เมื่อเห็นอุทยานมังกรอันกว้างใหญ่ แม้ว่าหม่าหงเทาจะเตรียมใจมาบ้างแล้ว แต่ก็โดนฉากที่อยู่ตรงหน้าทำเอาตะลึงไปอยู่เหมือนกัน
ก่อนหน้าที่เขาติดตามฉีชุน แต่ก็ไม่เคยเห็นที่ไหนที่โอ่อ่าขนาดนี้มาก่อน
อุทยานมังกรที่อยู่ตรงหน้านี้ คฤหาสน์ใหญ่โตหลังนั้นยังเทียบไม่ได้เลย
บรรยากาศร่มรื่นอันเขียวขจีของผืนหญ้า ราวกับภาพวาดยังไงยังนั้น
ไม่เพียงเท่านี้ เขามองไปที่ประตู รวมถึงลานด้านในแล้ว ทุกที่ล้วนแต่มีบอดี้การ์ดอยู่ แค่มองก็รู้ว่า ล้วนแต่เป็นผู้ฝีมือแน่นอน
สูดลมหายใจลึกๆเพื่อลดความตื่นเต้น และรีบเดินไปทางด้านใน
“พี่ชาย!”
มีเสียงเรียกดังขึ้น อาเซวี่ยวิ่งออกมาด้วยความดีใจ
เมื่อเห็นน้องสาวของเขาเปลี่ยนไปจนแทบจำไม่ได้ ราวกับองค์หญิงเลยก็ว่าได้ แววตาของหม่าหงเทาก็เริ่มอุ่นๆ ขึ้น และน้ำตาก็ไหลพราก
ต้องยอมรับว่าน้องสาวก็เป็นหญิงสาวคนหนึ่ง สวยแบบธรรมชาติ
ก่อนหน้านี้ที่อยู่ด้วยกัน หล่อนเป็นเด็กบ้านนอกคนหนึ่ง เขารู้สึกว่า เขาดูถูกน้องสาวเขาเกินไปแล้ว
“พี่ชาย แม่บุญธรรมกับพี่ซูซู และก็ยังมีพี่ฉินเทียน ดีกับฉันมากเลย”
“ต่อไปนี้พี่ก็ไม่ต้องเป็นห่วงฉันแล้วนะ”
“ฉันรู้ หลายปีมานี้ ฉันเป็นตัวถ่วงของพี่ ต่อไปนี้ พี่สามารถไปทำอะไรที่พี่อยากทำได้อย่างสบายใจแล้วนะ”
ไม่เคยได้ยินน้องสาวพูดความในใจเช่นนี้มาก่อน
ตอนนี้หม่าหงเทารู้เพียงแค่ว่า เลือดในอกมันระอุขึ้น เขารู้สึกเหมือนมีชีวิตใหม่อีกครั้ง
ตรงหน้าคือ พายุไซโคลน และทะเลดาว!
“น้องสาว ต่อไปนี้ต้องเชื่อฟังแม่บุญธรรมนะ”
“ต้องกตัญญูต่อแม่บุญธรรม และก็ต้องเชื่อฟังพี่ซูซูเขาด้วย รู้ไหม?” เขากำชับทั้งน้ำตา
“อืม ฉันรู้ค่ะ” หม่าเซวี่ยพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง
มาถึงคฤหาสน์ ได้เจอกับหยางยู่หลันซึ่งเป็นผู้หญิงที่เพียบพร้อมด้วยศีลธรรมอันดี
และหม่าหงเทาเองก็ดูออกว่า หยางยู่หลันรักน้องสาวของเขาจริงๆ
เขารีบคุกเข่าคำนับทันที และพูดด้วยน้ำตาว่า “ต่อไปนี้น้องสาวของผม ขอมอบให้กับนายหญิงครับ!”
