Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 889

ตอนที่ 889 ลักษณ์อัศจรรย์ทยอยปรากฏ
โคมวิญญาณดวงนั้นเจิดจรัส ลำแสงศักดิ์สิทธิ์สว่างไสวนับหมื่นพันสาดส่อง ในสีรัตติกาลดูสว่างสะดุดตายิ่ง

นี่คือโคมวิญญาณดวงแรกที่ถูกจุดสว่างหลังเริ่มการทดสอบด่านที่สี่ แต่กลับเผยปรากฏการณ์น่าทึ่งเหนือธรรมดา

สว่างไสว!

นี่เป็นตัวแทนว่าพลังจิตวิญญาณบรรลุถึงขั้นบนสุดในระดับกระบวนแปรจุติโดยไม่ต้องสงสัย

จิตวิญญาณดุจดวงประทีป ส่องประกายสู่ตน พลังจิตไม่เสื่อมสูญ โคมวิญญาณสว่างชั่วนิจนิรันดร์!

หลอมมรรคกลายเป็นราชัน สิ่งสำคัญที่สุดก็คือจิตวิญญาณ!

เหตุใดผู้แข็งแกร่งระดับราชันสามารถหลุดพ้นอยู่เหนือปราณห้าขั้นใหญ่

ทั้งเหตุใดระดับราชันถูกเรียกว่าระดับสังสารวัฏ

สาเหตุอยู่ที่คำว่าสังสารวัฏ เกี่ยวเนื่องกับการเกิดและการดับ!

เพราะสำหรับผู้ฝึกปราณ การมีอยู่ของจิตวิญญาณเกี่ยวเนื่องถึงความเร้นลับแห่งการเกิดดับ!

ดังคำว่าคนตายดุจตะเกียงที่ดับมอด ถ้าจิตวิญญาณของผู้ฝึกปราณดับสลาย ก็มีนัยถึงความตายที่แท้จริงเช่นกัน

ด้วยเหตุนี้หากหมายทะลวงการเกิดดับกลายราชัน จิตวิญญาณคือสิ่งสำคัญที่สุดโดยไม่ต้องสงสัย

ส่วนเหนือระดับราชันก็คือมรรคาแห่งอมตะ นั่นคือระดับปราณที่อยู่สูงยิ่งกว่า สิ่งที่เสาะหาคือมรรคแห่งความโชติช่วงดั่งสุริยันจันทรา อายุขัยตราบชั่วนิรันดร์

เหล่าผู้กล้าที่เข้าร่วมถกมรรคครั้งนี้ ต่างเป็นผู้มีปณิธานมุ่งสู่หนทางการกลายเป็นราชันในมหาสงครามที่จวนมาเยือน

พวกเขาแทบทุกคนต่างรู้ชัดถึงความสำคัญของพลังจิตวิญญาณต่อการหลอมมรรคกลายเป็นราชัน

ดังนั้นตอนนี้เมื่อเห็นผู้แข็งแกร่งคนแรกจุดโคมวิญญาณจน และแสงนั้นปรากฏลักษณ์ประหลาด ‘สว่างไสว’ จึงต่างตกใจไม่หยุด

ใครกัน

ถึงกับมีพลังจิตวิญญาณเช่นนี้

ไม่ช้าเหล่าผู้กล้าก็มองเห็น ห่างออกไปพลังจิตวิญญาณสายหนึ่งขาวกระจ่างดุจหิมะ แฝงกลิ่นอายคร่ำเคร่งแห่งกาลชีวาโถมเข้าสู่โคมวิญญาณดวงนั้น และเจ้าของพลังจิตวิญญาณนี้ก็ถึงกับเป็นไป๋หลิงซี

“เป็นนาง ผู้สืบทอดแดนพิสุทธิ์อมตะในแดนกาฬทักษิณ!”

ทุกคนพลันตกตะลึงอยู่บ้าง ไม่วายอิจฉาและวาดหวัง

“ได้ยินว่าในโคมวิญญาณแต่ละดวงล้วนมีความอัศจรรย์ต่างกันไป ประทับกลิ่นอายมรดกเร้นลับ มีประโยชน์ต่อการฝึกพลังจิตวิญญาณอย่างไม่อาจประเมิน”

“ไม่ผิด แสงที่โคมวิญญาณฉายสาดยิ่งเจิดจรัส ประโยชน์ที่ได้รับก็ยิ่งมาก นี่คือความลับที่ผู้อาวุโสเผ่าข้าเคยกำชับเป็นพิเศษ”

เสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังก้องขึ้น

มาถึงบนนภาสูงหมื่นจั้งก็เท่ากับมีสิทธิ์จุดโคมวิญญาณดวงหนึ่ง ทว่าควรจุดโคมวิญญาณดวงไหนนั้น กลับต้องพิเคราะห์เป็นอย่างมาก

