Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 970

สรุปบท ตอนที่ 970 เหวี่ยงเหยื่อ: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอน ตอนที่ 970 เหวี่ยงเหยื่อ จาก Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ตอนที่ 970 เหวี่ยงเหยื่อ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายกำลังภายใน Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ที่เขียนโดย Internet เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ตอนที่ 970 เหวี่ยงเหยื่อ
หลินสวินระมัดระวัง ทะยานเข้าใกล้ท้องฟ้าสูง จิตรับรู้แผ่ขยายออกไป ระแวงระไวรอบทิศ

จากนั้นเขาก็เริ่มนำศพออกมาจากแหวนเก็บของ

อย่างแรกเป็นซากศพของตัวนิ่มตัวหนึ่งถูกเขาทิ้งลงไป พื้นผิวทะเลสาบที่สงบนิ่งอยู่เดิมมีฟองคลื่นสีเงินลูกแล้วลูกเล่ากระเซ็นขึ้นมา

“เจ้าเด็กนี่ก็ฉลาดดี รู้จักใช้เลือดเนื้อของสัตว์ประหลาดฟ้าดาราเป็นเหยื่อล่อไปดึงดูดความสนใจของสัตว์ปีศาจตะพาบมังกรนั่น” คนใหญ่คนโตไม่น้อยลอบออกความเห็นอย่างลับๆ

“ตัวนิ่มนั่นข้าเคยเห็นมาก่อน พลังต่อสู้โหดเหี้ยมดุดันถึงที่สุด ผู้มีระดับกระบวนแปรจุติทั่วไปเป็นคู่ต่อสู้ไม่ได้เลย คิดไม่ถึงว่าจะถูกเด็กนี่ฆ่าเสียแล้ว!”

“พอสันนิษฐานทีละขั้น สาเหตุที่เจ้าเด็กนี่ไม่หวั่นเกรงก็เพราะมีความมั่นใจ น่าเสียดายนะ เขายังเด็กไปนัก ไม่รู้ว่าสัตว์ปีศาจตะพาบมังกรที่อยู่ใต้ทะเลสาบนั่นน่ากลัวปานไหน”

เสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังขึ้นอย่างลับๆ

แม้ความสามารถของหลินสวินทำให้พวกเขาประหลาดใจอยู่บ้าง แต่ยังคิดว่าเด็กหนุ่มต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยดังเดิม

“เอ๋ เจ้าเด็กนี่มีความสามารถมากนะ ยังล่าแมงมุมหมาป่าเงินยวงตัวหนึ่งได้ด้วย นี่ก็เป็นถึงสัตว์ประหลาดฟ้าดาราที่น่ากลัวตัวหนึ่ง!”

ไม่นานนักทุกคนต่างงุนงง ด้วยพบว่าหลินสวินนำศพแมงมุมหมาป่าเงินยวงที่ใหญ่สิบกว่าจั้งตัวหนึ่งออกมาแล้วทิ้งลงไปในน้ำทะเลสาบ

“แมงมุมหมาป่าตัวนี้ข้าเคยเห็นมาก่อน เคยฆ่าผู้แข็งแกร่งไปไม่น้อย บ้าเลือดและวิปริต แม้แต่ผู้มีฝีมือชั้นยอดในระดับกระบวนแปรจุติยังไม่กล้าต่อกรกับสัตว์ร้ายตัวนี้!”

“หรือเด็กคนนี้จะเป็นศิษย์ผู้สืบทอดสายตรงของขุมอำนาจใหญ่บางกลุ่ม”

ทันใดนั้นสายตาที่ผู้แข็งแกร่งมองไปที่หลินสวินก็ไม่เหมือนเดิมแล้ว รับรู้ได้ว่านี่อาจจะเป็นบุคคลผู้น่าตื่นตาคนหนึ่งในหมู่คนรุ่นเยาว์

พวกเขาเก็บความคิดสบประมาทดูแคลนลงไปไม่น้อยโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว

“ไม่ถูกสิ โยนศพสัตว์ปีศาจลงไปสองตัวแล้ว ตามประสบการณ์ก่อนหน้านี้ สัตว์ปีศาจตะพาบมังกรที่อยู่ก้นทะเลสาบนั่นน่าจะตื่นจนปรากฏตัวมานานแล้วสิ แต่เหตุใดจนตอนนี้ยังไม่เคลื่อนไหวล่ะ”

