เขามาอยู่ตรงกลางถอนใจพลางกล่าว “หลินสวิน ถึงแม้เจ้าคิดจะตัดขาดความสัมพันธ์กับข้า ทว่าเจ้าไร้เมตตาได้แต่ข้าไม่อาจไร้คุณธรรม ถึงอย่างไรพวกเราก็มาจากที่เดียวกัน แน่นอนว่าไม่มีทางเพิกเฉยดูเจ้าดึงดันทำตามใจ ล่วงเกินผู้ที่ไม่ควรล่วงเกิน”
เหล่าผู้กล้าไม่น้อยในที่นั้นถึงตระหนักได้ว่า ที่แท้เซี่ยอวี้ถังนี่ก็มาจากโลกชั้นล่างเหมือนหลินสวิน
“หลินสวิน เจ้าน่ะถอยหลังสักก้าว ขอโทษคุณชายอวี่และแม่นางจี้เถอะ คนอื่นอาจไม่รู้ แต่ข้ามีหรือจะไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังของเจ้า”
เซี่ยอวี้ถังท่าทางเคร่งขรึมจริงจังเหมือนทำเพื่อหลินสวิน
แต่ยิ่งเป็นเช่นนี้ยิ่งทำให้ในใจหลินสวินเอือมระอาและรังเกียจกว่าเดิม ชัดเจนว่าที่เจ้านี่กระโดดออกมาเวลานี้ต้องไม่มีเจตนาดีอะไรแน่
ทว่าเขาสงสัยนัก ตนไม่เคยล่วงเกินหมอนี่มาก่อน ทำไมเจ้านี่ถึงดันทุรังจะหาเรื่องตนครั้งแล้วครั้งเล่า
และเพราะเหตุนี้ หลินสวินจึงสะกดข่มไอสังหารไม่ลงมือกับเซี่ยอวี้ถังทันที เขาอยากลองดูว่าเจ้าหมอนี่คิดจะเอาอย่างไรกันแน่
เบื้องลึกเบื้องหลังของเทพมารหลิน?
เหล่าผู้กล้าทั้งหมด ณ ที่นั้นต่างหูผึ่ง ความสนใจใคร่รู้ถูกกระตุ้นขึ้นมา
นับจากเทพมารหลินเด่นผงาดขึ้นมาแค่ชั่วเวลาไม่กี่เดือนเท่านั้น ทั้งก่อความสั่นสะเทือนในแดนฐิติประจิมจนใต้หล้าจับตามอง ผงาดขึ้นมาเป็นบุคคลแห่งยุคซึ่งทุกคนต่างรู้จัก
เขาผงาดเร็วเกินไป ประดุจดาวหางขวางนภา มีคนเคยสงสัยว่าเขาแอบอ้างไม่สมชื่อเสียง แต่สุดท้ายกลับพิสูจน์แล้วว่าเขามีคุณสมบัติเพียงพอให้ลำพองจริง แบกรับคำว่า ‘ผู้กล้าแห่งยุค’ สี่คำนี้ได้แน่นอน
แต่สำหรับที่มาเบื้องลึกเบื้องหลังของเขา จนบัดนี้กลับเหมือนปริศนา ไม่มีคนสามารถให้คำตอบได้แน่ชัด
นี่ชวนให้ใคร่รู้เป็นธรรมดา
เด็กหนุ่มซึ่งมาจากโลกชั้นล่างคนหนึ่ง ก่อนหน้าไร้ชื่อเสียงไม่มีใครรู้จัก แต่กลับสามารถผงาดกร้าวในแดนฐิติประจิมอันเป็นสถานที่ที่ผู้กล้าปรากฏตัวต่อเนื่อง ใช้เวลาเพียงไม่ถึงครึ่งปีก็ชื่อเสียงเลื่องลือทั่วแดนฐิติประจิม กลายเป็นบุคคลแห่งยุคที่มหาชนจับตามอง เดิมสิ่งนี้ก็เห็นได้ว่าน่าเหลือเชื่อราวปาฏิหาริย์นัก
เมื่อเผชิญหน้ากับสายตาทุกคน เซี่ยอวี้ถังได้ใจยิ่งกว่าเดิม แต่บนหน้าเขายังรักษาสีหน้าเคร่งขรึมดังเก่า
สายตาเขามองยังหลินสวินพลางกล่าว “ปีนั้น เจ้าเป็นแค่เด็กหนุ่มบ้านนอกที่มาจากชนบทห่างไกลคนหนึ่ง คุณสมบัติผิวเผินธรรมดา แม้แต่ฆ่าสัตว์ป่ายังลำบาก หากตอนนั้นข้าไม่ยื่นมือช่วยเหลือ เกรงว่าเจ้าคงไม่รอดถึงป่านนี้”
นัยน์ตาทุกคนต่างหดรัดเล็กน้อย
ปีนั้นเจ้าหมอนี่ยังมีบุญคุณช่วยชีวิตเทพมารหลิน?