โคมวิญญาณเหล่านั้นแต่ละดวงร่ายรำเหนืออากาศ ประดุจหมู่ดาวเวียนวนบนเวิ้งฟ้า โคมวิญญาณบางดวงไกลห่างเหลือประมาณราวอยู่ในส่วนลึกของเวิ้งนภา

บ้างกลับลอยล่องโดยรอบ ตาเนื้อสามารถมองเห็น

“จากประสบการณ์เทศกาลโคมกถามรรคในอดีต โคมวิญญาณยิ่งสูง คุณลักษณะยิ่งเลิศล้ำ แต่ก็จะยิ่งจุดสว่างได้ยาก”

“อย่าได้หวังสูงเกินไป พวกเราล้วนมาถึงนภาสูงหมื่นจั้งแล้ว ผ่านการทดสอบมีสิทธิ์จุดโคมวิญญาณ เทียบกับพวกที่ถูกคัดออกก็แกร่งกว่ามากแล้ว”

“จริงดังว่า เช่นนั้นก็เริ่มลงมือเถอะ”

ระหว่างสนทนา ทยอยมีผู้แข็งแกร่งเริ่มเสาะหาโคมวิญญาณที่เหมาะกับตน จากนั้นจึงลองจุดโคม

ในกระบวนการนี้ภายใต้นภาสูงหมื่นจั้ง ยังคงมีผู้แข็งแกร่งมากมายกำลังทะลวงขึ้นมาอย่างยากลำบาก และมีผู้แข็งแกร่งถูกคัดออกเช่นเดียวกัน

หลินสวินไม่ได้รีบร้อน เขากำลังสำรวจและรับรู้

โคมวิญญาณแต่ละดวงเหมือนสร้างจากหินหยกบริสุทธิ์หลากสี แฝงกลิ่นอายเก่าแก่ พวกมันร่ายรำบนเวิ้งฟ้าดุจดวงดาวมากมาย ส่องแสงวิบวับเร้นลับ

“หืม?”

หลินสวินสังเกตเห็นว่าเหล่าบุคคลแห่งยุคอย่างพวกจี้ซิงเหยา อวี่หลิงคง มู่เจี้ยนถิง เหลยเชียนจวินต่างจากผู้แข็งแกร่งอื่น ไม่ได้รีบร้อนเคลื่อนไหว แต่กำลังแผ่ขยายพลังจิตวิญญาณของตน ทำการสัมผัสและเชื่อมต่อกลางอากาศ

เฉกเช่นจี้ซิงเหยา ขณะนี้พลังจิตวิญญาณของนางเกิดเสียงครวญใส วิวัฒน์เป็นหงส์เซียนขาวหิมะตัวหนึ่ง สยายปีกเหนือนภาสูง ร่ายรำเวียนวนใกล้โคมวิญญาณแต่ละดวง

ส่วนพลังจิตวิญญาณของอวี่หลิงคงกลับวิวัฒน์เป็นระฆังธรรมทองอร่าม ส่งคลื่นเสียงสะท้อนก้องถึงส่วนลึกจิตใจ อาศัยสิ่งนี้สัมผัสโคมวิญญาณแต่ละดวง

ที่ดึงดูดสายตาผู้คนที่สุดคงไม่พ้นมู่เจี้ยนถิง เขาคือผู้สืบทอดอารามพรางมรกต ขณะนี้พลังจิตวิญญาณเขาวิวัฒน์เป็นลวดลายมัจฉาหยินหยาง หมุนวนเนิบช้ากลางอากาศ มหัศจรรย์หาใดเปรียบ

นอกจากนี้พลังจิตวิญญาณของบุคคลแห่งยุคคนอื่นๆ บางส่วนล้วนปรากฏลักษณ์อัศจรรย์ต่างกันไป

เห็นชัดว่าพวกเขาต่างครองวิชาลับจิตวิญญาณ ในเวลาเช่นนี้ต่างไม่เก็บงำไว้อีก แสวงหาโคมวิญญาณซึ่งเหมาะกับตนที่สุดเต็มกำลัง!

นี่ก็คือรากฐานของผู้สืบทอดสำนักโบราณ ไม่ขาดทรัพยากร ไม่ขาดวิชาลับ และไม่ขาดการชี้แนะจากอาจารย์ เมื่อรวมกับพรสวรรค์ชั้นเลิศ คุณสมบัติโดดเด่นของตนเข้าไปอีก บนหนทางแห่งการฝึกปราณแน่นอนว่าต้องเหนือกว่าคนปกติ ฉายแววเจิดจรัสอัศจรรย์

ก็เหมือนมรดกวิชาลับจิตวิญญาณนี้ ผู้สืบทอดที่มาจากสำนักทั่วไปในแคว้นวิญญาณอัคนีอย่างเยวี่ยเจี้ยนหมิง แน่นอนว่าไม่อาจครอบครอง

กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ การจะครอบครองมรดกวิชาลับจิตวิญญาณได้ มีเพียงในสำนักโบราณซึ่งยอดเยี่ยมที่สุดในปัจจุบันเท่านั้น!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์