มาถึงด่านที่สอง
ด่านแรก เพียงแค่ตรวจสอบบุคคลที่เข้าไปเท่านั้น ให้แน่ใจว่าไม่มีใครพกอาวุธอันตรายมา
ส่วนด่านที่สองนี้ เป็นจุดสำคัญที่จะให้ทุกคนรูดบัตรเพื่อเข้าไปในงานได้
เนื่องจากมีบุคคลสำคัญมาเป็นจำนวนมาก เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ดังนั้นบัตรเชิญทั้งหมดจึงเป็นแบบระบบอิเล็กทรอนิกส์
ต้องมีการอ่านบัตรเพื่อยืนยันข้อมูล
“เป็นไปไม่ได้!”
“บัตรใบนี้พ่อของฉันเป็นคนให้ฉันมากับมือ ข้อมูลในนั้นก็เป็นของฉัน ทำไมจะอ่านไม่ได้?”
อู๋เฟยโวยวายอย่างหัวเสีย
“ต้องขออภัยด้วยคุณผู้ชาย บัตรของคุณไม่สามารถอ่านได้ ดังนั้นคุณเข้าไปในงานไม่ได้ครับ”
“เชิญกลับไปเถอะครับ”คนของแก๊งเขี้ยวมังกรที่ปลอมตัวมาเป็นรปภ. ยังคงควบคุมอารมณ์ได้
“เหลวไหล!”
อู๋เฟยชี้หน้ารปภ.แล้วตะโกนว่า“ นายมันก็แค่รปภ.กระจอก เหมือนหมาตัวหนึ่ง กล้าดียังไงมาพูดกับฉันแบบนี้!”
“แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร ?”
“รู้ไหมว่าตระกูลอู๋ของเราร่ำรวยแค่ไหน ?”
“ไปเรียกคนที่ดูแลรับผิดชอบของพวกแกมา !”
เขาอารมณ์เสียอย่างมาก ขณะที่พูด ก็พยายามจะบุกเข้าไปข้างใน
ทั่วทั้งหลงเจียง รปภ.คนไหนกล้าจะมาขวางคุณชายเฟยอย่างเขา ? วันนี้เห็นแก่ราชาเทพ ก็พยายามควบคุมอารมณ์อยู่ตลอด
แต่ตอนนี้ภายใต้อารมณ์ที่เดือดดาล สันดานเดิมก็เผยออกมา
ดวงตาของรปภ.เยือกเย็น เดินเข้ามาหา แค่ท่าดันมือไทเก๊ก ก็ผลักจนเขากระเด็นออกไป
เสียงปั้กที่กระแทกลงกับพื้นดังขึ้น อู๋เฟยเจ็บจนร้องโอดโอยเสียงดัง
“รปภ.ทำร้ายคน!”
“ฉันจะบอกอะไรให้ พวกแกมันรนหาที่แล้ว !”
“ที่รัก คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” ซูหนานพยุงอู๋เฟยขึ้นอย่างตื่นตระหนก
ข้างๆ รปภ.คนอื่นๆก็ปรี่เข้ามา ใบหน้าของพวกเขาเย็นเยือก พูดเสียงเข้ม “ไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหนหรือยังไง ?”
“ยังเอะอะโวยวายเสียงดัง เชื่อไหมว่าจะทำให้หุบปากไปเลยตลอดชีวิต !”
