Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 971

สรุปบท ตอนที่ 971 โลงน้ำแข็งจารึกแผนที่ดาว: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 971 โลงน้ำแข็งจารึกแผนที่ดาว – Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

บท ตอนที่ 971 โลงน้ำแข็งจารึกแผนที่ดาว ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตอนที่ 971 โลงน้ำแข็งจารึกแผนที่ดาว
ตะพาบมังกรเริ่มไออย่างรุนแรงขึ้นมา หยาดน้ำตาเกือบทะลักออกมา

แต่มันกลับไม่ใส่ใจเรื่องพวกนี้ ร่างมหึมาที่คลานอยู่บนพื้นไต่ขึ้นมาดังครืด กล่าวอย่างตึงเครียดว่า “เป็นเจ้าเฒ่าบ้าคนไหน”

ก่อนหน้านี้มันสงบนิ่งชนิดฟ้าผ่าไม่กระเทือน เพลิดเพลินกับอาหารอย่างสบาย รับฟังเสียงคำรามสนั่นกลัดกลุ้มของหมียักษ์สีขาวเงินอย่างสงบ เห็นได้ชัดว่าใจไม่อยู่กับร่องกับรอย

แต่ยามนี้กลับมีอาการไฟลนก้น ไม่สนใจจะกินอาหารแล้ว นัยน์ตาเบิกกว้างกลมโต มีอาการตกใจสะดุ้งโหยง สภาพก่อนและหลังต่างกันลิบลับ

แต่หมียักษ์สีขาวเงินกลับไม่ได้หัวเราะเยาะมัน เพราะขณะที่เอ่ยถึงเจ้าเฒ่าบ้าสามคำนี้ ในใจมันก็หนึกอึ้งผิดปกติเช่นกัน

“บนโลกใบนี้เจ้าเฒ่าบ้าที่สามารถทำให้เจ้ากับข้าตกใจจนมีสภาพเช่นนี้ยังมีคนที่สองด้วยหรือ” หมียักษ์ขาวเงินพูดอย่างไม่สบอารมณ์ เห็นได้ชัดว่าหงุดหงิดยิ่ง

เจ้าเฒ่าบ้าสามคำนี้ สำหรับมันแล้วก็เหมือนสิ่งต้องห้ามอย่างหนึ่ง ขอเพียงเอ่ยขึ้น ในใจก็จะบังเกิดความรู้สึกไหวสะท้านอย่างควบคุมไม่ได้

“เขา… เขายังไม่ตายหรือ” ตะพาบมังกรมีอาการเหม่อลอย

“ตายกับผีน่ะสิ! คนพรรค์นั้น แม้แต่วัฏจักรฟ้าดาราอันไร้ขอบเขตก็ยังขวางไม่ให้เขาบ้าคลั่งไม่ได้ มีหรือจะตายง่ายๆ ขนาดนี้” หมียักษ์ขาวเงินกัดฟันกรอด สายตากลับเต็มไปด้วยความกริ่งเกรง

“เจ้ามั่นใจได้อย่างไร”

ตะพาบมังกรเริ่มกลัดกลุ้มขึ้นมา ร่างกายมหึมายังสั่นเทิ้มน้อยๆ เกล็ดที่ปกคลุมตัวส่งเสียงดังกึกกัก

ในภาพจำของมัน เจ้าเฒ่าบ้านั่นก็คือบุคคลที่น่าสะพรึงจนไม่อาจจินตนาการได้!

“กลิ่นอายบนตัวเด็กหนุ่มคนนั้นเป็นเอกลักษณ์มาก ถึงแม้จะน้อยนิด ไม่ถึงแม้แต่หนึ่งในหมื่นส่วนของเจ้าเฒ่าบ้านั่นก็ตาม แต่ลับมีที่มาเดียวกันกับกลิ่นอายบนตัวเจ้าเฒ่าบ้านั่น!”

นัยน์ตาหมียักษ์สีขาวเงินไหววูบ “ข้าเคยสัมผัสกับเด็กหนุ่มคนนั้นในระยะประชิด เคยสัมผัสมาเองกับตัว ไม่มีทางผิดเป็นอันขาด!”

