คิดไม่ถึงเลยว่าเด็กหนุ่มที่เจ้าเฒ่าสากกะเบือเฒ่าไป่เฟิงหลิวฝากมา จะเป็นปีศาจไร้เทียมทานที่เก็บซ่อนความสามารถลึกล้ำขนาดนี้!
ก่อนที่ศึกนี้จะเริ่มขึ้น พวกเขาต่างรู้สึกหมดหวังเพราะพลังของคู่ต่อสู้แข็งแกร่งเกินไป
ราชันกึ่งระดับถึงหกคนกับกลุ่มมหายุทธ์ระดับกระบวนแปรจุติ เผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ใครจะไม่หมดหวัง
แม้พวกเขาจะเป็นนักผจญภัยที่เข้าออกในแม่น้ำพรมแดนตลอดทั้งปี แต่คนเถื่อนที่โหดเหี้ยมอย่างพวกเขากลับรู้ความสามารถของตนดี ว่าไม่เพียงพอจะเผชิญกับพลังระดับนั้นเลยสักนิด!
แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นกลับทำให้พวกเขาสงสัยในสายตาของตนครั้งแล้วครั้งเล่า ตะลึงจนขวัญหนีซ้ำไปมา
คุณชายหลินซย่าเพียงคนเดียวก็ต้านการกดดันของกลุ่มผู้แข็งแกร่งลัทธิเพลิงศักดิ์สิทธิ์ได้ ช่างเหมือนเทพมารที่ไร้เทียมทาน สามารถพลิกผันสถานการณ์ได้!
ที่น่ากลัวที่สุดคือ ต่อสู้กันจนถึงตอนนี้มีราชันกึ่งระดับถึงสามคนถูกเขาสังหารอย่างแข็งกร้าว และมีลูกศิษย์มากกว่าครึ่งของลัทธิเพลิงศักดิ์สิทธิ์ที่ยังไม่ทันได้ดิ้นรนก็ถูกสังหาร เลือดสาดกระเซ็นคาที่!
หากไม่ใช่เพราะเห็นกับตา คงไม่มีใครกล้าเชื่อ
และตอนนี้ ในสายตาของพวกโค่วซิง หลินสวินเปรียบเสมือนเทพมารที่ไม่มีใครต้านทานได้ มีท่าทางผงาดผยองที่สามารถกำราบศัตรูทั้งปวงได้
แม่นางเยวี่ยเองก็ไม่สามารถนิ่งสงบได้ นึกถึงหลายเรื่องในชั่วขณะนี้
นึกถึงบุตรเทพแต่กำเนิดแห่งเผ่านกปี้ฟางที่ถือกำเนิดในแดนเร้นอริยะ
นึกถึงเด็กหนุ่มผู้ถือกำเนิดจากครรภ์แหล่งกำเนิดทองคำสวรรค์ประทานที่เคยได้เจอในสำนักเมื่อครั้งยังเด็ก ตอนนั้นแม้แต่ผู้อาวุโสในสำนักยังต้องเกรงใจและสุภาพต่อเด็กหนุ่มคนนั้นสามส่วน
นึกถึง…
ความคิดที่สับสนวุ่นวายเกิดขึ้น ปีศาจไร้เทียมทานแต่ละคนที่เคยสร้างรอยประทับลึกล้ำในความทรงจำให้กับแม่นางเยวี่ย ต่างผุดขึ้นมาเปรียบเทียบกับหลินสวินในตอนนี้
สุดท้ายนางได้ข้อสรุปที่ทำให้ตัวนางเองยังอึ้งไม่น้อย ตั้งแต่ต้นจนจบ กลับหาใครที่สามารถสยบหลินสวินอย่างง่ายดายไม่ได้เลย!
‘หรือว่า… เจ้าหมอนี่จะสามารถเทียบเคียงพวกสัตว์ประหลาดในแดนเร้นอริยะได้แล้ว…’ แม่นางเยวี่ยความคิดล่องลอย ดูเหม่อไปบ้าง
……
ในบริเวณนั้นการต่อสู้ยังคงดำเนินอยู่
เพียงแต่ตอนนี้กลับกลายเป็นการขับเคลื่อนฝ่ายเดียว หลินสวินโคจรวิชาของตน ดาบหักลอดผ่านห้วงอากาศ กำลังโจมตีสังหารคู่ต่อสู้เต็มกำลัง
ฝั่งลัทธิเพลิงศักดิ์สิทธิ์เหลือราชันกึ่งระดับเพียงสามคนแล้ว เพียงแต่ตอนนี้พวกเขาต่างถูกฆ่าจนอกสั่นขวัญหนี จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้พังเกือบจะพังทลาย กำลังจะสิ้นหวังแล้ว
ตีหัวให้แตกพวกเขาก็ไม่กล้าเชื่อ ในสถานการณ์ที่พวกเขาได้เปรียบอย่างแน่นอน กลับแพ้ด้วยน้ำมือของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ทั้งยังแพ้อย่างราบคาบเช่นนี้!
ลูกศิษย์ลัทธิเพลิงศักดิ์สิทธิ์คนอื่นๆ ยิ่งสุดจะรับได้ แต่ละคนต่างขาสั่น ตกใจจนขวัญเสียหนีเตลิดออกไป ตื่นตระหนกราวกับสุนัขไร้บ้าน เมื่อเทียบกับความโหดเหี้ยมเย็นชาก่อนหน้านี้แล้ว ราวกับเป็นคนละคน
ปัง!
