สรุปตอน บทที่ 655 เหตุและผล – จากเรื่อง บัญชามังกรเดือด โดย สวรรค์ไร้เทียมทาน
ตอน บทที่ 655 เหตุและผล ของนิยายแฟนตาซีเรื่องดัง บัญชามังกรเดือด โดยนักเขียน สวรรค์ไร้เทียมทาน เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
เจ้าของแส้มังกรคนใหม่?
เมื่อได้ยินคำพูดของ เฒ่าหัวมังกร ฉินเทียนก็รู้สึกมีบางอย่างผิดปกติ อดไม่ได้ที่จะถามว่า “อะไรคือแส้มังกร?”
“มันเกี่ยวข้องกับดาบเล่มนี้ด้วยหรือ?”
จูจูที่อยู่ข้างๆ พูดอย่างตื่นเต้นว่า “มีดเล่มนี้ชื่อว่าเกล็ดมังกร คนที่ถือมีดเล่มนี้ ก็คือแส้มังกรของมังกรซ่อนรูป”
“แส้มังกรนี้เปรียบเสมือนเป็นผู้ตรวจการ สามารถตรวจตราสมาชิกทุกคนของมังกรซ่อนรูปได้ตลอดเวลา”
“ผู้ตรวจสอบ เธอรู้จักไหม?”
“ฉินเทียน ยินดีกับเธอด้วยนะ นับจากนี้เป็นต้นไป เธอคือผู้ดำรงตำแหน่งแส้มังกรของใหม่ของพวกเรา!”
“มังกรมีเกล็ด ผู้สัมผัสต้องตาย มีดเล่มนี้แสดงถึงการมีอำนาจมหาศาล เป็นรองแค่เฒ่าหัวมังกรเลยก็ว่าได้ ต่อไปนี้แม้แต่ฉันก็ยังต้องเกรงกลัวเธอด้วยนะ”
เป็นผู้ตรวจสอบให้กับมังกรซ่อนรูป อย่างนั้นหรือ? เมื่อเห็นสายตาอันเจ้าเล่ห์ของ เฒ่าหัวมังกร แล้วจู่ๆ ฉินเทียนก็รู้สึกว่าตัวเองได้ถูกวางหมากเอาไว้อีกแล้ว
แมร่งอะไรหว่ะ ให้กูรับใช้พวกมึงเนี่ยนะ?
ฟังดูแล้วเหมือนจะเป็นงานที่สบาย แต่เขารู้ดีอยู่แล้วว่า เรื่องมันไม่มีทางง่ายดายเช่นนั้น
เมื่อรับตำแหน่งแล้ว เขาก็จะเหมือนคนรับใช้คนหนึ่งที่ต้องคอยจัดการแก้ไขปัญหาภายในของมังกรซ่อนรูปอยู่ตลอดเวลา ไม่ใช่หรือ?
เขาไม่ได้โง่ และคงไม่ให้คนอื่นหลอกใช้ได้หรอก
“กูไม่ทำ!”
“พวกมึงอยากให้ใครทำก็ไปทำเถอะ!” เขาทำสีหน้าเคร่งเครียด และรีบโยนมีดลงบนพื้น
เฒ่าหัวมังกรจิบชาและพูดอย่างนิ่งๆ ว่า “เธอเสียดายแล้วหรือ?”
“ครอบครองเกล็ดมังกร เป็นแส้มังกร นี่คือธรรมเนียมที่สืบทอดมานานหลายร้อยปีของมังกรซ่อนรูปของพวกเรา”
“อาวุธตั้งมากมายเธอไม่เลือก ดันเลือกเกล็ดมังกรซะอย่างนั้น ตอนนี้มาทำเป็นเสียดาย มันดูไม่ดีไปหน่อยมั้ง?”
“ในเมื่อเธอพูดว่าจะไม่ทำ ฉันเองก็ไม่สามารถให้โอกาสเธอกลับเข้าไปในคลังอาวุธได้อีก การเดินทางไปญี่ปุ่นของเธอในครั้งนี้ ก็คงถือว่าเสียเที่ยวแล้วสินะ”
ฉินเทียนอารมณ์เริ่มขึ้น พูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “ฉันไม่เอาแล้ว พอใจหรือยัง?”
“ถือว่าฉันเสียเวลาเปล่าก็แล้วกัน ลาก่อน!”
