ถัดจากนั้นพวกเขาต่างมีทีท่ารอดูเรื่องสนุก นัยน์ตาเจือความเพลิดเพลินเสี้ยวหนึ่งมองไปทางซาหลิวฉาน
กิริยาเมื่อครู่ของเจ้านี่ขัดตาเหลือเกิน ดีใจจนลืมตัว ทำให้ในใจพวกเขาค่อนข้างไม่พอใจอยู่บ้าง
“ได้ยินว่าเจ้าชำนาญการเล่นน้ำมาก ไม่เช่นนั้นพวกเรามาเล่นกันหน่อยเป็นอย่างไร”
หลินสวินนัยน์ตาเยียบเย็นดุจอสนี จ้องซาหลิวฉานที่อยู่ห่างไกลเขม็ง พลังขับเคลื่อนทั่วร่างพรั่งพรู แผ่กลิ่นอายชวนประหวั่น
“ฮึ!”
ซาหลิวฉานในใจแม้ตกตะลึง แต่ก็ไม่เกรงกลัวหลินสวิน
ซ่า!
ทว่าไม่รอเขาเอ่ยปาก หลินสวินที่อยู่ห่างไกลสะบัดแขนเสื้อคราหนึ่ง บนผืนทะเลพลันมีน้ำทะเลพันหมื่นควบรวมตัวเป็นคมดาบพวยพุ่งออกมา
คมดาบนี้แต่ละสายล้วนยาวหนึ่งฉื่อ ควบรวมจากน้ำทะเลทั้งสิ้น แวววาวโปร่งแสง คมปลาบบาดตา เฉียบคมหาใดเปรียบ
ควบรวมน้ำเป็นดาบ!
เหล่าผู้กล้าอ้าปากค้าง น้ำทะเลนี่ไม่ใช่น้ำธรรมดา แต่ละหยดล้วนหนักเกินหมื่นชั่ง แต่บัดนี้ถูกควบรวมเป็นคมดาบพันหมื่นสายปกคลุมฟ้าดิน คมกริบเต็มฟ้า ภาพฉากนั้นน่ากลัวเกินไปแล้ว
“แย่แล้ว!” ซาหลิวฉานในใจสั่นสะท้าน สังเกตเห็นความอันตราย
“ไป!”
หลินสวินยืนหยัดบนเรือดอกบัว ยื่นมือกลางอากาศชักนำ คมดาบทั่วฟ้าเปล่งเสียงวู้มๆ แหวกฝ่าความว่างเปล่า
จากสายตาคนนอก หลินสวินขณะนี้ดุจเซียนกลางดาบ ไร้มลทินเหนือห้วงมายา ขับเคลื่อนคมดาบสุดคณนากวาดวาดในทะเลปรวนแปร
ฟุ่บๆ
ห้วงอากาศถูกฉีกทึ้งดั่งไหมทอ ปลายดาบพร่างพราวคำรามหวือ ภาพนั้นช่างราวกับกองกำลังพันหมื่นออกตีฝ่า ไอสังหารชวนประหวั่นแผ่กระจาย
“แกร่งเกินไปแล้ว!” ผู้แข็งแกร่งที่ชมการต่อสู้ต่างรู้สึกตกตะลึง
“การควบคุมมหามรรคธาตุน้ำของเขาบรรลุถึงขั้นเจตจำนงแห่งมรรค ยอดเยี่ยมสมบูรณ์ที่สุด สามารถควบรวมน้ำเป็นดาบเพียงสะบัดแขนเสื้อ ในบรรดาคนรุ่นเยาว์มีน้อยคนนักที่สามารถทำได้ถึงขั้นนี้” มีคนกล่าวรำพึง
ผู้ชมการต่อสู้ไม่มีใครไม่พยักหน้า
เจตจำนงแห่งมรรค คือพลังที่มหายุทธ์ระดับกระบวนแปรจุติเท่านั้นที่สามารถควบคุมได้ แต่ไม่ได้หมายความว่ามหายุทธ์ระดับกระบวนแปรจุติทุกคนล้วนสามารถครองพลังเจตจำนงแห่งมรรค
ตรงกันข้าม คนที่ครอบครองพลังเจตจำนงแห่งมรรคในระดับนี้ได้ ไร้หนึ่งในหมื่นอย่างแน่นอน!
นอกจากนี้พลังมหามรรคยากหยั่งอัศจรรย์เกินไป ใช่ว่าจะถูกหยั่งถึงและควบคุมได้ตามสะดวก จำเป็นต้องมีวาสนาและศุภโชค!
และระดับเจตจำนงแห่งมรรค ห่างไกลเหนือระดับท่วงทำนองแห่งมรรคซึ่งพื้นฐานที่สุดอยู่โข คิดหมายควบคุมก็ยิ่งยาก
แม้แต่ในเหล่าผู้กล้า ณ ที่นั้น ส่วนมากก็แค่ครองพลังมหามรรคระดับท่วงทำนองแห่งมรรค มีเพียงหนึ่งหยิบมือที่ครองพลังเจตจำนงแห่งมรรค
ด้วยเหตุนี้ชั่วขณะที่เห็นพลังเจตจำนงแห่งมรรคของหลินสวินเปลี่ยนสิ่งไร้ค่าเป็นสิ่งอัศจรรย์ จึงดึงดูดสายตาตกตะลึงเช่นนี้
“ทะยาน!”
