Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 933

ตอนที่ 933 สองร่างหนึ่งวิญญาณ
คำถามที่แฝงความเดือดดาลของเจิ้งอวิ๋นเฉี่ยวดังก้องอยู่ในห้องโถง แต่กลับทำให้บรรยากาศยิ่งกดดันกว่าเดิม

ที่เหนือความคาดหมายคือ หลินสวินไม่ได้โมโหจนลงมือ แต่พยักหน้าพูดว่า “เจ้าพูดไม่ผิด วิถีโลกใบนี้บูชาพลัง ผู้แข็งแกร่งมีชัยเหนือผู้อ่อนแอ”

“แต่ว่า…”

หลินสวินเปลี่ยนประเด็น นัยน์ตาดำราวกับสายฟ้า กวาดมองคนตระกูลเจิ้งทุกคนที่อยู่ในห้องโถง สุดท้ายหยุดอยู่ที่เจิ้งอวิ๋นเฉี่ยว “ตระกูลเจิ้งของพวกเจ้าผิดแล้ว!”

“มีสิทธิ์อะไรมาพูดเช่นนี้” เจิ้งอวิ๋นเฉี่ยวไม่จำยอม

“เพราะข้าแข็งแกร่งกว่าพวกเจ้า หมัดใหญ่กว่าพวกเจ้า พวกเจ้าเหยียดหยามน้องชายของสหายข้า ก็เท่ากับเหยียดหยามน้องชายของข้า ให้พวกเจ้าคุกเข่าลงไถ่โทษแล้วมีปัญหาอะไรหรือ”

หลินสวินสีหน้าจริงจังราบเรียบ แต่ละคำราวกับสายฟ้า

คำพูดนี้ดูเหมือนจะมีเหตุผล แต่กลับไม่มีเหตุผลเลยสักนิด เผด็จการอย่างที่สุด ทำให้เจิ้งอวิ๋นเฉี่ยวพูดอะไรไม่ออก

“ว่ากันถึงที่สุด ก็ยังคงเป็นการใช้อำนาจรังแกกันเท่านั้น” ครู่หนึ่งเจิ้งอวิ๋นเฉี่ยวจึงพูดอย่างร้ายกาจ สายตาอำมหิต

“ข้าจะรังแกตระกูลเจิ้งของพวกเจ้าแล้วอย่างไร”

หลินสวินพูดอย่างเหยียดหยาม “เจ้าอ่อนแอจึงมีเหตุผลหรือ หากเจ้าเข้าใจว่าบูชาผู้แข็งแกร่งหมายความว่าอย่างไรจริงๆ ก็คงไม่ถามคำถามโง่ๆ เช่นนี้”

สีหน้าของเจิ้งอวิ๋นเฉี่ยวอึมครึมไม่นิ่ง แต่สุดท้ายก็เงียบ นางรู้ว่าเวลานี้พูดอะไรไปก็ไม่มีประโยชน์จริงๆ

ห้องโถงเงียบกริบ บุคคลชั้นแนวหน้าตระกูลเจิ้งรวมทั้งเจิ้งเฉียนหลงต่างคุกเข่ากับพื้น ในใจแต่ละคนตื่นตระหนกหวาดหวั่น

ครั้นเห็นภาพนี้ ในใจข้ารับใช้ชราตระกูลเยวี่ยรู้สึกสบายใจอย่างไม่ทราบสาเหตุ เพียงแต่พอคิดถึงว่าคุณชายใหญ่อาจจะไม่กลับมาอีกแล้ว ในใจเขาก็อดเศร้าไม่ได้

“คุณชายคนนี้ เจ้ามาก่อเรื่องถึงตระกูลเจิ้งของข้า เห็นจะเกินไปหน่อยหรือเปล่า” เสียงชราเสียงหนึ่งดังขึ้น

ผู้อาวุโสใหญ่!