พูดพลาง ก็หันหน้าเดินไปทางประตู พูดตามตรงว่า สำหรับเขาแล้ว เขาไม่ได้สนใจแส้มังกรของมังกรซ่อนรูปอะไรนั้นสักนิดเลย
เขาเคยชินกับความเป็นอิสระที่ไม่มีข้อผูกมัด และไม่คิดอยากจะถูกพันธนาการใดๆ
“ฉินเทียน เธอฟังฉันพูดนะ!”
“คุยกันดีดีเถอะ!”
จูจูตะโกนขึ้นมาเมื่อเห็นว่าฉินเทียนไม่ยอมหยุด เขาเดินพุ่งเข้าไปหาด้วยความโกรธและอ้าแขนทั้งสองข้างตรงหน้าเขา และพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มว่า “ไม่อนุญาตให้ไป!”
“อยากจะมาก็มา อยากจะไปก็ไป เธอเห็นมังกรซ่อนรูปของพวกเราเป็นอะไรกันแน่?”
“จะว่าไป ฉันก็ไม่เข้าใจ แส้มังกรเป็นตำแหน่งที่สำคัญมากขนาดนี้ เธอถือดียังไงมาดูถูกกันแบบนี้?”
ฉินเทียนฝืนยิ้มและตอบว่า “เธอเจตนาให้ฉันเลือกมีดเล่มนี้ ที่แท้ก็วางแผนมานานแล้วสินะ?”
“มีอะไรก็พูดกันตรงๆ ฉันเกลียดท่าทีความระวังตัวทุกฝีก้าวของมังกรซ่อนรูปอย่างพวกเธอ”
จูจูพูดอะไรไม่ออกโกรธจนหน้าแดงก่ำ
เฒ่าหัวมังกรที่อยู่ด้านหลังพูดด้วยเสียงดังว่า “ไอ้เด็กเปรต เธอคิดจะสั่งสอนพวกเราอย่างนั้นหรือ?”
“เรื่องนี้มันสำคัญมาก หากไม่ให้เธอผ่านบททดสอบเสียก่อน ฉันจะกล้าวางใจมอบตำแหน่งที่สำคัญแบบนี้ให้เธอได้ยังไง?”
“เธอไม่ทำก็ได้ แต่ฉันแนะนำให้เธอไปถามพญายมเฒ่าก่อนนะว่าเขาจะยินยอมไหม”
“อาจารย์ของฉันงั้นหรือ?” ฉินเทียนตะลึงไปชั่วครู่ จู่ๆ ก็นึกถึงถุงผ้าเก็บแผนการใบนั้นขึ้นมา
ตามที่เถ้าแก่พูดไว้ตอนนั้น หลังจากที่ได้เผชิญหน้ากันกับเฒ่าหัวมังกร แล้วและตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่รู้ว่าจะทำยังไง ค่อยเปิดจดหมายฉบับนี้ออก
เขารีบหยิบเอาจดหมายนั้นออกมา และแกะชั้นด้านนอกที่ใช้น้ำมันตูดไก่ปิดผนึกไว้จนแห้งแล้วออก
เมื่อเห็นตัวหนังสือบิดๆ เบี้ยวๆ ที่อยู่บนนั้น เขาอดไม่ได้ถึงกับต้องยืนงงอยู่ตรงนั้น
จูจูรีบเดินเข้าไปใกล้ๆ เมื่อเห็นดังนั้น เขาก็หลุดขำออกมา
เขาแย่งกระดาษแผ่นนั้นไปและตะโกนด้วยความดีว่า “คุณปู่ รีบมาดูนี่สิ!”
“พญายมเฒ่าบอกว่า ให้เด็กคนนี้เชื่อฟังทุกอย่างที่เธอต้องการ ถ้าเขาไม่ยอมล่ะก็ ตีเขาให้ตายไปซะเลย!”
