หลิวเต๋อหยิบกระดานแปดทิศแกร่งไปทั่วอยู่ ได้ยินคำพูดของฉินเทียน ก็ยืนอยู่ที่เดิมในชั่วพริบตา
เสียงที่คุ้นเคยเหลือเกินนี้ หรือว่าเป็น……ฉินเทียนที่เขาเคยปะทะตอนที่อยู่จิ่นหู ?
“ไก่ขันทิศตะวันออก ผีร้อยตนยอมให้”
ประโยคในตอนนั้น ทำให้เขาตกใจกลัวจนพาลูกศิษย์หนีเตลิดไปเลย
และมองจิ่นหูเป็นสถานที่ต้องห้าม ไม่กล้าปรากฏตัวอยู่ที่นั่นอีก
เขาระมัดระวังถึงขนาดที่ว่า ไม่กล้าเหยียบเท้าทางทิศใต้ทั้งหมดเลยอีก
ตกอับถึงขนาดที่ใช้ชีวิตอยู่ในสถานที่ที่ห่างไกลความเจริญนี้ ตระกูลซูล้มแล้ว ทำได้แต่ควักเงินหนึ่งแสน เมื่อก่อน ลำพังแค่เงินหนึ่งแสน ไม่เห็นอยู่ในสายตาของเขาเลยด้วยซ้ำ
ทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นเพราะฉินเทียน
เมื่อนึกถึงความน่าสะพรึงกลัวของฉินเทียน หลิวเต๋อก็ตัวสั่นเทาไปหมด
ความน่าหวาดกลัวที่ไร้ขอบเขต แทบจะกลืนกินเขาเลย
เขายกมือขวาขึ้น เช็ดเหงื่อที่ไหลพลั่กที่หน้าผากออก
สันหลังของหลัง ถูกเหงื่อที่ไหลพลั่กทำให้ชื้นเป็นวงกว้างตั้งนานแล้ว
หลิวเต๋อตัวสั่นงก ๆ หันตัวมาอย่างแข็งทื่อ มองฉินเทียนที่ยืนอยู่ไม่ไกลนัก
เนื่องจากตอนที่ฉินเทียนมาตระกูลซู ใช้วิชาปลอมตัวอย่างง่าย ๆ เลยไม่ได้เป็นรูปร่างหน้าตาเหมือนอย่างเมื่อก่อนอีกแล้ว
หลิวเต๋อเห็นใบหน้าที่แปลกหน้าเช่นนี้ ความโกรธก็ผุดขึ้นมาจากในหัวใจทันที !
ช่างน่าเกลียด ไอ้ขโมยโง่เขลาจากที่ไหน ถึงกับกล้าหยอกล้อปรมาจารย์อภิปรัชญาอย่างเขา !
หัวใจที่เต้นอย่างบ้าคลั่งของหลิวเต๋อก็สงบลงภายในชั่วพริบตา ถลึงตามองฉินเทียนด้วยความโกรธเกรี้ยว “แกโผล่ออกมาจากที่ไหน ? ที่นี่คือตระกูลซู ส่วนฉันเป็นแขกผู้ทรงเกียรติที่ตระกูลซูเชิญมา”
“ไอ้หนู เห็นเสื้อผ้าการแต่งกายของนายที่ธรรมดาเช่นนี้ ฉันคิดว่ายังไม่มีฐานะให้นายพูดจาที่ตระกูลซูหรอกนะ ?”
“เรียกชื่อของฉันตรง ๆ บอกความสามารถของฉันเป็นวิชาต้มตุ๋น หึหึ อวดดีโง่เง่า โง่เขลาจนยากที่จะเทียบติด !”
