Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 908

ตอนที่ 908 เนตรอสนีดับวิชา
สุดท้ายมู่เจี้ยนถิงและเหลยเชียนจวินก็ไม่สามารถช่วยชิงเหลียนเอ๋อร์ไว้ได้ นางถูกหลินสวินถล่มสังหาร ร่างงามแปรสภาพเป็นเลือดเนื้อปลิวว่อน ภาพนองเลือดหาใดเทียบ

ผู้แข็งแกร่งที่ดูการต่อสู้อยู่ไกลออกไปล้วนอกสั่นขวัญแขวน แข็งแกร่งเกินไปแล้ว! พูดว่าฆ่าก็ฆ่าจริง ขนาดบุคคลบุคคลแห่งยุคสองคนยังไม่อาจต้านทานได้!

แต่เหนือคาดหมาย หลังจากสังหารชิงเหลียนเอ๋อร์ พลังจิตของนางพลันแปรสภาพเป็นเงามายาหงส์เขียวตัวหนึ่ง พุ่งตัวออกไปไกล

เห็นได้ชัดว่าในช่วงเวลาสำคัญก่อนนางจะสิ้นชีพก็ทิ้งกายหยาบไว้ ถึงรักษาพลังจิตให้แคล้วคลาดได้

ก็เห็นว่าปากหลินสวินเปล่งเสียงธรรมออกมา สำแดงความเร้นลับแห่งเสียงคำรามผูเหลา แปรเปลี่ยนเป็นวงคลื่นเสียงสีทองแผ่กระจายออกไป

ตูม!

พลังจิตของชิงเหลียนเอ๋อร์ได้รับบาดเจ็บสาหัส ส่งเสียงหวีดร้องชวนหดหู่หาใดเทียบ เกือบจะแตกสลายพังทลายกลางอากาศ

ในที่สุดนางก็หนีไปโดยเหลือเพียงวิญญาณแหว่งวิ่นส่วนหนึ่ง

ไม่ใช่เพราะหลินสวินออมมือ แต่เพราะในขณะนี้มู่เจี้ยนถิงและเหลยเชียนจวินก็บุกจู่โจมเข้ามาอย่างดุร้าย

“หลินสวิน นี่เจ้ารนหาที่ตายเองนะ!” มู่เจี้ยนถิงบันดาลโทสะ เขากับเหลยเชียนจวินร่วมกันช่วยเหลือ แต่ชิงเหลียนเอ๋อร์เกือบตายสนิท นี่ทำให้เขารู้สึกเสียหน้านัก

“ขนาดจะเอาตัวเองให้รอดยังยาก ยังกล้าพูดเพ้อเจ้อ คิดว่าจะทำอะไรพวกเจ้าไม่ได้จริงๆ หรือ” หลินสวินหันกายมา ดวงตาน่ากลัวเย็นเยียบ พุ่งไปหาพวกมู่เจี้ยนถิงโดยไม่ลังเล

ชิงเหลียนเอ๋อร์หนีไปได้ทำให้เขาขุ่นเคืองในใจ แค้นพวกมู่เจี้ยนถิงถึงที่สุด เจ้าสองคนนี้ทำเสียเรื่องครั้งแล้วครั้งเล่าจนทนไม่ไหวแล้ว

“คนที่พวกข้าหมายปกป้อง เจ้าก็กล้าเข้ามายุ่งหรือ” พวกมู่เจี้ยนถิงสีหน้าคล้ำเขียวทั้งคู่ ทั้งร่างแผ่กลิ่นอายน่าหวาดหวั่น

“เลิกพูดพร่ำทำเพลง เอาชีวิตเจ้ามา!” หลินสวินพุ่งเข้าไปตรงๆ พลังหมัดปะทุแสงประกาย กดอัดจนห้วงอากาศสั่นไหว ฟ้าดินเปลี่ยนสี คลื่นพลังเช่นนี้น่าหวาดหวั่นเกินไปแล้ว

อีกทั้งทั้งร่างของเขาแผ่รัศมีเทพสีใส ผิวหนังทุกกระเบียดล้วนหลั่งกลิ่นอายเจตจำนงแห่งมรรคอิ่มเอิบ ตระการตาราวดวงอาทิตย์สีเขียวดวงหนึ่ง

โครม!

