นอกเขาพยับคราม บรรดาผู้ฝึกปราณต่างรอคอยด้วยความกระสับกระส่าย ในที่สุดก็ใกล้จะรู้แล้วว่า ใครจะสามารถช่วงชิงอันดับหนึ่งของบททดสอบถกมรรคด่านที่สองนี้ไปได้
แม้แต่เหล่าคนใหญ่คนโตต่างก็หยุดสนทนา รอคอยอย่างใจจดใจจ่อ
ใกล้จะยุติแล้ว…
เขตขีดจำกัดที่แตกต่างกัน บุคคลระดับ อวี่หลิงคง ล้วนแต่รอคอยผลประกาศสุดท้ายอยู่อย่างเงียบๆ
บุคคลแห่งยุคที่ไปถึงยังจุดหมายนานแล้วเหมือนยกภูเขาออกจากอก อย่างน้อยก็ไม่ต้องถูกคัดออก พวกเขาจึงโล่งใจอยู่ไม่น้อย
ส่วนผู้กล้าบางคนที่ยังฝ่าทะลวงในเขตขีดจำกัด จวบจนยามนี้ก็ยังไปไม่ถึงจุดหมาย ต่างไม่อาจยั้งความรู้สึกสิ้นหวังลงได้
ต่อให้ไม่ถูกคัดออก ทว่าเวลาก็เหลือไม่มาก พวกเขารับรู้ได้ว่าครั้งนี้ถูกกำหนดแล้วว่าตนไม่มีโชคพอจะไปบททดสอบด่านถัดไปแล้ว…
…
“ฟัน!”
ในการต่อสู้อันดุเดือด ทันใดนั้นดาบหักที่สว่างพร่างพราวสุดขีดโฉบตวัดขึ้น เปล่งแสงศักดิ์สิทธิ์สะท้านโลกออกมา
ด้านบนตัดเก้าชั้นฟ้า
ด้านล่างกวาดทั่วทิศ
ในพริบตานั้นฟ้าดินขมุกขมัวคล้ายเงียบงันทันใด เวลาดูเหมือนหยุดนิ่ง เหลือไว้แค่เพียงแสงดาบที่ห้อทะยานบาดตาสายหนึ่ง
อัศจรรย์ล้ำเลิศเป็นหนึ่งไม่มีสอง!
พรูด! พรูด! พรูด! พรูด! พรูด!
เงาร่างของ ‘ผู้ฝึกปราณ’ คนแล้วคนเล่าดับสลายไปดั่งหิมะละลายกลายเป็นน้ำ ค่อยๆ เลือนลับจางหาย ไม่อาจขัดขวางและต้านทานได้
“ขอแสดงความยินดีกับศิษย์น้องที่สามารถฝ่าทะลุขีดจำกัดได้”
สตรีชุดกระโปรงรุ้งเจ็ดสีคนนั้นเผยรอยยิ้ม มีความรู้สึกปิติยินดี หลังจากนั้นเงาร่างนางก็อันตรธานหายไปราวกับฟอง
“เมื่อก้าวเข้าสำนักนี้ ไม่ว่าอายุมากน้อยเพียงใดก็ล้วนแต่เป็นพี่น้องกันทั้งสิ้น ศิษย์น้อง สักวันพวกเราจะได้พบกันบนวิถีแห่งมหามรรค รักษาตัวด้วย”
ชายหนุ่มผู้เป็นหัวหน้าเอ่ยปาก เสียงนุ่มไพเราะดังก้องสะท้อน
จากนั้นเขาหมุนตัว เงาร่างสูงใหญ่ก็หายไปเหมือนเงาฟองจากกลางฟ้าดินขมุกขมัวนี้
บนห้วงอากาศ เจตจำนงต่อสู้ทั่วร่างพวยพุ่งดุจไอหินหนืด เพียงแต่เมื่อได้เห็นภาพนี้ เขาก็ได้สติจากห้วงแห่งการต่อสู้
‘ขอบคุณบุญคุณที่ชี้แนะของทุกท่าน สักวันข้าหลินสวินจะต้องทดแทนให้จงได้’
หลินสวินมองไปยังบริเวณที่พวกชายหนุ่มหายไป พลางเอ่ยขึ้นในใจ
การต่อสู้นี้ทำให้วิชายุทธ์ของเขาถูกเคี่ยวกรำจนถึงขีดสุด บังเกิดการเปลี่ยนแปลงในทุกด้าน ซ้ำยังได้หยั่งถึงการต่อสู้อันล้ำค่าหาใดเปรียบ
ไม่ว่าจะเป็นเคล็ดวิชาเก้าหมัดสะเทือนสวรรค์ มังกรเคราะห์เก้ากระบวนแปร ธารดาราหลอมเพลิง มรดกหกกระบวนเฉือนวัฏจักรฟ้า ล้วนแต่หลอมรวมเข้ากับเจตจำนงแห่งมรรคธาตุน้ำที่เขาควบคุมได้ทั้งหมด พลานุภาพเพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวี ไม่เหมือนที่เคยเป็นมาอีกแล้ว
โดยเฉพาะการฝ่าทะลุขีดจำกัดในครั้งนี้ ทำให้หลินสวินเพิ่งสังเกตว่ามกุฎมรรคาที่แท้จริง คือการผสานพลังทั้งหมดที่มีเข้าด้วยกัน เป็นการเปลี่ยนแปลงขีดจำกัดรอบด้านที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน!