ทันใดนั้นเสียงปะทะสะเทือนหูดังสนั่นขึ้น เตาหลอมเพลิงแดงที่อยู่ข้างๆ ราชันกึ่งระดับคนหนึ่งถูกดาบหักเฉือนจนแหลกละเอียด ระเบิดดังสนั่น ทำให้เขาได้รับผลกระทบไปด้วย ผมและเคราลุกไหม้ขึ้นมา
แต่สุดท้ายก็รอดชีวิต นี่ทำให้เขาหวาดผวาและอดรู้สึกโชคดีที่รอดจากความตายไม่ได้
เพียงแต่ยังไม่รอให้เขาดีใจ พลังหมัดสว่างไสวก็ทะลวงห้วงอากาศเข้ามา!
ตูม!
เขาเบิกตาโพลงโดยพลัน ในครรลองสายตาพลังหมัดนั่นราวกับขยายใหญ่ไร้ขีดจำกัด เต็มไปด้วยแสงมรรคอันน่ากลัวที่ทำให้ฟ้าดินยังสั่นสะเทือน ปั่นป่วนจักรวาล
นี่ ยังใช่พลังที่ผู้แข็งแกร่งระดับกระบวนแปรจุติสามารถมีได้อีกหรือ เด็กหนุ่มคนนี้เขา… เขาเป็นใครกันแน่
นี่ก็คือความคิดสุดท้ายก่อนตายของราชันกึ่งระดับคนนี้
จากนั้นเขาก็ถูกทำลายล้างด้วยพลังหมัดรุนแรง ร่างกายราวกับกระจกสีที่ระเบิดออก เนื้อเลือดกระจายในทันที
ราชันกึ่งระดับถูกฆ่าอีกคน!
หลินสวินในตอนนี้เส้นผมสีดำพลิ้วไหว บนใบหน้าหล่อเหลายังคงเรียบเฉย เสื้อผ้าเปื้อนเลือดอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง
นั่นล้วนเป็นเลือดของศัตรู แดงสดเสียดตา ทั้งยังไม่เคยแห้ง ขับเน้นให้เขามีอานุภาพน่าหวั่นหวาด ราวกับเทพมารกระหายเลือด
“เจ้า…”
“น่าชังนัก!!!”
ชายชราที่เป็นหัวหน้าและราชันกึ่งระดับอีกคนเดือดดาลตาแทบถลน หางตาต่างกำลังหลั่งเลือด โกรธจนแทบคลั่ง ทั้งยังตกใจจนเย็นวาบไปทั้งตัว
ฝึกปราณจนถึงวันนี้ พวกเขายังไม่เคยสะบักสะบอมขนาดนี้มาก่อน โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่คู่ต่อสู้มีเพียงคนเดียวเท่านั้น! ทั้งยังเป็นเด็กหนุ่มที่มีพลังปราณระดับกระบวนแปรจุติขั้นกลางเท่านั้น!
“ตาพวกเจ้าแล้ว” หลินสวินก้าวย่างมา ชือน้ำแข็งที่ขาวดั่งหิมะปรากฏใต้เท้า เบิกทางให้เขา อานุภาพตะลึงโลก
เปิดฉากสังหารแล้ว เขาไม่คิดจะไว้ชีวิตแม้แต่คนเดียว
ตอนแรกที่เริ่มรบ เขาต้องการใช้การต่อสู้เคี่ยวกรำตนเอง กระตุ้นศักยภาพแฝงแห่งวิชายุทธ์ จึงยังไม่ได้ลงมืออย่างเด็ดขาดเสียที
ถึงขั้นพูดได้ว่า หากอีกฝ่ายไม่ได้เรียกกระบังปัญจเพลิงศักดิ์สิทธิ์ออกมาไวขนาดนั้น การต่อสู้ครั้งนี้อาจจะไม่ปรากฏภาพดังเช่นที่ปรากฏตรงหน้าไวขนาดนี้
พูดอีกนัยหนึ่ง ก่อนหน้านี้หลินสวินเพียงแค่ใช้พวกเขาเป็นหินลับมีดก็เท่านั้น
สำหรับเขาในตอนนี้ ราชันกึ่งระดับอาจจะแข็งแกร่งมาก แต่ขอเพียงแค่ไม่ใช่พวกที่วิปริตเกินไป ก็ไม่สามารถสยบหลินสวินได้จริงๆ
ต้องรู้ว่าตั้งแต่ตอนที่อยู่ในระดับหยั่งสัจจะขั้นสมบูรณ์ เขาก็เคยสังหารราชันกึ่งระดับเผ่าสุนัขสวรรค์มายาทมิฬกับมือมาแล้ว!
“แย่แล้ว…”
ชายชราที่เป็นผู้นำหน้าซีด เขาพยายามหนีเต็มกำลังแต่ก็ถูกเพ่งเล็งไว้ตั้งแต่ต้นแล้ว ไม่สามารถหลุดพ้นได้ นี่ทำให้เขาตระหนักได้อย่างสิ้นเชิงว่า วันนี้มีความเป็นไปได้สูงมากที่ตัวเองจะตายที่นี่
เด็กหนุ่มระดับกระบวนแปรจุติคนหนึ่งเองนะ!
ทำไมถึงแข็งแกร่งขนาดนี้
ชายชราจิตใจห่อเหี่ยวไร้ที่พึ่งจนแทบจะทรุดแล้ว
วู้ม!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์