“เป็นกลิ่นอายแบบนั้นจริงๆ หรือ” ปากที่เต็มไปด้วยเขี้ยวของตะพาบมังกรกำลังสั่นสะท้าน อาการเหมือนตกใจสุดขีด

นี่เห็นได้ชัดว่าตลกขบขันยิ่ง สิ่งมีชีวิตน่ากลัวที่เคยเขมือบราชากึ่งระดับตัวหนึ่ง เวลานี้กลับถูกทำให้ตกใจจนมีสภาพเช่นนี้เพียงเพราะกลิ่นอายอย่างหนึ่ง

หากถูกคนนอกเห็นเข้า เกรงว่าล้วนไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองกันหมด

หมียักษ์ขาวเงินพยักหน้าเน้นหนัก

เวลานั้นมันเองก็ตกใจจนสติกระเจิง ถึงแม้รู้ทั้งรู้ว่าปราณของเด็กหนุ่มคนนั้นไม่เพียงพอจะข่มขู่ตน แต่มันกลับปลุกใจให้ต่อสู้กับเขาไม่ได้ ไม่อาจไม่หลบลี้หนีหาย แจ้นหนีอุตลุด

สาเหตุก็เพราะกลิ่นอายพลังมหามรรคที่อยู่บนตัวเด็กหนุ่มคนนั้น มีพลังเพียงพอจะทำให้มันกริ่งเกรงและสะพรึงได้!

“ตอนนี้เจ้าน่าจะเข้าใจแล้วกระมัง ครั้งนี้พวกเราต้องย้ายถิ่นฐานแล้ว”

หมียักษ์สีขาวเงินถอนหายใจ “อันที่จริงหลังจากแม่น้ำพรมแดนเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ข้าก็เดาไว้แล้วว่าวันนี้จะมาถึงในสักวัน กลับคิดไม่ถึงว่าจะรวดเร็วขนาดนี้ แถมแม้แต่กลิ่นอายบนตัวเจ้าเฒ่าบ้าก็ยังเผยออกมา…”

“สหาย พวกเราได้แต่หนีไป… หืม?”

ตอนที่หมียักษ์ขาวเงินกล่าวถึงจุดนี้ก็พลันหันขวับ กลับพบว่าตะพาบมังกรตัวนั้นหนีไปตั้งนานแล้ว ไวอย่างน่าเหลือเชื่อ

“เจ้าระยำ… แม่งทำไมยังเหมือนกับปีนั้นไม่มีผิด แจ้นหนีโดยไม่บอกกล่าวกันสักคำ!” หมียักษ์สีขาวเงินตะลึงพรึงเพริด โกรธอย่างที่สุด

“ถ้าจะหนีแล้วมัวแต่บอกกล่าว ปีนั้นพวกเราตายไปนานแล้ว อย่าพูดเหลวไหล รีบพาคุณหนูอพยพเร็วเข้า!”

ใต้ทะเลสาบ ตะพาบมังกรเคลื่อนไหวแขนขา ร่างกายมหึมาว่องไวจนน่าเหลือเชื่อ กวนน้ำทะเลสาบสีเงิน แหวกระลอกคลื่นเสียงดังกระหึ่ม

ไม่ว่าใครเห็นเห็นภาพนี้ เกรงว่าคงจะตะลึงจนสมองไม่พอใช้การ ตะพาบมังกรที่น่าสะพรึงขนาดนี้ เวลานี้กลับตกใจเหมือนนกแตกรัง หนีไวกว่าใครเพื่อน!

เห็นเช่นนี้หมียักษ์สีขาวเงินก็ไม่กล้าอืดอาด สาวอุ้งเท้าแล้วเริ่มวิ่งหนีอยู่ก้นทะเลสาบ

……

โครม!

หลินสวินเพิ่งเข้ามาในบ่อทะเลสาบสีเงินก็รู้สึกว่าน้ำทะเลสาบเหมือนจะเดือดพล่าน เริ่มพลิกม้วนอย่างรุนแรง บังเกิดพลังโจมตีอันแข็งแกร่งบีบคั้นจากทุกทิศทาง

‘หืม? หรือตะพาบมังกรตัวนั้นหลบซ่อนตลอดมา รอให้ข้าเข้ามาก็จะพุ่งตรงเข้าโจมตีกันนะ’

ในใจหลินสวินรัดเกร็ง กระตุ้นเร้าเจดีย์สมบัติไร้อักษรป้องกันรอบตัว เงาร่างพุ่งพรวดไปทางก้นทะเลสาบ

