สีหน้าหม่าจั๋วชุนส่อกระอักกระอ่วนเอ่ยว่า: “ก็มีเหตุผล”
“ยังไงก็ตาม งานรวมญาติแบบนี้เขาไม่ควรมาสาย”
“อีกอย่าง ต่อให้งานยุ่งยังไงก็ควรแจ้งให้ฉันรู้ล่วงหน้า”
คนในตระกูลสังเกตสีหน้าท่าทาง นอกจากหม่าจั๋วโหวที่เงียบขรึมไม่พูดไม่จา คนอื่นก็รีบมีปฏิสัมพันธ์กับหม่าจั๋วชุนและหยางเสี่ยวหุ้ย
ในตระกูลหม่า หม่าจั๋วชุนกับหยางเสี่ยวหุ้ยต่างหากที่เป็นศรลม (ผู้ชี้ทิศทาง)
หม่าจินหลงแสยะยิ้มเอ่ยว่า: “พ่อ ผมว่าพี่ใหญ่ไม่กล้ามาแล้วล่ะ?”
“ภารกิจที่พ่อมอบหมายให้เขา เขาทำไม่สำเร็จ สุดท้ายผมกลับทำสำเร็จ”
“เขาน่าจะจงใจเนรเทศตัวเอง จึงไม่มีหน้ามาร่วมงานเลี้ยง”
ภารกิจ?
หม่าจินหลงทำภารกิจอะไรสำเร็จเหรอ? ทำท่ากระหยิ่มยิ้มย่องอย่างนั้นท่าทางคงไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ความประหลาดใจของเครือญาติถูกดึงดูดอีกครั้ง
ตอนนี้ พวกเขาถึงรู้สึกว่า งานเลี้ยงคนในตระกูลวันนี้ น่าจะไม่ธรรมดาซะแล้ว
หยางเสี่ยวหุ้ยยิ้มพลางรีบเอ่ยว่า: “จั๋วชุน ตอนนี้สัญญาก็เซ็นเรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องปิดเป็นความลับแล้วก็ได้มั้ง?”
“ลูกรีบบอกมาเร็ว”
หม่าจั๋วชุนกำลังจะเอ่ยปาก ในเวลานี้เองก็มีคนผู้หนึ่งเดินรีบร้อนเข้ามาจากด้านนอก
เขาเหงื่อท่วมตัว เสื้อผ้าก็ไม่เรียบร้อย
พอเข้าประตูมา รีบเอ่ยอย่างรู้สึกผิดว่า: “พ่อ ป้าหยาง ท่านลุงท่านป้าทุกคน ขอโทษด้วยที่ผมมาช้า”
หม่าจินหยู่นั่นเอง
หลายปีมานี้ แม้เขาจะเคารพแม่เลี้ยงอย่างหยางเสี่ยวหุ้ย แต่ว่าก็เรียก “ป้าหยาง” มาตลอด ส่วนคำว่า “แม่” เรียกยังไงก็เรียกไม่ออก
และเรื่องนี้ หม่าจั๋วชุนเองก็แอบเตือนหม่าจินหยู่อยู่ไม่น้อย เพราะเบื้องหลังของหยางเสี่ยวหุ้ยก็ไม่ธรรมดา
หม่าจั๋วชุนเตือนบุตรชายคนโตให้เปลี่ยนคำเรียกว่าแม่ จากมุมมองส่วนตัวก็เพื่อเป็นการดีต่อบุตรชายคนโต
แต่หม่าจินหยู่ดูแล้วเป็นคนภักดีและจิตใจดี ดื้อดึงบ้างเป็นบางคราว ไม่ว่ายังไงก็ไม่ยืมเปลี่ยนคำ
จำใจทนไม่ไหวก็ค่อย ๆ ตีตัวออกห่างจากหม่าจวินยู่ หลายปีมานี้พ่อลูกก็ไม่ค่อยคุยความในใจกัน
ทว่า มารดาแท้ ๆ ของหม่าจินหยู่ หรือก็คือภรรยาเก่าของหม่าจั๋วชุน เรียกได้ว่าตอนนั้นก็ตายแทนหม่าจั๋วชุน
รถคว่ำตอนนั้น ถ้าไม่เพราะภรรยาเอาตัวมาขวางไว้ในช่วงคับขัน คนที่ตายก็ต้องเป็นเขา
ดังนั้นหม่าจั๋วชุนก็มักจะรู้สึกผิดต่อบุตรชายคนโตที่เสียมารดาไปตั้งแต่เด็ก
บวกกับความสามารถและคุณลักษณะของหม่าจินหยู่ ที่โน้มน้าวผู้คนได้ ดังนั้นหม่าจั๋วชุนจึงจัดตำแหน่งที่สำคัญในบริษัทให้เขา
เรียกว่าถูกปลูกฝังให้เป็นผู้สืบทอดในระดับหนึ่งแล้ว
หากไม่มีเรื่องเหนือความคาดหมาย เขาไม่ถือสาที่ต่อไปจะมอบกิจการตระกูลหม่าให้อยู่ในมือของบุตรชายผู้นี้
แน่นอนย่อมรวมถึงผลประโยชน์ของหยางเสี่ยวหุ้ยแม่ลูก ดังนั้น ที่หยางเสี่ยวหุ้ยกับหม่าจินหลงปฏิบัติต่อหม่าจินหยู่ไม่ต้องบอกก็เป็นที่รู้กัน
เวลานี้ ทุกคนต่างดูหรูหราในงานรวมเครือญาติ เจ้าลูกคนโตนอกจากจะมาสายแล้วยังมอมแมมไปทั้งตัวด้วย
ดูแล้วไม่มีระดับถึงขั้นไร้ราคา
ดังนั้น สีหน้าของหม่าจั๋วชุนจึงดูไม่จืด
“นายน้อยใหญ่ สินค้าล็อตนั้นส่งออกไปหมดแล้วยัง?”
“ลูกค้าต่างชาติกำชับอยู่ตลอดว่าห้ามผิดพลาด” หม่าจั๋วโหวถามด้วยความเอาใจใส่ ที่เขาพูดอย่างนี้ก็เพื่อกู้สถานการณ์ให้หม่าจินหยู่
“วางใจเถอะลุงโหว ผมจับตาดูตอนขนขึ้นรถอยู่ ไม่มีปัญหาแน่นอน”
“ลุงโหว ลูกค้าต่างชาติบอกว่า ถ้าครั้งนี้ทำให้พวกเขาพอใจได้ ต่อไปก็จะมีออเดอร์เยอะกว่านี้ให้เรา”
หม่าจั๋วโหวหัวเราะเอ่ยว่า: “ลูกค้ารายนี้มีความสำคัญต่อการเปิดตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของพวกเรามาก คุณชายใหญ่สร้างผลงานให้วงศ์ตระกูลอีกแล้ว!”
หม่าจินหยู่รีบเอ่ยว่า: “ไม่พ้นความร่วมแรงร่วมใจของทุกคน ผมก็แค่ทำในสิ่งที่ผมควรทำ”
เครือญาติที่เหลือคนอื่นก็เอ่ยคำชมบ้าง
ถ้าต่อไปมีคนอย่างหม่าจินหยู่มาสืบทอด สำหรับพวกเขาแล้วถือว่าเป็นข้อดี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด
บท 656 มีไหน...
จะหาอ่านต่อได้ยังไงครับ...
ตอน 656 ไปไหน...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทต่อแล้วหรอค่ะ...
เลิกเขียนแล้วใช่ไหมครับ...
นิยายเขียนต่อมั้ยครับ...