อีกมุมหนึ่งคือฝั่งของเทพลักซ่อนที่ไม่ให้ความร่วมมือ ในฐานะเจ้าหน้าที่เหมือนกัน จูเซี่ยวเทียนเองก็จนปัญญาเหมือนกัน
นอกจากนี้มังกรซ่อนรูปก็มีปัญหาภายในสะสมอยู่มากมาย อันเนื่องมาจากการเพิกเฉยของอดีตผู้ดำรงตำแหน่ง เฒ่าหัวมังกร ทำให้เกิดการทุจริตขึ้นมากมายภายในองค์กรแห่งนี้
ทุกคนต่างละโมบเพื่อความสบายของตน ไม่มีใครยอมเสียแรงโดยเปล่าประโยชน์เพื่อสืบสวนคดีเก่าแบบนี้
ดังนั้น มันเลยล่าช้ามาจนถึงทุกวันนี้
ส่วนบัญชาแห่งตะวันตก ก่อนที่เหลิ่งจุ้นจะเสียชีวิต ได้มอบให้กับเถ้าแก่ใหญ่อจิรงๆ
หลังจากที่ จูหงได้ปรึกษาหารือกับ จูเซี่ยวเทียนแล้วก็ตัดสินใจว่าจะเก็บมันไว้ที่เดิม เพื่อรอเวลาและโอกาส
การรอคอยครั้งนี้เป็นเวลาถึงยี่สิบปี
รู้ดีว่าเรื่องนี้อาจจะเกี่ยวข้องกับ วิหารเทพสังหาร แต่ก็ไม่ได้รับคำสารภาพจากฝั่งของญี่ปุ่น และยังไม่มีความคืบหน้าเพิ่มเติมของเบาะแสเลยสักนิด
นอกจากนี้ วิหารเทพสังหารมันลึกลับมากเกินไป แม้กระทั่งพวกเขาเองก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มลงมือจากตรงไหน
แล้วทำไมถึงให้คนนอกอย่างฉินเทียนมาทำหน้าที่เป็นแส้มังกรของมังกรซ่อนรูป เฒ่าหัวมังกรเองก็รู้สึกลำบากใจอยู่เหมือนกัน
องค์กรของมังกรซ่อนรูปใหญ่โตมาก และภายในนั้นก็มีความสัมพันธ์พัวพันมากมายเต็มไปหมด เรื่องราวดูสลับซับซ้อนยุ่งยากยิ่งนัก เขาอยากจะแก้ไขปรับใหม่ทั้งระบบ หากอาศัยคนใน งานคงไม่เดินแน่ๆ
ก่อนหน้านี้เขาเคยสืบสวนอยู่สองสามครั้งแล้ว แต่ได้เพียงผลลัพธ์อันเล็กน้อยเท่านั้น
ดังนั้น เลยจำเป็นต้องใช้คนนอกอย่างฉินเทียน ที่ไม่เข้าใจสถานการณ์ใดใดของมังกรซ่อนรูป เลย มันกลับง่ายที่จะลงมือเสียด้วยซ้ำ
การทุจริตภายในของมังกรซ่อนรูป โดยเฉพาะทางภาคตะวันตกนั้นถือว่ารุนแรงที่สุด
หลังจากที่จินหู่เสียชีวิตลงแล้ว เป็นเพราะว่าไม่มีบัญชาแห่งตะวันตกมีแต่เพียงตัวแทนหัวหน้าที่ชื่อว่าไป๋เลี่ยน
หากจะทำการตรวจสอบการตายของ จินหู่รวมถึงสงสัยวิหารเทพสังหารที่ใหญ่ที่สุดนั้น อันดับแรก ต้องจัดการภาคตะวันตกก่อน แล้วค่อยจัดการแก้ไขการทุจริตของมังกรซ่อนรูปตะวันตก
แต่ ไป๋เลี่ยนเองก็ยังมีอีกหนึ่งสถานะ นั่นก็คือ ศิษย์สายตรงของท่านอาวุโสใหญ่แห่งสภาผู้อาวุโส
สภาผู้อาวุโสอยู่ในแผนกภายในของมังกรซ่อนรูป อยู่ในฐานะที่พิเศษมากเหมือนกัน แต่ในบางมุมอาจกล่าวได้ว่ายังมีความต่อต้านเฒ่าหัวมังกรอยู่เหมือนกัน
สถานการณ์นี้ เฒ่าหัวมังกรเองก็จนปัญญาเช่นกัน
นี่คือเหตุและผลของทั้งหมด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด
บท 656 มีไหน...
จะหาอ่านต่อได้ยังไงครับ...
ตอน 656 ไปไหน...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทต่อแล้วหรอค่ะ...
เลิกเขียนแล้วใช่ไหมครับ...
นิยายเขียนต่อมั้ยครับ...