นอกจากนี้ พลังจิตวิญญาณก็เกิดการแปรเปลี่ยนด้วยเช่นกัน…
คุณประโยชน์ช่างมีมากล้นจริงๆ
เพียงแค่การหยั่งถึงที่ได้รับจากศึกครั้งนี้ ก็มากพอจะทำให้หลินสวินขัดเกลาและความเข้าใจการฝึกปราณในภายภาคหน้าได้เรื่อยๆ
ตุบ!
ทันใดนั้นร่างของเขาก็โอนเอนก่อนร่วงลงมาที่พื้น
ความเหนื่อยล้าและอ่อนแรงที่ยากบรรยายท่วมท้นไปทั้งร่าง การต่อสู้ครั้งนี้เขาทุ่มเทสุดกำลัง ปลุกเร้าพลังถึงขีดจำกัด ยามนี้เมื่อได้ผ่อนคลายลงจึบยืนหยัดไม่อยู่ทันใด
ฟู่! ฟู่!
หลินสวินหอบหายใจเฮือกใหญ่ ใบหน้าหล่อเหลาซีดขาวอย่างเห็นได้ชัด ร่างชุ่มไปด้วยเหงื่อ เลือดเนื้อ ผิวหนัง จนถึงกระดูกล้วนปรากฏสภาพหมดแรงไปทั่วทุกอณูของร่างกาย นอนราบไปกับพื้น แม้แต่จะยกนิ้วมือยังกินแรง
นับตั้งแต่เข้ามายังดินแดนรกร้างโบราณจนถึงตอนนี้ เขาไม่เคยได้ลิ้มลองรสชาติของ ‘ความไร้เรี่ยวแรง’ เช่นนี้มาก่อนเลย นี่คือความรู้สึกที่ว่างเปล่าหลังจากการได้ปลดปล่อยอย่างสุดกำลัง
ว่างเปล่าปราศจากสิ่งใด
เวิ้งว้างดั่งไร้รากยึด
ทว่าในใจของหลินสวินกลับรู้สึกพอใจอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน นัยน์ตาดำของเขากระจ่างและเรียบสงบ จ้องมองไปยังท้องฟ้าขมุกขมัวนั้น คล้ายกับนอนดูดาวที่ทอแสงยามราตรีบนหลังคาเมื่อครั้งเยาว์วัย ไร้ซึ่งความวิตกกังวลอันใด กายและใจล้วนว่างเปล่า
ฮูม!
ในร่างกายที่ว่างเปล่าพลันมีกระแสร้อนรุ่มพรั่งพรูขึ้น ประหนึ่งน้ำพุพวยพุ่ง กระจายไปทั่วสรรพางค์กาย
พริบตานั้นร่างกายที่คล้ายกับเปลวไฟอันริบหรี่ เหมือนไม้แห้งได้ฝนชโลม ทั้งคล้ายแม่น้ำที่แห้งขอดได้ต้อนรับฝนห่าใหญ่ พลังทั้งหมดในร่างล้วนกำลังฟื้นฟูด้วยความเร็วอย่างน่าอัศจรรย์…
หลินสวินสัมผัสอย่างเงียบๆ
นี่คือพลังที่แปรเปลี่ยนหลังจากการฝ่าทะลุขีดจำกัดมาได้ ช่างล้ำค่าหาใดเปรียบ และเป็นการเปลี่ยนแปลงที่เขาไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน
ราวกับดักแด้กลายเป็นผีเสื้อ นิพพานแล้วเกิดใหม่
ตึง!
และในเวลานี้เวลาหนึ่งก้านธูปหมดลงแล้ว ท้องฟ้าขมุกขมัวพลันเกิดเสียงระฆังโบราณดังกึกก้องขึ้น ประหนึ่งว่าเสียงถูกส่งมาไกลเนิ่นนานนับตั้งแต่บรรพกาล
บททดสอบด่านที่สองสิ้นสุดแล้ว
…
ตึง!
บนเขาพยับครามเสียงระฆังดังกึกก้องลากยาว
เล่าผู้ฝึกปราณที่อยู่ภายนอกต่างพากันถอนหายใจเฮือกยาว สิ้นสุดแล้ว ผลการทดสอบด่านที่สองใกล้จะประกาศออกมาแล้ว!
จะเป็นผู้กล้าสามคนไหนที่ได้รับรางวัลพิเศษของบททดสอบในครั้งนี้
ทั้งเป็นใครกันที่แสดงฝีมือเต็มที่ออกมา ยึดครองที่หนึ่งของบททดสอบครั้งนี้
ทุกคนล้วนแต่กำลังเฝ้าคอย
“เร็วเข้า รีบนับจำนวนผู้กล้าที่ถูกคัดออกในครั้งนี้!”
ส่วนผู้ฝึกปราณจากเผ่าวาทวาโยต่างก็เริ่มเคลื่อนไหวทันใด ด้วยโลกภายนอกไม่อาจร่วงรู้รายละเอียดใดในบททดสอบได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์