เวลานี้หากเลือกหันหลังกลับเกรงว่าจะยิ่งอันตรายกว่าเดิม หากเดินไปทางอื่นบางทีอาจยังมีโอกาสต่อสู้และรักษาชีวิตไว้ได้

อีกอย่าง เขาเองก็คิดอยากลองดูสักหน่อยว่าตะพาบมังกรตัวนั้นแข็งแกร่งแค่ไหนกันแน่

เพียงแต่แม้ว่าน้ำทะเลสาบจะหมุนวนดุเดือดมากขึ้นเรื่อยๆ ทว่าตั้งแต่ต้นจนจบกลับไม่เคยทำให้หลินสวินได้รับอันตรายใดๆ นี่พาให้เขาอดสงสัยไม่ได้ และยิ่งระวังตัวมากขึ้น

จนกระทั่งตอนที่ดำดิ่งสู่ก้นทะเลสาบ เขาสังเกตเห็นทันควันว่ามีเงาสีขาวมหึมาสายหนึ่งวิ่งพรวดอย่างบ้าคลั่งไปจากเบื้องหน้า ความเร็วว่องไวหาใดเปรียบ

“เอ๋! นี่ไม่ใช่หมีขาวยักษ์ตัวนั้นหรือ”

หลินสวินอึ้งงัน คิดไม่ถึงโดยเด็ดขาดว่ายังไม่ทันพบตะพาบมังกรตัวนั้น กลับบังเอิญพบเจ้าหมีที่คุ้นเคยกันที่นี่เสียก่อน

เจ้าหมอนี่มาอยู่นี่ได้อย่างไร

หนำซ้ำยังมีอาการวิ่งหนีเอาตัวรอดอีก หรือว่าเขากำลังถูกตะพาบมังกรตัวนั้นไล่ล่าอยู่

นึกถึงตรงนี้ในใจหลินสวินก็เย็นวูบ ไม่สนใจสิ่งอื่น ไล่ตามไปทันที โคจรก้าวย่างชือน้ำแข็งถึงขีดสุด ความเร็วก็ไวสุดอัศจรรย์หาใดเปรียบ

‘บัดซบ เจ้าหนูนั่นไล่ตามมาแล้ว!’ ด้านหน้า ตอนที่หมียักษ์สีขาวเงินสัมผัสถึงกลิ่นอายของหลินสวินไล่ตามมาติดๆ ก็ตกใจจนแหกปากผรุสวาทในใจ ร้อนรนหาใดเปรียบ

“ต้าไป๋ (เจ้าขาวใหญ่) ทำไมเจ้าต้องหนีด้วย” หลินสวินส่งเสียงลอยมาแต่ไกล เขารู้สึกอยู่รำไรว่าสถานการณ์ดูเหมือนไม่เข้าท่ายิ่ง

ด้านหลัง เจ้าหมีขาวตัวโตกำลังร้องเรียก หลินสวินกลับไม่สนใจเจ้างั่งนี่ ก้มหน้าก้มตาวิ่งพรวดสุดกำลัง

ไม่นานนักเบื้องหน้าเขาพลันปรากฏแสงเงินพร่าตา เมื่อมองดูดีๆ นั่นถึงกับเป็นศิลาอุกกาบาตที่ดูคล้ายภูเขาขนาดย่อมๆ!

มันสูงถึงสิบกว่าจั้ง ทั่วตัวใสวาวราวกับหิมะน้ำแข็ง ผิวนอกไหลเวียนลุกโชนด้วยแสงดาราสีเงิน เหมือนกับดวงดาวจริงๆ ดวงหนึ่งชัดๆ!

รอบตัวมันยังสะท้อนภาพประหลาดลึกลับออกมาอยู่รำไร มีทั้งดาวตกจันทร์โรย ท้องทะเลเปลี่ยนเป็นผืนนา สรรพสิ่งผันแปร…

ภาพประหลาดแต่ละภาพนั้นเผยให้เห็นบรรยากาศอันลึกลับยามกาลเวลาเคลื่อนคล้อย ทั้งงดงามและพาให้ผู้คนสะเทือนใจ

‘นี่น่าจะเป็นศิลาอุกกาบาตที่ถูกผู้แข็งแกร่งพวกนั้นหมายตา เป็นสมบัติชั้นเลิศที่น่าทึ่งชิ้นหนึ่งจริงๆ ด้วย!’