มีคนสงสัย ภาพนี้ผิดปกตินัก

ผู้แข็งแกร่งคนอื่นก็พบความไม่ชอบมาพากล ออกจะลังเลไม่แน่ใจ ฉงนใจไม่แน่นอน

‘หรือว่าจะรังเกียจที่เหยื่อไม่พอ’ หลินสวินออกจะไม่เข้าใจเช่นกัน เขายืนอยู่เหนือท้องฟ้าสูง ครุ่นคิดเล็กน้อยแล้วเริ่มทิ้งศพอีกครั้ง

และเมื่อสังเกตเห็นภาพนี้ ไม่ว่าจะเป็นราชันกึ่งระดับที่กระจายตัวอยู่บนเกาะเล็กเกาะน้อยใกล้ๆ กัน หรือมหายุทธ์ระดับกระบวนแปรจุติเหล่านั้น ต่างตกตะลึงอ้าปากค้าง สูดลมหายใจเยียบเย็นไม่ว่างเว้น

สัตว์ประหลาดฟ้าดาราสุนัขพยัคฆ์!

สัตว์ประหลาดฟ้าดาราแรดภูเขา!

สัตว์ประหลาดฟ้าดาราตั๊กแตนเปลือกเงิน!

……

สัตว์ประหลาดฟ้าดาราที่เรียกได้ว่าบ้าเลือดวิปริตตัวแล้วตัวเล่า เวลานี้กลับถูกเด็กหนุ่มผู้นั้นทิ้งลงมาจากมือลงสู่ทะเลสาบ

น้ำทะเลสาบเริ่มถาโถมซัดสาดอย่างรุนแรง ฟองคลื่นสีเงินชั้นแล้วชั้นเล่ากระเซ็นออกมา ภาพนั้นดูแล้วมีความสุนทรีย์อันงดงาม

แต่เมื่อเข้าสู่สายตาของเหล่าผู้แข็งแกร่ง ทัศนียภาพนั้นก็เจือไปด้วยแรงสั่นสะท้านเป็นพิเศษ เกิดภาพติดตาอย่างรุนแรง ทำให้พวกเขาแทบงงงวย

“นี่มัน… จะวิปริตไปแล้วกระมัง สัตว์ประหลาดฟ้าดาราสิบกว่าตัวเชียวนะ เป็นเขาคนเดียวฆ่าตายจริงๆ หรือ”

“เดี๋ยวๆ! คุณชายน้อยผู้นี้เป็นคนร้ายกาจคนหนึ่งชัดๆ เลยนะ ข้าสงสัยว่าแม้แต่บุคคลแห่งยุคในหมู่คนรุ่นเยาว์ยุคปัจจุบันยังไม่มีใครเก่งกล้าได้เท่าเขา!”

“บ้าเอ๊ย! คราวนี้กลับดูผิดไปแล้ว!”

ผู้แข็งแกร่งที่ซ่อนตัวอยู่ลับๆ ล้วนกำลังเต้นผาง ต่างหวั่นกลัวเข้าแล้ว

ก่อนหน้านี้พวกเขายังดูแคลนการเคลื่อนไหวของหลินสวินถึงที่สุด คิดว่าไม่ต่างอะไรกับไปตาย ดังนั้นจึงล้วนคิดว่าหลินสวินอ่อนวัยและหุนหันพลันแล่นเกินไป รนหาที่ตาย ทั้งไม่รู้ฟ้าสูงดินต่ำ

แต่ตอนนี้พวกเขาเพียงรู้สึกแก้มร้อนผ่าว เหมือนถูกคนตบหน้าเข้าอย่างรุนแรงโดยไม่ให้สุ้มให้เสียง รับรู้ได้ว่าตนมองผิดไปแล้ว

นี่เป็นการไม่รู้ฟ้าสูงดินต่ำเสียที่ไหน เป็นมังกรดุดันตัวหนึ่งกำลังข้ามนทีชัดๆ!

โดยเฉพาะเมื่อเห็นว่าหลินสวินนำงูพิษที่ยาวถึงพันจั้งตัวหนึ่งออกมา ผู้แข็งแกร่งระดับกึ่งราชันเหล่านั้นก็ไม่อาจสงบใจได้แล้ว แต่ละคนต่างหน้าเปลี่ยนสี ดวงตาแทบถลนออกมา

พวกเขาจำได้ว่างูพิษตัวนี้เป็นตัวร้ายกาจในหมู่สัตว์ประหลาดฟ้าดาราแน่นอน ยามอาละวาดมีพลังราวพายุคลั่ง ฟ้าถล่มดินแตกระแหง ความแข็งแกร่งในพลังต่อสู้ของมันย่อมไม่ต่ำกว่าราชันกึ่งระดับ!

