนไม่สนใจเขา หากแต่ทอดสายตามองไปทางหลินสวิน กล่าวทอดถอนใจว่า “ไม่เสียแรงที่เป็นเทพมารหลินที่ชื่อก้องเกรียงไกร ไม่ลงมือยังพอทำเนา ครั้นลงมือก็สำแดงอานุภาพแห่งเทพมารออกมา”
“อะไรนะ เขาก็คือเทพมารหลินหรือ”
“นี่…”
บุคคลไร้เทียมทานคนอื่นๆ สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย สายตาที่มองหลินสวินเริ่มเปลี่ยนไปในทันที ต่างมีสีหน้าทำนองว่าที่แท้เป็นเขานี่เอง มิน่าถึงเป็นเช่นนี้
“เทพมารหลิน!”
“สวรรค์ เจ้าหมอนั่นก็คือเทพมารหลินงั้นหรือ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์