ทุกคนเหลือบสายตามองหลินสวินอย่างอดไม่อยู่ แต่กลับเห็นฝ่ายหลังสีหน้าเฉยชาไม่ตระหนกวิตก มองคลื่นความรู้สึกใดๆ ไม่ออก
“เจ้าอยากพูดอะไรกันแน่” หลินสวินถาม
“เจ้ายังไม่เข้าใจหรือ” เซี่ยอวี้ถังขมวดคิ้ว “เจ้าคิดจริงหรือว่าได้รับวาสนาใหญ่จาก ‘แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์’ หนึ่งในจตุโบราณสถานบรรพกาลแล้ว จะทำให้เจ้าอาละวาดเหิมเกริมได้โดยไม่สนกฎเกณฑ์หลักสวรรค์?”
พูดถึงตรงนี้ เขาพลันตบหน้าผากฉาดหนึ่งพลางกล่าว “อ้อ จริงสิ ไม่เพียงเท่านี้ สิ่งที่เจ้าพึ่งพามากที่สุดอาจเป็นสมบัติอริยะชิ้นนั้นที่ได้มาจากแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์กระมัง แต่เจ้าอย่าลืมว่านี่คือดินแดนรกร้างโบราณ ยอดฝีมือปรากฏตัวต่อเนื่อง ผู้แข็งแกร่งดั่งพงพนา แม้เจ้าครองศุภโชคยึดกุมสมบัติอริยะ แต่หากไม่รู้จักสำรวมจะนำมาซึ่งภัยร้ายถึงตัว!”
วาจานี้กล่าวอย่างกึกก้องทรงพลังสะท้านปฐพี
ทว่าสีหน้าผู้แข็งแกร่งตรงนั้นต่างเปลี่ยนไปแล้ว สายตาที่มองหลินสวินเจือความผิดแปลก
แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์!
หนึ่งในจตุโบราณสถานบรรพกาล ลึกลับและไม่อาจระบุอย่างที่สุด ซุ่มซ่อนสมบัติปริศนาโบราณซึ่งเพียงพอทำให้อริยะต่างบ้าคลั่งเพราะมัน
แต่เทพมารหลินคนนี้เคยเข้าสู่แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์มาก่อน!
อีกทั้งจากคำพูดเซี่ยอวี้ถัง เทพมารหลินไม่ใช่แค่เคยเข้าสู่แหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น ยังได้รับวาสนาใหญ่ ได้สมบัติอริยะชิ้นหนึ่งด้วย!
ชั่วพริบตาผู้แข็งแกร่งทั้งหมดต่างนึกถึงข่าวลือเกี่ยวกับเทพมารหลินเมื่อหลายวันก่อน ที่กล่าวว่าสาเหตุที่เขาสามารถเปลี่ยนฐานะจากเด็กหนุ่มบ้านนอกตัวเล็กจ้อยในโลกชั้นล่าง มาผงาดกร้าวในแดนฐิติประจิม ก็เพราะเขาเคยได้รับวาสนาใหญ่ ซ้ำในมือยังยึดครองสมบัติอริยะเอาไว้
หรือข่าวลือจะเป็นเรื่องจริง
ทุกคนในที่นั้นเงียบสนิท เหล่าผู้กล้าตรงนั้นความคิดแตกต่างกันไป ในสมองหมุนวนความคิดนานัปการ
แม้แต่บุคคลแห่งยุคอย่างอวี่หลิงคง จี้ซิงเหยา มู่เจี้ยนถิง เหลยเชียนจวิน ขณะนี้ในใจต่างผิดแปลกอยู่บ้าง สายตาที่มองหลินสวินก็ไม่เหมือนเดิม
เร่าร้อน!
ชั่วพริบตา หลินสวินก็รู้สึกถึงความเร่าร้อนแผดเผาจากสายตาเหล่าผู้กล้าไม่น้อยที่มองมายังตน คล้ายจับจ้องขุมสมบัติไร้เทียมทานแห่งหนึ่ง
และตอนนี้ในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่าเหตุใดเซี่ยอวี้ถังจึงกระโดดออกมาในเวลานี้ นี่หมายเสี้ยมเหล่าผู้กล้าให้หันปลายหอกมาทางตนเพียงคนเดียว!
‘เจ้าหมอนี่เจตนาชั่วช้า!’ ห่างออกไป ไป๋หลิงซีสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของบรรยากาศอย่างชัดเจน สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อยอย่างอดไม่ได้ คั่งแค้นเกินต้าน
เซี่ยอวี้ถังนี่เจตนาเป็นแน่!
ดูเหมือนพูดจาทรงเกียรติผ่าเผย แท้จริงแอบซ่อนแผนชั่ว คิดให้เหล่าผู้กล้ามองหลินสวินเป็นเหยื่อ!
“พูดจบแล้วหรือ” นัยน์ตาดำของหลินสวินนัยน์ตาลุ่มลึกดุจหุบเหว แสงเย็นเยียบพุ่งวาบในดวงตา นับจากนี้เขาไม่อาจอภัยให้เซี่ยอวี้ถังอีกแล้ว
“ทำไม เจ้ายังคิดดื้อดึงไม่ยอมรับ? ข้าเตือนเจ้าด้วยหวังดี หรือยังไม่อาจทำให้เจ้าสำนึกผิดคิดกลับตัวแม้กระผีก” เซี่ยอวี้ถังไม่สบอารมณ์ แต่แท้จริงภายในใจหลงระเริงอย่างยิ่ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์