แต่ตอนนี้…

กลับกลายเป็นศพศพหนึ่ง และไม่รู้ด้วยว่าถูกฆ่าตายเช่นไร บนร่างยาวพันจั้งนั้นมีแต่รอยแผลแตกระแหงน่าขนลุก น่าตื่นตระหนกเมื่อได้เห็น

จากนั้น ศพงูพิษที่มีระดับกึ่งราชันก็ถูกหลินสวินทิ้งลงไปในทะเลสาบเหมือนขยะ

เมื่อเห็นภาพนี้เข้า ราชันกึ่งระดับเหล่านั้นก็หนาวยะเยือกจากเบื้องล่างสุดของกระดูกสันหลัง อึดอัดไปทั้งกาย หากงูพิษตัวนี้ก็ถูกเด็กหนุ่มผู้นั้นฆ่าตายเช่นกัน จะไม่ได้หมายความว่าพลังต่อสู้ของเขาสามารถข้ามระดับไปฆ่าราชันกึ่งระดับได้หรือ

“นี่ต้องเป็นสัตว์ประหลาดน้อยที่มาจากสำนักโบราณสักแห่งแน่ มีความสามารถของผู้กล้าแห่งยุค หาไม่แล้วไม่มีทางแข็งแกร่งปานนี้ได้แน่!” ราชันกึ่งระดับผู้หนึ่งสีหน้าจริงจัง ในใจกระวนกระวายนัก

กระทั่งตอนนี้ผู้แข็งแกร่งที่ซ่อนตัวอยู่ลับๆ เหล่านั้นถึงได้รับรู้ว่า เด็กหนุ่มที่เคลื่อนไหวตามลำพังผู้นั้นไม่ได้ธรรมดาอย่างที่พวกเขาคาดคิดไว้

“เตรียมตัวให้ดี คราวนี้มีเด็กหนุ่มผู้นั้นเยื้อยุดสัตว์ปีศาจตะพาบมังกรที่อยู่ใต้ทะเลสาบนั่น ทำให้พวกเรามีโอกาสช่วงชิงศิลาอุกกาบาตก้อนนั้นได้มากยิ่งขึ้น!”

ทั้งมีคนตื่นเต้น รับรู้ได้ว่านี่เป็นโอกาสงามยิ่งครั้งหนึ่ง

คนอื่นๆ ใจเต้นขึ้นทันที

นั่นสิ เด็กหนุ่มนั่นแข็งแกร่งปานนี้ ไปล่อและฉุดรั้งสัตว์ปีศาจตะพาบมังกรตัวนั้นได้พอดี พอเป็นเช่นนี้แล้ว เท่ากับสร้างโอกาสชิงสมบัติครั้งงามครั้งหนึ่งให้พวกเขาอย่างไม่ต้องสงสัย!

‘เจ้าหนุ่ม ต้องทำให้ดีนะ!’ ผู้แข็งแกร่งบางคนห้ามใจไม่ส่งเสียงให้กำลังใจหลินสวินไม่ได้ แน่นอนว่าอยู่ในใจ พวกเขาไม่กล้าส่งเสียงร้อง เพื่อเลี่ยงไม่ให้เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น

แต่ที่เหนือความคาดหมายของทุกคนก็คือ เรื่องที่เกิดขึ้นต่อมากลับทำให้พวกเขาล้วนตกตะลึงใหญ่โต

หลังจากโยนศพสัตว์ประหลาดฟ้าดาราแล้ว บนผิวน้ำทะเลสาบสีเงินนั้นนอกจากจะมีฟองคลื่นสีเงินวาววับระลอกหนึ่งซัดขึ้นมา สุดท้ายก็กลับสู่ความเงียบเชียบ

แม่นางเยวี่ยยิ้มละไมเอ่ยว่า “ขอเพียงเจ้าต้องการก็ต้องทำได้ แต่เจ้าอย่าเอาพี่หลินสวินของเจ้าเป็นเป้าหมายจะดีที่สุด”

“ทำไมล่ะ”

“เพราะว่า… คิดจะตามฝีเท้าของเขาให้ทัน… เป็นเรื่องยากมากๆ…” แม่นางเยวี่ยครุ่นคิดครู่ใหญ่ ถึงได้ตอบออกมาอย่างจริงจัง

“ยากแค่ไหน”

“รอเมื่อเจ้าประสบความสำเร็จบนหนทางมหามรรคอย่างเขาตอนนี้ก็จะเข้าใจเองล่ะ”