หลินสวินใจเต้นทันใด เขาสัมผัสได้ถึงพลังชีวิตเต็มเปี่ยมที่พุ่งเข้ามา ไพศาลดั่งมหาสมุทร แผดจ้าดั่งดวงอาทิตย์

ตึงครืน!

แต่ยังไม่รอให้หลินสวินสัมผัสอย่างลึกซึ้ง ก็เห็นศิลาอุกกาบาตขนาดใหญ่ก้อนนั้นถูกชนแตกจากด้านใน สัตว์ปีศาจที่มีความสูงเพียงสามจั้ง หัวมังกรตัวตะพาบ สี่กีบประหนึ่งเสาตัวหนึ่งพุ่งออกมา

บนตัวสัตว์ปีศาจปกคลุมด้วยเกล็ดเย็นเยียบ เวลานี้บนหลังมันแบกโลงน้ำแข็งไว้ใบหนึ่ง

โลงน้ำแข็งหนึ่งจั้ง ตัวโลงรายล้อมด้วยแสงดาราพิสุทธิ์เป็นสายๆ สามารถมองเห็นแผนภาพลับอย่างบุปผาปักษามัจฉาแมลง สุริยันจันทราดารา พิธีบูชาบรรพบุรุษ แผ่กลิ่นอายเวิ้งว้างที่เก่าแก่และลึกลับออกมา

สิ่งที่ทำให้ผู้คนใจสั่นที่สุดคือ บนฝาโลงประทับแผนที่ดาวสีเงิน ในนั้นเหมือนบรรจุฟ้าดาราอันไพศาล ธารดาราโคจรอยู่ในนั้นราวกับไร้สิ้นสุด

ตะพาบมังกรตัวหนึ่ง บนหลังแบกโลงน้ำแข็งปริศนาใบหนึ่ง พุ่งพรวดออกมาจากในศิลาอุกกาบาตที่ใหญ่ดุจภูเขาลูกย่อมๆ ภาพนี้พาให้ผู้คนใจสั่นเป็นล้นพ้นจริงๆ

พริบตานี้หลินสวินไม่มีลังเล โคจรพลังของตนถึงขีดสุด เจดีย์สมบัติไร้อักษรที่เตรียมพร้อมรับมือแต่เนิ่นๆ สาดแสงเรืองสีทองเจิดจรัสสายแล้วสายเล่า

ตะพาบมังกรตัวนี้น่าสะพรึงถึงที่สุด หาไม่คงไม่มีทางทำให้กลุ่มราชากึ่งระดับไม่กล้าเข้าใกล้ทะเลสาบนี้แน่!

แต่ที่พาให้หลินสวินอึ้งค้างคือ ตะพาบมังกรตัวนี้แลดูตกใจยิ่งกว่าเขาเสียอีก สะดุ้งผางตัวลอย ดวงตาคู่นั้นแทบถลนออกมา โพล่งขึ้นว่า “สวรรค์! เป็นกลิ่นอายของเจ้าเฒ่าบ้านั่นจริงๆ ด้วย นะนะนี่… น่ากลัวเกินไปแล้ว!”

มันร้องเสียงหลงดังลั่น อาการตกใจเกินเหตุ สายตาซึ่งมองมาทางหลินสวินประหนึ่งจ้องบุคคลที่น่าหวาดกลัวไร้จำกัด เผยให้เห็นความลุกลี้ลุกลนหาที่เปรียบมิได้

นี่…

หลินสวินอึ้งงันน้อยๆ เดิมทีตั้งท่าจะลงมือ แต่ไหนเลยจะคาดคิดว่าจะบังเอิญพบกับภาพที่เหลวไหลและแปลกประหลาดเช่นนี้

“ฮือๆๆ ผู้สืบทอดของเจ้าเฒ่าบ้าปรากฏตัวแล้ว ผู้สืบทอดของเจ้าเฒ่าบ้า…”

กลับเห็นว่าตะพาบมังกรตัวนั้นแหกปากคำรามลั่นเหมือนผีครวญหมาป่าโหยหวนก็ไม่ปาน ก้าวขาขนาดใหญ่ราวกับเสาสี่ต้นเสียงดังสวบแล้วแบกโลงน้ำแข็งหนีอุตลุด

มันมีสภาพเหมือนหมาจรจัด แค้นที่พ่อแม่ไม่อาจคลอดขาเพิ่มอีกสองข้าง พาให้หลินสวินจนคำพูดอยู่บ้าง ตนน่ากลัวขนาดนี้เชียวหรือ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์