เผชิญหน้าหมื่นศาสตราซัดสาด สีหน้าซาหลิวฉานเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม เลือดลมทั่วร่างโหมซัด แขนเสื้อสะบัดดังฟึ่บฟั่บ พลังทั่วร่างทะยานถึงขีดสุด เห็นเพียงสองมือของเขาหอบความว่างเปล่าราวค้ำหยินหยาง ยกขึ้นเนิบช้ากลางอากาศ
บนผืนทะเลกำแพงน้ำหลากสายทะยานขึ้นมาดังครืนๆ กำแพงน้ำเหล่านี้สูงร้อยจั้ง หนาสิบจั้ง เพิ่งปรากฏบนผืนทะเลก็เยือกแข็งรวดเร็ว กลายเป็นกำแพงน้ำแข็ง
ทอดมองจากไกลๆ เสมือนภูเขาน้ำแข็งหลายลูกอุบัติขึ้นกลางทะเล
ปึง! ปึง! ปึง! ปึง! ปึง!
ดาบวารีเรือนพันเรือนหมื่นโฉบเข้ามา พริบตานั้นก็เฉือนกำแพงน้ำแข็งสิบกว่าสาย ส่งเสียงสะเทือนเลื่อนลั่น เศษน้ำแข็งแตกละเอียดซ่านกระเซ็น
แม้กล่าวว่าในขั้นตอนนี้ดาบวารีถูกกีดขวาง สลายไปไม่น้อย แต่ยังมีดาบวารีอีกมากมายแน่นขนัดพุ่งตรงมา
ภายใต้สายตาสะท้านไหวทั้งหมดที่จับจ้อง ดาบวารีหนาแน่นราวพายุม้วนหอบ แหวกทำลายทุกสิ่ง ทะลวงโค่นอุปสรรคทั้งมวล
“ทะยาน!”
ซาหลิวฉานตื่นตระหนก ทั่วร่างแข็งทื่อสัมผัสได้ถึงอันตราย แผดเสียงตะเบ็งลั่น โคจรพลังทั้งหมดถึงขีดสุด เลือดลมทั้งตัวทะลวงฟ้า ทรงพลังอย่างยิ่ง
ครืน…
บนผืนทะเล กำแพงน้ำแข็งมากมายผงาดขึ้นป้องกันโดยรอบ แวววาวโปร่งแสง ทั้งอบอวลพลังวิญญาณและเจตจำนงแห่งมรรคอันบริสุทธิ์
นี่เทียบกับกำแพงสำริดผนังเหล็กแล้วยังแข็งแกร่งกว่า!
เคร้งๆๆ ดาบวารีแหลมคมโหมซัดชิดถี่ ปะทะเข้ากับกำแพงน้ำแข็ง ส่งเสียงบาดหูราวทวนทองตัดกระทบ
ผู้แข็งแกร่งมากมายละแวกใกล้เคียงเลือดลมปั่นป่วน ไม่อาจไม่หลีกหนี เกรงแต่จะถูกลูกหลง
ทว่าเพียงชั่วพริบตา กำแพงน้ำแข็งมากมายนั่นถูกสะบั้นแหลกอีกครั้ง เฉือนตัดเป็นซากน้ำแข็ง ร่วงลงครืนๆ สู่ผืนทะเล
ขณะเดียวกัน ยังเหลือดาบวารีนับร้อยพุ่งมาถึงหน้าซาหลิวฉาน!
…
ซาหลิวฉานสีหน้าแปรเปลี่ยนครั้งใหญ่ เห็นชัดว่าคาดไม่ถึงว่าอานุภาพของดาบวารีเหล่านั้นจะน่ากลัวเช่นนี้
ฉึ่บ!
ดาบวารีเล่มหนึ่งโฉบผ่าน เฉือนฝากรอยโลหิตบนแก้มเขา จากนั้นผมยาวปอยหนึ่งถูกตัดขาด คลาดเพียงนิดก็จะเฉือนลงบนหน้า
ปึง!
เงาร่างเขาสั่นสะท้าน แขนขวาถูกทะลวงเกิดรูโหว่ชุ่มเลือดหนึ่ง เลือดแดงสดสาดกระจาย
ไม่ใช่ซาหลิวฉานไม่ปัดป้อง แต่ดาบวารีพวกนี้มีมากเกินไป ชิดถี่ราวพายุฝนเทกระหน่ำ เขาพยายามสลายเต็มกำลัง แต่ยังเลี่ยงการบาดเจ็บไม่ได้
ปึงๆๆ
ดาบวารีแวววาวเจือไอสังหารดุดันชวนประหวั่น พลังน่าอัศจรรย์ ซาหลิวฉานแผดเสียงคำรามต่อต้าน แต่ร่างกายกลับถูกกระเทือนจนซวนเซไม่หยุด เลือดลมทั่วร่างตีกลับ ยากจะรับจนเกือบกระอักเลือด
ที่สำคัญที่สุดคือเขาไม่อาจเหินอากาศ ได้แต่บังคับเรือดอกบัวหลีกหลบ แต่เรือดอกบัวต้องอาศัยปราณของตนมาควบคุม ทำให้ความเร็วเขาช้าลงมากโดยปริยาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์