มู่เจี้ยนถิงและเหลยเชียนจวินไม่ได้หลบหนี คนหนึ่งควบคุมกระบี่โบราณลายมรรค คนหนึ่งโบกสะบัดกระบองอสนี เข้าประหัดประหารหลินสวินอย่างดุเดือด

“ก่อนหน้านี้ที่พวกเราแสดงตัวว่าอ่อนแอ ก็เพียงต้องการใช้ค่ายกลนี้สังหารเจ้า หรือเจ้าคิดว่าพวกเรากลัวเจ้าจริงๆ”

เสียงพูดมู่เจี้ยนถิงต่ำลึก เงยหน้าขึ้นในทันใด ใบหน้าหล่อเหลาเต็มไปด้วยไอสังหาร ดวงตาทั้งสองเย็นเยียบเสียดกระดูก

เงาร่างของเขาราวต้นสนสูงลิ่ว ก้าวออกไปก้าวหนึ่งราวย่นย่อระยะทางให้สั้นเพียงชุ่น กระบี่โบราณลายสนปรากฏสัญลักษณ์ลายมรรคแน่นขนัดชุดหนึ่ง เจิดจ้าราวพิรุณ น่ากลัวหาใดเทียบ

เคร้ง!

เสียงกระทบทะลวงแก้วหูดังก้อง ทั้งสองล้วนไม่ได้หลบหนี ประจันหน้าเข้าด้วยกัน

ชั่วขณะหนึ่งบริเวณนี้ก็ปรากฏภาพฟ้าถล่มดินแตกแยก อาทิตย์จ่อมจมจันทรามลาย ผีครวญเทพร้อง รัศมีเทพแสบตาม้วนตลบออกมา พลังทำลายล้างสะท้านโลกา

เคร้งๆๆ!

ก็ในชั่วพริบตานี้เอง ทั้งสองห้ำหั่นกันอย่างดุเดือด ปะทะกันสิบกว่าครั้ง เรียกได้ว่าเป็นการประลองขั้นสุดยอด ภาพการณ์สะท้านฟ้าสะเทือนดิน

ต้องยอมรับว่าเทียบกับการประลองกับหลินสวินคราวก่อน มู่เจี้ยนถิงแข็งแกร่งขึ้นมากจริงๆ กระบี่โบราณลายสนเล่มนั้นของเขาเผยอานุภาพที่ไม่เคยมีมาก่อน ทำให้พลังต่อสู้ของเขาสูงขึ้นราวน้ำขึ้น

แต่สุดท้ายเขาก็ถูกกระแทกจนสั่นระริกไปทั้งกาย กระอักเลือดถอยออกมา ครู่เดียวสีหน้าก็แปรเปลี่ยนเป็นไม่สู้ดีหาใดเทียบ

แม้เขาแข็งแกร่ง แต่หลินสวินแข็งแกร่งยิ่งกว่าเขา!

ที่สำคัญที่สุดก็คือ ในระหว่างนี้หลินสวินยังต่อสู้กับเหลยเชียนจวินด้วย ภายใต้สถานการณ์สองรุมหนึ่ง ยังคงแข็งกร้าวไม่มีใครเทียม นี่จะให้มู่เจี้ยนถิงไม่ตระหนกระคนโมโหได้อย่างไร

ชิ้ง!