เห็นหลิวเต๋อโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ หวางเหมยกลัวว่าเขาจะถูกยั่วยุให้โกรธ แล้วปฏิเสธงานหนีออกไปอีก
ต้องรู้ว่าเธอจ่ายเงินไปไม่น้อยเลย เพื่อเชิญปรมาจารย์อภิปรัชญาท่านนี้มา
ประจบประแจงตลอดทาง ขาดแค่ไม่ได้ปรนนิบัติหลิวเต๋อเป็นพ่อแท้ ๆ
ด้วยเหตุนี้ เห็นหลิวเต๋อตำหนิฉินเทียน หวางเหมยทำสีหน้าเคร่งขรึมทันที ตีซูเหวินเฉิงที่อยู่ข้างกายอย่างโหดเหี้ยม “แกเชิญคนพรรค์นี้มาจากที่ไหน พูดจาเป็นหรือเปล่าน่ะ !”
“รีบให้เขาไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้ อย่าทำให้ตระกูลซูของเราเสียเรื่อง ปรมาจารย์เขามารักษาโรคให้คุณปู่แกจากที่ห่างไกลโดยไม่กลัวอุปสรรคเลยเชียวนะ !”
วิชาปลอมตัวของฉินเทียนยอดเยี่ยมมาก ไม่เพียงแต่หลิวเต๋อจำไม่ได้ แม้กระทั่งหวางเหมยก็มองไม่ออกด้วยเช่นเดียวกัน
ซูยู่คุนที่อยู่ข้าง ๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย เหยียบเท้าพุ่งเข้าหาซูเหวินเฉิง “รีบไล่ให้เขาไป อย่ามาขายขี้หน้าอยู่ที่นี่ !”
“ของเล่นนี้จากที่ไหนกัน ยังมิสู้ไอ้หนุ่มฉินเทียนนั่นเลย”
หลิวเต๋อหันขวับทันที จับมือของซูยู่คุนเอาไว้ “ฉินเทียน ? ชื่อที่คุณพูดเมื่อกี้ คือฉินเทียนใช่ไหม ?”
ไม่ใช่ว่าเขาโต้ตอบเกินจริงเกินไป แต่สองตัวอักษรนั่นทับบนเส้นประสาทที่อัดแน่นของเขาอยู่ตลอด เหมือนฝันร้ายอย่างไรอย่างนั้น
ซูยู่คุนโดนถามจนอึ้งไป “ใช่ครับ คือฉินเทียนครับ หรือว่าปรมาจารย์เองก็รู้จักฉินเทียนเหมือนกันครับ ?”
พอเขาพูดจบ หวางเหมยก็เบะปากทันที “พูดจาเหลวไหลอะไรน่ะ ? คนที่ชื่อแซ่เดียวกันบนโลกนี้มีเยอะแยะถมเถไป ! ฉินเทียนก็คือเขยแต่งเข้าของตระกูลซูเรา มีสิทธิ์อะไรมารู้จักอาจารย์หลิว !”
ซูยู่คุนพยักหน้าครั้งแล้วครั้งเล่า “คุณพูดได้ถูกต้อง ไอ้หนุ่มนั่นหน้าใหญ่ใจโต ข้างนอกสุกใสข้างในเป็นโพรง ไม่มีฝีมืออะไรจริง ๆ เลย”
ว่าแล้ว เขามองไปยังซูเหวินเฉิงที่โดนตบไปสองสามที “จริงสิ ฉินเทียนล่ะ ? เขามาพร้อมกับเราไม่ใช่เหรอ ? เขาไปไหนแล้วล่ะ ?”
“ไอ้หนุ่มนั่น ฉันรู้อยู่แล้วว่าพึ่งพาไม่ได้ ตอนนั้นไม่น่าให้ซูซูแต่งกับเขาเลย !”
คำพูดของซูยู่คุนกับหวางเหมย ทำให้หลิวเต๋อสบายอกสบายใจ
ที่แท้ก็ชื่อแซ่เหมือนกันนี่เอง ทำเอาเขาตกใจแทบแย่เลย !
เขายังนึกว่าเป็นใครซะอีก ที่แท้เป็นเขยแต่งเข้าตัวเล็ก ๆ ของตระกูลซู หึ !
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด
บท 656 มีไหน...
จะหาอ่านต่อได้ยังไงครับ...
ตอน 656 ไปไหน...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทต่อแล้วหรอค่ะ...
เลิกเขียนแล้วใช่ไหมครับ...
นิยายเขียนต่อมั้ยครับ...