พูดถึงตรงนี้แม่นางเยวี่ยก็ถอนใจเฮือกหนึ่งในใจ นางรู้ดีว่าในหมู่คนรุ่นเยาว์บนโลกนี้ ผู้ที่สามารถเดินตามหลินสวินได้ทันก็มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้น

และคนที่สามารถอยู่บนวิถีแห่งมหามรรคและช่วงชิงความเป็นใหญ่ได้อย่างแท้จริง จะมีสักกี่คนกัน

ขนาดนางยังไม่อาจคาดเดาหรือประเมินได้

……

ในเวลาเดียวกัน ณ ก้นทะเลสาบสีเงิน

“กินๆๆ แม่งรู้จักแต่เรื่องกิน! มหันตภัยจะมาถึงตัวแล้วเจ้ายังกินอีก ไม่กลัวอืดตายหรือ!”

หมียักษ์สีเงินโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง ใช้อุ้งตีนหน้าซึ่งใหญ่เท่าพัดใบตาลตบลงไปบนตัวสัตว์ขนาดมหึมาตัวหนึ่งที่อยู่ข้างกันอย่างแรง

นั่นเป็นสัตว์ประหลาดที่รูปร่างคล้ายตะพาบเฒ่า แต่กลับมีหัวมังกร ร่างกายมีขนาดราวร้อยจั้ง เพียงแค่ตาคู่หนึ่งก็เหมือนแผ่นหินโม่ขนาดยักษ์แล้ว

มันหมอบอยู่ตรงนั้น ประหนึ่งทิวเขาลูกหนึ่ง บนร่างปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีดำคล้ำและเย็นยะเยือก ตอนนี้กำลังเคี้ยวกลืนแมงมุมหมาป่าสีเงินตัวหนึ่งอยู่ เขี้ยวสีขาวหิมะที่เรียวยาวราวกระบี่มีเลือดชโลมเต็มไปหมด กินอย่างเอร็ดอร่อย

อุ้งตีนของหมียักษ์สีเงินตัวนั้นตบลงไปบนเกล็ดที่อยู่บนร่างของมัน เสียงดังกระทบกัน เปล่งแสงปะทุไปรอบทิศ แต่กลับเหมือนทำให้มันจั๊กจี้ ไม่อาจทำให้มันหันเหความสนใจจากอาหารเลิศรสมาได้เลย

นี่ทำให้หมียักษ์สีเงินตัวนี้โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง โมโหจนเต้นเร่าๆ หมายจะบีบคอเจ้านักกินตัวใหญ่ที่ไม่มีหัวคิดตัวนี้

“มองไม่เห็นหรือ ที่เจ้ากินเป็นเหยื่อที่เจ้าเด็กนั่นทิ้งลงมาทั้งนั้น! มันรอจะจับไอ้โง่อย่างเจ้าอยู่นี่ไง!” หมียักษ์เงินยวงคำราม

ในที่สุดตะขาบมังกรตัวนั้นก็เอ่ยปากอย่างอืดอาดแล้ว พูดเสียงอู้อี้ว่า “กลัวอะไร เขามาได้จังหวะพอดี ก็กินให้หมดเสียเลยก็ได้แล้ว”

มันพูดพลางเริ่มละเลียดอาหารต่อ คราวนี้ที่กินก็คือสุนัขพยัคฆ์ตัวหนึ่ง

หมียักษ์สีเงินโมโหจนควันออกหู อุ้งตีนหลังข้างหนึ่งเตะสุนัขพยัคฆ์ตัวนั้นกระเด็นออกไป จากนั้นก็จ้องไปที่ตะพาบมังกร กัดฟันพูดชัดถ้อยชัดคำว่า “ข้าบอกแล้วไงว่าเขาไม่เหมือนกับคนอื่น!”

“มีอะไรไม่เหมือนกันหรือ” อาหารถูกเตะออกไป ทำให้ตะพาบมังกรไม่พอใจนัก ยื่นปากใหญ่จะคาบอาหารกลับมา

“บนกายเขามีกลิ่นอายของเจ้าเฒ่าบ้านั่นอยู่!”

เมื่อหมียักษ์สีขาวเงินพูดคำนี้ออกมา ตะพาบมังกรที่เพิ่งกลืนอาหารเข้าไปในปากเหมือนถูกทำให้ตกใจ แข็งทื่อไปทั้งตัว แทบจะสำลักจนสลบไป

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์