ดาบหักขาวเจิดจ้าเป็นประกายราวภาพนิมิต พุ่งวาบไปในห้วงอากาศ คมดาบไร้เทียมทานเช่นนั้นเกือบกวาดต้องลำคอของมู่เจี้ยนถิง

ผมยาวปอยหนึ่งถูกฟันร่วงลงมา จากนั้นก็ถูกบดขยี้จนแหลก หายไปในเวลาอันสั้นราวฝุ่นควัน พร้อมกับวายุคลั่งพัดโบก

มู่เจี้ยนถิงประหวั่นพรั่นพรึง ไม่กล้าคิดฟุ้งซ่านอีก คู่ต่อสู้คนนี้แข็งแกร่งเกินไปแล้ว รับมือได้ยากกว่าที่คาดไว้

เงาร่างหลินสวินยิ่งเหมือนภาพนิมิต รัศมีสุกสกาวเปล่งประกายพลุ่งพล่าน ไหววูบเคลื่อนที่ไปในห้วงอากาศ เขาใช้จิตรับรู้ควบคุมดาบหักประลองกับมู่เจี้ยนถิง แต่ตัวเขาเองกลับกำลังสู้ประชิดตัวกับเหลยเชียนจวิน

พลังหมัดของเขาไม่ด้อยไปกว่าอานุภาพของดาบหักเลย โหดเหี้ยม รุนแรง สะเทือนฟ้าสะท้านดิน ทรงพลังเกินต้านทาน ตัวเขาราวเทพมารบรรพกาลถือกำเนิดขึ้นในโลกา

ตูม!

ไม่นานนัก เหลยเชียนจวินก็ถูกสะเทือนถอยหลังโซซัดโซเซ ในใจเต็มไปด้วยความหวาดผวาและตื่นตะลึง พลานุภาพของหลินสวินแข็งแกร่งเกินไปแล้ว เขาต้องเลือกหลบหนี

“ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ เมื่อกี้ก็น่าจะร่วมมือกันสังหารเจ้า!”

เหลยเชียนจวินแค้นนัก ยิ่งคิดก็ยิ่งเสียใจ ตอนหลินสวินประลองกับพวกจงหลีอู๋จี้อยู่นั้น ก็น่าจะลงมืออย่างเด็ดขาด ไม่น่าเลือกสังเกตการณ์ ทำให้พลาดโอกาสงามครั้งใหญ่ไปโดยเปล่าประโยชน์

‘ถ้าตอนนั้นพวกเจ้าลงมือ ก็หนีพ้นความตายได้ยากอยู่ดี’

หลินสวินยิ้มเหี้ยมเกรียมในใจ เจ้าหมอนี่ยังมีหน้ามาพูดแบบนี้ ทำเหมือนตนไปเอาเปรียบเสียใหญ่โต

ภายในกายของเขาโคจรวิชาอริยะยุทธ์ในทันใด อานุภาพของตัวเขาพลันเปลี่ยนไปอีกครั้ง มีความเชื่อมั่นไร้ผู้ต่อกรที่น่าหวาดหวั่นเพิ่มขึ้นมา

โครม!

เงาร่างของเขาพุ่งออกไปอย่างรุนแรง สำแดงเคล็ดวิชาเก้าหมัดสะเทือนสวรรค์ดังเดิม เพียงแต่พลังหมัดตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว แค่อานุภาพก็ทำให้เหล่าผู้แข็งแกร่งที่อยู่ไกลออกไปจิตใจหวาดผวา รู้สึกสิ้นหวังและหวั่นกลัว

ฟ้าดินล้วนสั่นสะเทือน ถูกพลังต่อสู้น่าครั่นคร้ามกระตุ้น ในความเลือนรางนั้น หลินสวินเหมือนแปลงกายเป็นมหาเทพมารองค์หนึ่ง พุ่งโจมตีเก้าชั้นฟ้า ทำให้สรรพสิ่งที่ถูกโจมตีแตกพ่าย

“นี่…” ที่ไกลลิบ อวี่หลิงคงใจสั่นสะท้าน สายตาวูบไหวไม่ว่างเว้น

‘กลับแข็งแกร่งขึ้นอีกแล้ว นี่ถึงจะเป็นขีดจำกัดของเขาหรือ…’ แม้จี้ซิงเหยาสีหน้าเยือกเย็น แต่ในใจกลับเกิดคลื่นแปรปรวน สงบใจได้ยาก

ปึงๆๆ!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์