อู๋เฟยกับซูหนาน เห็นด้ามปืนสีดำที่ยื่นออกมาจากเอวของชายชุดดำพร้อมๆกัน
พวกเขาก็เพิ่งจะมาตระหนักรู้ได้ในตอนนี้ ว่าความภาคภูมิใจอย่างแรงกล้าที่พวกเขามีมันมาตลอด ในสายตาของใครบางคน ก็ไม่ได้มีความหมายอะไรเลย
เมื่อใจเย็นลง ใบหน้าก็ซีดเผือดด้วยความตกใจ ไม่กล้าพูดอะไร
ฉินเทียนเข็นซูซูแล้วเดินเข้ามา เหลือบมองไปยังอู๋เฟยที่อยู่ตรงพื้นแวบหนึ่ง ราวกับมองสุนัขตัวหนึ่ง
ยิ้มเยาะแล้วพูดว่า “คุณชายเฟย บัญชีของเรา ค่อยคิดกันทีหลังนะ ”
“ตอนนี้ผมบอกคุณได้เลย ภรรยาของผมจะหายเป็นปกติในเร็ววัน เรื่องนี้ คุณไม่ต้องมาเป็นกังวลอีก”
ซูเป่ยซานที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด พูดอย่างหัวเสียว่า“ ฉินเทียน นี่แกยังกล้ามาถึงที่นี่อีกเหรอ !”
“ยังไม่รีบไสหัวไปอีก !”
อู๋เฟยก็พูดอย่างฉุนเฉียวเช่นกัน“เขาไม่มีบัตรเชิญเลยด้วยซ้ำ พวกแกยังไม่รีบกระทืบมันไปอีก !”
หยางยู่หลันเห็นรปภ.ที่ราวกับสัตว์ป่า ก็ตกใจกลัวจนไม่กล้าจะพูดอะไร
ฉินเทียนยิ้มแล้วพูดกับรปภ.ทุกคน“พี่ๆทุกคน ลำบากแล้ว”
“ผมเป็นเพื่อนของเสี่ยวหม่า รบกวน ช่วยหลีกทางหน่อยนะครับ ”
รปภ.ต่างก็รู้ตัวในทันที รีบพยักหน้าให้และโค้งคำนับ“ เพื่อนของพี่หม่าเองเหรอครับ !”
“เพื่อนของพี่หม่าก็คือเพื่อนของเราเหมือนกัน คุณฉิน คุณไม่ต้องตรวจเช็กอะไร เชิญด้านในได้เลยครับ”
“ขอบคุณมาก”ฉินเทียนพยักหน้าให้สัญญาณ เข็นซูซูแล้วเดินเข้าไปด้านใน
“นี่……แบบนี้ก็ได้เหรอ?”ซูเป่ยซาน ซูหนานกับอู๋เฟย ต่างก็อ้าปากค้าง
พวกเขาคิดไม่ออกจริงๆ ว่าเสี่ยวหม่าคนไหน ที่จะมีอำนาจยิ่งใหญ่ขนาดนี้ !
เพียงแค่เอ่ยชื่อ ขั้นตอนการตรวจเช็กต่างๆก็ถูกละเว้นได้เลยงั้นเหรอ ?
เมื่อได้สติ ซูเป่ยซานก็ปรี่เข้ามา พูดว่า“ฉันเป็นปู่ของฉินเทียน ให้ฉันเข้าไปด้วยเถอะนะ!”
“ตาเฒ่า จะเข้าไปมั่วซั่วได้ยังไง ? มีบัตรเชิญไหม!”
หากไม่ระวัง ก็จะทำให้เกิดสถานการณ์ที่วุ่นวายปั่นป่วนเอาได้
กับเรื่องนี้ เขาเองก็รู้สึกปวดหัวเล็กน้อยด้วยเช่นกัน
“ฉินเทียน เรานั่งที่ไหนกันเหรอ?”หยางยู่หลันถามเสียงต่ำอย่างประหม่า
เพราะเธอเห็น ว่าทุกที่นั่งบนนั้น ล้วนมีชื่อกำกับอยู่
ฉินเทียนเห็นที่นั่งตรงกลางสองที่ มีชื่อของ“อู๋เฟย”กับ “ซูหนาน”ติดอยู่ เขาหัวเราะแล้วพูดว่า“พอดีเลย เราไปนั่งที่นั่นกันครับ”
ภายในใจของหยางยู่หลันยังคงไม่สงบสุข ทันทีที่นั่งลง ด้านข้างก็มีเสียงเสียงหนึ่งดังขึ้น“ประธานหยาง?คุณมาได้ยังไงครับ?”