ชั่วขณะนั้น พวกเจิ้งเฉียนหลงดวงตาเป็นประกาย ในใจที่เดิมทีตื่นตระหนกไร้ที่พึ่งเกิดความหวังขึ้นมาเสี้ยวหนึ่ง

ผู้อาวุโสใหญ่นามว่าเจิ้งหยวนซิว ชื่อเสียงโด่งดังมาหลายปีแล้ว เป็นมหายุทธ์ระดับกระบวนแปรจุติขั้นสมบูรณ์ ไม่เพียงแค่ในเมืองพันทะเลสาบ ในเมืองอื่นๆ บริเวณรอบๆ ก็เป็นผู้ยิ่งใหญ่ที่ชื่อเสียงเลื่องลือ

ในสายตาของทุกคน ครั้งนี้หากผู้อาวุโสใหญ่ออกหน้า บางทีเรื่องราวอาจจะพลิกผัน!

พร้อมกับเสียงนั่น ชายชราในชุดคลุมสีเขียวเข้ม ท่าทางเกรียงไกรและเคร่งขรึมก้าวเท้าเข้ามา มีความแข็งแกร่งราวกับภูผาอย่างหนึ่ง

ตอนที่เห็นคนตระกูลเจิ้งคุกเข่าอยู่บนพื้น สายตาของเจิ้งหยวนซิวหรี่ลงอย่างยากจะสังเกต หว่างคิ้วปรากฏความอึมครึม ก่อนที่สายตาจะมองไปยังหลินสวิน “ที่แท้ก็เป็นเด็กหนุ่มมากสามารถซึ่งก้าวสู่ระดับกระบวนแปรจุติคนหนึ่ง มิน่าถึงได้ไม่เกรงกลัวอะไรเลย”

พลันพูดกับทุกคนบนพื้นด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยแต่แฝงความขัดเคือง “ข้ามาแล้วยังจะคุกเข่าอยู่ทำไม ยังขายหน้าไม่พอหรือ”

แม้จะเป็นการต่อว่า แต่พวกเจิ้งเฉียนหลงกลับสบายใจอย่างมาก คิดว่าผู้อาวุโสใหญ่มีความมั่นใจที่จะจัดการเด็กหนุ่มคนนั้นให้อยู่หมัดได้

เพียงแต่ตอนที่พวกเขาคิดจะลุกขึ้นยืน ก็รู้สึกว่าแรงกดดันรอบตัวเพิ่มขึ้น กดข่มจนพวกเขาแทบเงยหน้าไม่ขึ้น กระดูกเอ็นเกือบจะแตกหัก

ในเวลาเดียวกันก็เห็นหลินสวินใช้เสียงที่ราบเรียบยิ่งกว่าเจิ้งหยวนซิวพูดขึ้น “ตาเฒ่า หยิ่งผยองเกินไปไม่ใช่เรื่องดี เจ้าก็คุกเข่าลงพูดเถอะ!”

“ไอ้เด็กจองหอง ที่บ้านเจ้าเคยสอนมารยาทเจ้าหรือไม่”

เจิ้งหยวนซิวสีหน้ามืดหม่น เขาคิดว่าตนเองใช้คำพูดเกรงใจมามากพอแล้ว ทั้งไม่ได้สร้างความลำบากใจในทันที แต่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายกลับมองข้ามความหวังดีของเขา ท้าทายเขาขึ้นมา

“ให้ข้ามีมารยาทงั้นหรือ ตาเฒ่าอย่างเจ้าก็คู่ควรหรือ”

หลินสวินพูดพร้อมสะบัดฝ่ามือออกอย่างสบายๆ ง่ายดายและตรงไปตรงมา ดูธรรมดาอย่างมาก

“รนหาที่ตายจริงๆ!”

เจิ้งหยวนซิวเดือดดาลโดยสิ้นเชิง เสียงครืนโครมดังสนั่น รอบตัวพลันระเบิดอานุภาพที่น่ากลัว แผ่กระจายออกมาราวกับมังกรเฒ่าที่ตื่นจากการหลับใหล

เขาเองก็สะบัดฝ่ามือออกไป อานุภาพฝ่ามือแข็งกร้าวและเป็นประกาย แค่เด็กหนุ่มระดับแปรจุติขั้นกลางคนหนึ่งเท่านั้น กลับกล้าอวดดีเช่นนี้ ต้องเป็นพวกเด็กกำเริบเสิบสานที่ไม่เคยผ่านความยากลำบากมาแน่

เขาตัดสินใจว่าจะให้บทเรียนที่ยากจะลืมไปทั้งชีวิตกับเด็กจองหองคนนี้!

