‘อย่าลืมสิ อวี่หลิงคงแดนกาฬทักษิณนั่นโดยสารตำหนักอมตะมา… นี่น่ะเป็นสมบัติอริยมรรคที่เลื่องชื่อลือนามชิ้นหนึ่ง!’
หลี่ชิงฮวนกล่าวเนิบช้า ‘เจ้าคิดว่าภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เทพมารหลินมีความสามารถอะไรมาต่อกรอวี่หลิงคง’
อู่ต้วนหยาพลันกระจ่าง ในใจสั่นสะท้าน ‘ที่แท้เป็นเช่นนี้’
‘ไม่เพียงแต่อวี่หลิงคง ในมือพวกจี้ซิงเหยา มู่เจี้ยนถิง เหลยเชียนจวินคงมีไพ่ตายอันแข็งแกร่ง’
หลี่ชิงฮวนกล่าวถึงตรงนี้ สีหน้าปรากฏความปรามาสอย่างยากจะเห็นวูบหนึ่ง ‘นี่ก็คือช่องว่างระหว่างบุคคลแห่งยุคและผู้ฝึกปราณทั่วไป เดิมพวกเขาก็เป็นผู้สืบทอดสำนักโบราณ พรสวรรค์เป็นเลิศ ทั้งมีสมบัติลับป้องกันตัวที่อาจารย์มอบให้ นี่จะให้ผู้ฝึกปราณอื่นเทียบกับพวกเขาได้อย่างไร’
‘ว่าไปแล้วข้าเองก็ชื่นชมเทพมารหลินนัก ทั้งไม่ใช่ผู้สืบทอดสำนักโบราณ ทั้งไร้เบื้องหลังให้พึ่งพิง กลับสามารถฟันฝ่าสร้างชื่อใหญ่โตขนาดนี้ด้วยตัวคนเดียว สั่นสะเทือนคนรุ่นเยาว์แดนฐิติประจิม อาศัยแค่จุดนี้ก็เพียงพอให้ผู้แข็งแกร่งส่วนมากต่างละอาย’
อู่ต้วนหยาชะงักงัน รู้สึกเพียงคำพูดนี้ของหลี่ชิงฮวนเจือรสผิดแปลก
‘พี่หลี่ เจ้าก็เป็นบุคคลแห่งยุคจากสำนักยุทธ์สมุทรครามเช่นกัน’ อู่ต้วนหยากล่าวอย่างอดไม่อยู่
หลี่ชิงฮวนถอนใจแผ่ว พลางกล่าว ‘ดังนั้นข้าจึงยิ่งเข้าใจความต่างของเทพมารหลินกับเอกบุคคลอื่น’
“อ๊าก…!”
ที่ห่างไกลพลันมีเสียงร้องหนึ่งดังขึ้น ทำเอาผู้แข็งแกร่งบริเวณใกล้เคียงตื่นตระหนก
ก็เห็นบุรุษเผ่าหงส์เขียวคนหนึ่ง สองมือกุมศีรษะ หน้าตาบิดเบี้ยว สภาพราวเจ็บปวดหาใดเปรียบ แผดเสียงคำรามลั่น “เข็มเงินวิญญาณสะท้านจิต! เทพมารหลิน เจ้ามันโหดเหี้ยม!”
ซ่า…
กาลต่อมา ชายผู้นี้ก็ถูกคลื่นทะเลม้วนกลืนฝังกลบคัดออก
บรรยากาศกลางที่นั้นเงียบสงัดทันที สายตามากมายที่มองยังหลินสวินเปลี่ยนเป็นวูบไหวไม่หยุด
ใครต่างไม่คาดคิด ว่าเทพมารหลินยังมีแรงโต้กลับในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานที่กำลังทะลวงปราณข้ามขั้นอยู่ อีกทั้งการโจมตียังอำมหิตดุดันเช่นนี้
เข็มเงินวิญญาณสะท้านจิต!
นี่เป็นสมบัติลับซึ่งชื่อเสียงโจษจันร้ายกาจหาใดเปรียบ!
เพียงชั่วขณะ ผู้แข็งแกร่งที่เดิมหมายฉวยโอกาสนี้ลงมือกับหลินสวินบางส่วน ต่างหยุดความคิดในใจ
แต่สีหน้าหลี่ชิงฮวนและอู่ต้วนหยาที่เห็นภาพนี้กับตาล้วนผิดแปลกอยู่บ้าง จริงดังคาด เข็มเงินวิญญาณสะท้านจิตนั่นถูกเทพมารหลินชิงไปแล้ว…
…
ตูม!
พลังขับเคลื่อนทั่วร่างหลินสวินแข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม ผิวเรืองอร่ามดั่งสร้างจากทองเซียนสีใส แผ่แสงเจิดจรัสออกมา
เลือดลมเขาส่งเสียงกัมปนาทราวอสนีครวญกระหึ่ม ทั้งตัวดุจภูเขาไฟสะกดกลั้นเนิ่นนานจวนระเบิด
ทุกคนล้วนดูออก เทพมารหลินทะลวงปราณถึงช่วงสำคัญที่สุดแล้ว
นี่ทำให้ผู้แข็งแกร่งมากมายจิตใจว้าวุ่น เดิมปราณหลินสวินก็ทรงพลังและพลิกฟ้าพออยู่แล้ว เพียงพอประชันกับบุคคลแห่งยุค
หากปราณเขาทะลวงขึ้นไปอีก พลังต่อสู้เขาคงเปลี่ยนเป็นน่ากลัวกว่าเดิมโดยไร้กังขาแม้แต่น้อย!
“หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ภายหลังใครจะยังกำราบเขาได้” มีผู้แข็งแกร่งชิงชัง น้ำเสียงเจือความไม่พอใจวูบหนึ่ง
“เฮ้อ เทียบกับคนอื่นแล้วพาลโมโห ก่อนนี้ข้าคิดว่าตนสามารถลำพองในหมู่คนรุ่นเยาว์ได้ แต่นับจากเข้าร่วมเทศกาลโคมกถามรรคครานี้ พบเจอความสง่างามของบุคคลแห่งยุคมากมาย กลับทำเอาข้ากระเทือนต่อเนื่อง ตระหนักได้โดยสมบูรณ์ว่าอะไรที่เรียกว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า” และมีผู้แข็งแกร่งรำพึงสะท้อนใจ
“หึ คิดฉวยโอกาสนี้เลื่อนขั้น? ละเมอเพ้อพก!”
ทันใดนั้นเสียงตวาดดั่งฟ้าคะนองดังก้องขึ้น ก็เห็นบนเรือดอกบัวหนึ่งที่ห่างออกไป เงาร่างซาหลิวฉานผ่าเผย ห้าวหาญสยบผู้คน
“ชีพกระแสทะเลคราม!”
ทั่วร่างเขาโหมซัดแสงโลหิตหมื่นจั้ง ยื่นมือออกไปเป็นกรงเล็บ
เสียงครืนหนึ่งดังขึ้น ทะเลปรวนแปรพลันปรากฏเกลียวคลื่นสูงหมื่นจั้ง กลายเป็นกระแสวังวนชวนประหวั่น บดอัดห้วงอากาศมุ่งทะยานไปทางหลินสวิน
เฮือก…
เหล่าผู้กล้าสูดหายใจเยียบเย็น นี่คือทะเลปรวนแปร น้ำทะเลแต่ละหยดล้วนหนักหมื่นชั่ง แม้ผู้แข็งแกร่งทั่วไปลงมือเต็มกำลังก็ได้แค่กระพือพัดคลื่นเล็กน้อยเท่านั้น
แต่ปัจจุบันกลับมีคลื่นวังวนโหมซัดบดอัดห้วงอากาศ ถูกซาหลิวฉานชักนำราวจะปิดคลุมฟ้าดิน ปรากฏการณ์นี้น่ากลัวเกินไปแล้ว
“ถอย!”
ผู้แข็งแกร่งส่วนหนึ่งที่อยู่ระหว่างทางหน้าเปลี่ยนสี บังคับเรือดอกบัวใต้เท้าถอนหนีห่างไกล เกรงแต่จะถูกลูกหลง กระแสน้ำวนนี้น่ากลัวเกินไป อย่าว่าแต่ถูกชน แค่ถูกคลื่นกระทบก็ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาสามารถแบกรับไหว
ครืนๆ!
คลื่นน้ำท่วมฟ้ากลายเป็นวังวนบดอัด นี่ทำให้ทุกคนต่างตระหนักว่า ซาหลิวฉานหมายทำลายการเลื่อนขั้นปราณของเทพมารหลินในคราเดียว ทำให้เขาธาตุไฟเข้าแทรกถูกกำจัดโดยสมบูรณ์!
“บ้าเอ๊ย!” เยวี่ยเจี้ยนหมิงแค้นจนดวงตาปูดโปนแทบถลน ปราณทั่วร่างเขาโคจรถึงขีดสุด เตรียมการรับมือเต็มกำลัง
ตูม!
กระแสน้ำวนล่วงล้ำ โหมซัดพลังบดอัดชวนประหวั่น หมายม้วนกลืนหลินสวินและเยวี่ยเจี้ยนหมิงสู่ภายใน
“เฉือน!” เยวี่ยเจี้ยนหมิงคำรามเดือดดาล เรียกกระบี่วิญญาณออกมา ฟันแสงเจิดจ้าออกมาต่อต้านมัน
แต่ชั่วพริบตาทั้งตัวเขาก็สะเทือนรุนแรงราวกับโดนฟ้าผ่า เกือบถูกกระแสน้ำวนนั่นพัดลอยออกไป
พลังนี้น่ากลัวเกินไป หาใช่สิ่งที่เขาสามารถต้านทาน!
แต่ถึงแม้เป็นเช่นนี้ เยวี่ยเจี้ยนหมิงยังกัดฟันราวสู้สุดชีวิต นำไพ่ไม้ตายที่ตนมีทั้งหมดออกมา
ไม่ว่าอย่างไร เขาก็ไม่อาจมองดูหลินสวินเลื่อนขั้นปราณล้มเหลวตาปริบๆ ได้
“น่าขัน เผ่าฉลามสมุทรของข้าเป็นผู้เชี่ยวชาญการใช้น้ำ ข้าใช้สี่ตำลึงปาดพันชั่ง[1] พัดพาลมพายุน้ำทะเลขึ้น มีหรือจะเป็นสิ่งที่คนอย่างเจ้าสามารถต้านทานได้”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์