หลังสามวัน ฉินเทียนในชุดลำลอง ปรากฏตัวขึ้นที่หน้าประตูของซิงถูอีกครั้ง
สามวันมานี้ เขาพักอาศัยอยู่แต่ในคฤหาสน์ที่หวางเฉียงยกให้ ฝึกฝนบำเพ็ญตน
แม้จะไม่ได้ออกไปไหน แต่ก็ยังโทรติดต่อ คอยจัดการเรื่องราวต่างๆ
หวางเฉียงก็รู้จักวางแผน ในคืนนั้นเขาได้จองตั๋วเครื่องบินเสร็จสรรพ เช้าวันรุ่งขึ้นก็พาภรรยาและลูกเดินทางไปเกาะมลายู
แต่ว่า เพื่อไม่ให้บริษัทหวงฉาวต้องเกิดความสงสัย เขาแกล้งทำทีเป็นโทรหาโม่ชง แล้วเร่งเร้าให้รีบเซ็นสัญญาโดยเร็ว
อีกทั้ง ยังได้ติดต่อไปหาหลี่หยานเลขาของเขา สั่งกำชับให้หลี่หยานคอยดูแลรับผิดชอบอย่างเต็มที่ และจัดงานแถลงข่าวให้ใหญ่โต
เพราะมีข่าวใหญ่ที่ต้องประกาศบริษัทซิงถูก็จึงปลาบปลื้มยินดีเป็นที่สุด
สำนักข่าวต่างๆ ก็ได้เข้ามาจับจองพื้นที่ในห้องโถงขนาดใหญ่ตั้งแต่เช้าตรู่ เตรียมจัดตั้งอุปกรณ์ทั้งกล้องขนาดเล็กและใหญ่ไว้รอกันอย่างพร้อมเพรียง
หลี่หยานเลขาใหญ่ของประธานกรรมการบริหาร แต่เมื่อประธานกรรมการบริหารไม่อยู่ เธอก็รู้สึกราวกับตัวเองเป็นเจ้าบ้าน
แต่งตัวสวยเพริศพริ้งแต่เช้า ยุ่งจนหัวหมุนทั้งด้านในและด้านนอก
เมื่อไป๋เสี่ยวเชี่ยนเห็นหวางเฉียง ไม่ได้ผิดคำพูด เชิญสื่อต่างๆมามากมายให้เธอ เธอก็รู้สึกราวกับตัวเองเป็นผู้หญิงหมายเลขหนึ่งกันเลย
เธอสวมใส่ชุดเดรสหรูที่เช่ามา แล้วนั่งในตำแหน่งที่นั่งตรงกลางด้วยใบหน้ายิ้มแฉ่ง
ทุกอย่างพร้อมแล้ว รอแค่หวางเฉียงกับผู้บริหารของบริษัทหวงฉาวปรากฏตัวขึ้นอย่างยิ่งใหญ่เท่านั้น
ฉินเทียนเดินเข้ามา
เมื่อเห็นเขา ทุกคนต่างก็ตกตะลึง
“นายมาทำไม?”ใบหน้าของหลี่หยานเปลี่ยนไปในทันที พูดอย่างเย็นชา
ฉินเทียนเลิกคิ้ว“ก็มาร่วมงานแถลงข่าวสิ ”
“คุณลืมเรื่องที่ผมบอกไปเมื่อสามวันก่อนเหรอ หลังสามวัน ผมจะมาที่นี่ เพื่อบอกพวกคุณ ว่าผมเป็นใคร”
หลี่หยานหัวเราะออกมาอย่างหัวเสีย และกล่าว“งั้นก็บอกพวกเรามาได้แล้ว ว่าตกลงนายเป็นใครกันแน่ ?”
“นายมันก็แค่เด็กเลี้ยงของหยางหรงผู้หญิงหน้าด้านคนนั้นไม่ใช่เหรอ ?”