ปัง!

เพียงแต่ตอนที่แรงฝ่ามือสัมผัสลงไป เจิ้งหยวนซิวเป็นต้องตะลึง พบว่าฝ่ามือของตนราวกับตีบนก้อนสำลี มีความรู้สึกว่างเปล่าประการหนึ่ง พลังฝ่ามือทั้งหมดล้วนถูกกลืนกินในชั่วขณะ

“นี่…” ในใจเจิ้งหยวนซิวพลันสังเกตเห็นว่าท่าไม่ดี

เพียงแต่ตอนที่เขาเพิ่งเตรียมจะเปลี่ยนกระบวนท่า ก็รับรู้ได้ว่าพลังฝ่ามือที่เบาเหมือนสำลีในตอนแรกเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน

กลายเป็นเหมือนเหวดุจนรก สะท้านขวัญไร้ขอบเขต!

เสียงกร๊อบดังขึ้นคราหนึ่ง ฝ่ามือและแขนของเจิ้งหยวนซิวราวกับถูกพลังมหาศาลปานภูเขาทลายมหาสมุทรถล่มกระแทกจนขาด เลือดสดสาดกระเซ็น

“อ๊าก…” เจิ้งหยวนซิวส่งเสียงร้องโหยหวน ตกใจจนวิญญาณเกือบหลุดออกจากร่าง แทบไม่กล้าเชื่อตาตัวเอง

นี่คือพลังที่เด็กหนุ่มระดับกระบวนแปรจุติขั้นกลางควรมีงั้นหรือ

ตูม!

ไม่รอให้เขาตอบสนอง พลังฝ่ามือน่ากลัวก็ปกคลุมไปทั่วทั้งร่างกาย ราวกับภูเขาลูกใหญ่ทับลงมา มีอานุภาพยิ่งใหญ่ที่ไม่สามารถสั่นคลอนได้

ทันใดนั้นท่ามกลางสายตาหวาดกลัวและตกตื่นของทุกคน ผู้อาวุโสใหญ่ที่ราวกับเสาเทพค้ำสมุทรในใจพวกเขา กลับคุกเข่าลงพื้นดังตึง สองเข่ากระแทกพื้น พื้นดินยังถูกกระแทกเป็นหลุมใหญ่ เศษหินปลิวว่อน

ทั้งห้องโถงเงียบสนิท

ทุกสายตาที่มองมาทางหลินสวินราวกับกำลังมองเทพมารคนหนึ่ง เต็มไปด้วยความยากจะเชื่อและหวาดกลัว

นี่เป็นเด็กหนุ่มอย่างไรกัน

ผู้อาวุโสใหญ่ที่มีปราณระดับกระบวนแปรจุติขั้นสมบูรณ์ กลับไม่สามารถต้านทานการโจมตีของเขาได้ ถูกกดข่มให้คุกเข่าลง น่าพรั่นพรึงเกินไปแล้ว!

“ตาเฒ่า ตอนนี้เจ้ายังคิดว่ามีสิทธิ์สอนมารยาทข้าอยู่หรือไม่” น้ำเสียงของหลินสวินแฝงความเย้ยหยันบางๆ

ส่วนข้ารับใช้ชราตระกูลเยวี่ยนั่นก็ตาค้างอย่างสิ้นเชิง เพราะหลายปีมานี้ แม้แต่เยวี่ยเจี้ยนหมิงเมื่ออยู่ต่อหน้าเจิ้งหยวนซิวยังต้องนอบน้อมสามส่วน เคารพฐานะและพลังของอีกฝ่าย

แต่ไม่เคยคิดว่า เมื่อเผชิญหน้ากับสหายของคุณชายใหญ่ท่านนี้ เจิ้งหยวนซิวกลับต้านทานไม่ได้แม้แต่การโจมตีเดียว!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์