“รีบลุกขึ้น!” หยางยู่หลันรีบประคองหม่าหงเทาขึ้นลุกขึ้น
กล่าวว่า “คุณเป็นชายวัยกลางคน ดูแลอาเซวี่ยมาหลายปีแบบนี้ มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะ”
“คุณสบายใจได้ จากนี้มอบเขาให้ฉันแล้ว คุณเองก็สามารถไปทำอะไรที่คุณอยากทำได้แล้วหล่ะ”
“ฉันจะดูแลเขาให้เหมือนลูกสาวแท้ๆ ของฉันคนหนึ่งเลย”
ซูซูที่อยู่ข้างๆ แลบลิ้นและพูดว่า “แม่คะ ในสายตาของแม่ยังมีลูกสาวแท้ๆ คนนี้อยู่หรือคะ?”
“ฉันแทบจะโดนกวาดให้ออกไปจากประตูอยู่แล้ว!”
หยางยู่หลันหัวเราะและพูดว่า “เธอยังกล้าโกรธฉันอีกหรือ!”
“อีกสองวันคฤหาสน์ข้างๆ ก็จะตกแต่งเสร็จแล้ว ฉันจะพาน้องสาวแกย้ายไปอยู่ที่นั่น”
“ต่อไปนี้พวกเราแม่ลูกต่างพึ่งพาอาศัยกันเพื่อความอยู่รอดก็พอ”
พูดคุยต่ออีกไม่นาน ก็ได้เวลาแล้ว เหลยเป้าส่งข้อความมาว่า จองโรงแรมเรียบร้อยแล้ว
ฉินเทียนหัวเราะและพูดว่า “ไปกันเถอะ พวกเราไปโรงแรมกัน”
“คนอื่นๆ ถึงกันหมดแล้ว”
ทุกคนต่างขึ้นรถกัน เดินทางมาถึงโรงแรม
เหลยเป้าเหมาห้องโถงหนึ่งห้อง จัดเตรียมไว้สิบโต๊ะ
ฉินเทียนเห็นว่า คนของคำสาปสวรรค์ที่นำทีมโดยฉานเจี้ยน ล้วนแต่เป็นคนใหม่หมดจนจำแทบไม่ได้
ตอนนี้ หม่าหงเทาเป็นสมาชิกของพวกเขา เรื่องในวันนี้ก็นับว่าเป็นเรื่องมงคลของหม่าหงเทาด้วยเช่นกัน
เหมือนเป็นคนในครอบครัว พวกเขาเองก็รู้สึกมีความสุขด้วยเช่นกัน
ฉินเทียนหาจังหวะเรียกเหลยเป้า เหลิ่งเฟิงและฉานเจี้ยนเข้ามาเพื่อทำการแนะนำให้รู้จักกัน
เมื่อรู้ว่าเหลยเป้าเป็นคนของเนี่ยชิงหลง เหลิ่งเฟิ่งก็ยิ้มอย่างเย็นชาและพูดว่า “ราชาหมาของพวกเรากับราชามังกรเนี่ย เป็นคู่อริเก่ากัน”
“พี่เหลย ไว้ว่างๆ พวกเรามาแลกเปลี่ยนความรู้กันดีไหม?”
เหลยเป้ายิ้มและตอบว่า “น้องเหลิ่งเฟิงว่างเมื่อไร ผมได้ทุกเมื่อ”
“แต่ราชามังกรของพวกเราเคยบอกว่า ถ้าเจอคนของราชาหมา ให้หลีกทางให้ไกล”
“เขาไม่อยากให้ราชาหมาต้องเสียหน้า”
ฉินเทียนอดขำไม่ได้ ปกติเหลยเป้าเป็นคนซื่อๆ ตรงๆ คิดไม่ถึงว่าจะพูดจากวนได้ขนาดนี้
เหลิ่งเฟิงกลอกตา และหยุดชะงักทันที
“ใครกันแน่ที่จะขายหน้า ลองดูก็รู้เอง!”
เหลยเป้ายิ้มและตอบว่า “ลองก็ลองสิ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด
บท 656 มีไหน...
จะหาอ่านต่อได้ยังไงครับ...
ตอน 656 ไปไหน...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทต่อแล้วหรอค่ะ...
เลิกเขียนแล้วใช่ไหมครับ...
นิยายเขียนต่อมั้ยครับ...