“บอกนายไปแล้ว ว่าตอนนี้หยางหรงไม่มีอะไรเหลือแล้วทั้งนั้น นายอยากจะเซ็นสัญญากับบริษัทของเรา หากจะผ่านเธอไม่มีประโยชน์ ”
คนอื่นๆของบริษัทซิงถู ต่างก็พากันมองมาที่ฉินเทียนอย่างเย้ยหยัน
ไอ้หมอนี่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยหรือไง ? ต่อให้จะเป็นเด็กใหม่ที่เพิ่งเข้าวงการ ก็ไม่น่าจะตาถั่วขนาดนี้ไหม!
“อีกเดี๋ยว ทุกคนก็ได้รู้”ฉินเทียนเมินเฉยกับสายตาที่เยาะเย้ยของทุกคน ไปนั่งลงที่มุมห้องเพียงลำพัง
หลี่หยานพาลโมโห กัดฟันกร่อนแล้วพูด“คนอะไร ยังกล้ามาทำตัวกร่างที่นี่อีก!”
“ใช้ตาต่ำๆของนายดู ว่าที่นี่ใครกันแน่ที่เป็นเจ้าของ!”
“รปภ. มาลากตัวเขาออกไป!”
เมื่อเห็นรปภ.สองคนเดินเข้ามา ไป๋เสี่ยวเชี่ยนก็รีบพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม“พี่หยาน จะไปถือสาอะไรกับเด็กใหม่ล่ะค่ะ”
“ฉันเดาว่าน้องชายคนนี้อยากเข้าวงการจนสติฟั่นเฟือนไปแล้วแน่เลย”
“เขาคงรอ ให้ได้เจอกับประธานหวางและผู้บริหารของหวงฉาวแล้วจะประจบเอาใจต่อหน้าล่ะมั้ง”
“ประธานหวางและเถ้าแก่ของบริษัทหวงฉาวหากอารมณ์ดีขึ้นมา ไม่แน่อาจจะเซ็นสัญญากับเขาเลยก็ได้”
“พี่ไม่เห็นเหรอว่าวันนี้เขาไม่ได้มากับหยางหรง ? แสดงให้เห็นว่าเขาก็ยังเข้าใจในสถานการณ์อยู่ คงเตะหยางหรงออกไปแล้ว”
“แม้วิธีการนั้นจะดูไม่ค่อยเข้าท่า แต่อย่างน้อยก็ถือว่ายังมีสตินึกรู้นะ”
“พี่หยาน เราต้องใจกว้างกันหน่อย ให้โอกาสเด็กใหม่เขาด้วย”
ผู้คนบริเวณโดยรอบต่างก็พากันชื่นชม
“ในวงการตอนนี้ รุ่นพี่ที่คอยส่งเสริมเด็กใหม่อย่างพี่ไป๋ ไม่ได้มีให้เห็นมากแล้ว ”
“พี่ไป๋ พี่ช่างเป็นคนที่เก่งทั้งทักษะการแสดงและมีศีลธรรมจริงๆ!”
“พี่ไป๋ ต่อไปต้องส่งเสริมพวกเราด้วยนะ”
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคำเยินยอเหล่านี้ ไป๋เสี่ยวเชี่ยนตอบรับด้วยรอยยิ้ม ราวกับเธอเป็นรุ่นพี่ที่มากประสบการณ์ในวงการไปแล้ว
การแสดงในครั้งนี้ ทำให้เธอประสบความสำเร็จต่อหน้าสื่อ ได้รับความสนใจอยู่ไม่น้อย
ในเมื่อไป๋เสี่ยวเชี่ยนพูดมาแบบนี้แล้วหลี่หยานก็ไม่ได้คัดค้านอะไร
ทว่า เธอพูดเตือนฉินเทียน“เด็กใหม่ก็ต้องมีจิตสำนึกของผู้มาใหม่!”
“ฉันว่ารูปลักษณ์ของนายก็ไม่ได้ดูแย่ อยากจะอยู่ที่นี่ก็ได้ถ้าต้องการ”
“แต่ต่อไป ต้องเชื่อฟังคำฉัน ตัดขาดกับคนอย่างหยางหรงนั้นซะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด
บท 656 มีไหน...
จะหาอ่านต่อได้ยังไงครับ...
ตอน 656 ไปไหน...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทต่อแล้วหรอค่ะ...
เลิกเขียนแล้วใช่ไหมครับ...
นิยายเขียนต่อมั้ยครับ...