เธอหันหน้าไป ก็เห็นคนที่มีศีรษะล้านแวววาว
“ผู้อำนวยการลู่ สวัสดีค่ะ ”
จำได้ว่าเป็นรองผู้อำนวยการคนหนึ่งของโรงพยาบาลที่สอง ชื่อลู่ซินเจี้ยน แววตาของหยางยู่หลัน ดูไม่ค่อยเป็นปกติขึ้นมาเล็กน้อย
ก่อนหน้านั้นที่เธอทำงานที่บริษัทยา หลายครั้งที่อยากจะร่วมงานกับโรงพยาบาลที่สอง และได้พูดคุยกับลู่ซินเจี้ยนคนนี้อยู่หลายครั้ง
ในตอนแรก ลู่ซินเจี้ยนจริงจังอย่างมากที่จะให้หยางยู่หลันเอาเอกสารต่างๆมาประกอบ หยางยู่หลันคิดว่าเป็นขั้นตอนปกติ ยังแอบชื่นชมว่าผู้ชายคนนี้เอาการเอางานจริงจัง
จนเมื่อครั้งหนึ่งหลังจากที่ดื่มจนเมา ผู้ชายคนนี้ก็เผยธาตุแท้ออกมา
เพราะเห็นว่าหยางยู่หลันเป็นหม้ายมานานหลายปี มีเสน่ห์ชวนหลงใหล เขาก็จึงคิดไม่ซื่อ
พูดตรงๆ ขอแค่หยางยู่หลันมาเป็นคนรักของเขา ร่วมหลับนอนด้วยอาทิตย์ละสามครั้ง ก็จะเซ็นสัญญาด้วยทันที
หยางยู่หลันโกรธมากจนข่วนไปที่ใบหน้าของลู่ซินเจี้ยน แล้วหนีออกจากโรงแรมไป ตั้งแต่นั้นมาก็ไม่เคยย่างกรายไปที่โรงพยาบาลที่สองอีกเลย
ผ่านไปหลายปีแล้ว ไม่คิดว่าจะได้มาเจอกันที่นี่
อีกทั้งยังดูเหมือนว่าลู่ซินเจี้ยนจะเจริญก้าวหน้าไปไม่น้อย จากสัญลักษณ์แผ่นป้ายที่อยู่ด้านข้าง ผู้ชายคนนี้จากรองผู้อำนวยการ ได้เลื่อนเป็นผู้อำนวยการไปแล้ว
ลู่ซินเจี้ยนมองดูหยางยู่หลัน ความปรารถนาในดวงตายากที่จะกักเก็บ อะไรที่ไม่ได้มา ย่อมเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
เขามองไปยังเก้าอี้ที่มีชื่อของ“ซูหนาน” หัวเราะเสียงเบาแล้วพูดว่า“เดินสุ่มสี่สุ่มห้าเข้ามาได้ยังไง?”
“ฉันเข้าใจแล้ว อยากจะหาโอกาสให้ลูกสาวได้รับการรักษาใช่ไหม?”
“อย่ากังวลไป ด้วยความสัมพันธ์ที่มีมาเนิ่นนานของเรา ผมไม่เปิดเผยคุณหรอก”ขณะที่พูด ก็ยื่นมือมาแล้วสัมผัสไปที่มือของหยางยู่หลัน
เขาคิดว่า หยางยู่หลันทำผิดแล้วตัวเองมารู้เข้า ในตอนนี้ คงไม่กล้าที่จะขัดขืนแน่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด
บท 656 มีไหน...
จะหาอ่านต่อได้ยังไงครับ...
ตอน 656 ไปไหน...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทต่อแล้วหรอค่ะ...
เลิกเขียนแล้วใช่ไหมครับ...
นิยายเขียนต่อมั้ยครับ...