“จูจู?”
จิ้งชิงนั้นยังค่อนข้างเมา อีกทั้งหลายวันมานี้ไม่ได้นอนเต็มที่ อีกทั้งยังดื่มเหล้าไปอีกเยอะ เลยทำให้ความคิดของเขานั้นปลิวเก่งว่อนไปทั่ว
เขานั้นหรี่ตามองไป ก่อนที่สีหน้าจะเปลี่ยน
“จูจู เจ้ามาทำอะไรที่นี่กัน?”
หม่าหงเทาเขานั้นสร่างเมา ก่อนที่สีหน้าจะเคร่งขรึม แล้วเอ่ยเสียงต่ำกับฉินเทียน “พี่เทียน ทำยังไงดี?”
“มาเพื่อก่อเรื่องวุ่นวายใช่ไหมเนี่ย?”
ฉินเทียนหัวเราะก่อนที่จะเอ่ย “ไม่ต้องสนใจเธอหรอก ดื่มต่อไปเถอะ”
เสียงหึที่เย็นขา ก่อนที่ จูจูจะเดินเข้ามา
สายลมยามค่ำคืนที่ปลิวมาโดนชุดของเธอ ทำให้กลิ่นตัวของเธอนั้นปลิวไหลไปตามลงไปยังเหล่าคนเมา และเธอนั้นไม่ได้ใส่ชุดย้อนยุคมา แต่ว่าเป็นเสื้อผ้าสีแดงที่รัดรูป
ตอนนี้ได้เหมือนดอกกุหลาบที่สวยงามแพรวพราวในยามค่ำคืน
เมื่อมองไป เธอนั้นเย็นชา แล้วที่เอวนั้นมีสายรัด ด้านซ้ายนั้นมีดาบโค้งส่วนเอว ส่วนทางด้านขวานั้นได้ซ่อนอาวุธที่มีสัญลักษณ์ของ มังกรซ่อนรูป
จิ้งชิงนั้นกลืนน้ำลาย ก่อนที่จะรีบเอ่ยอย่างตื่นเต้น “ที่นี่คือบ้านของข้า พวกเราดื่มอยู่ที่นี่ คงไม่ผิดกฎหมายหรอกนะ?”
จูจูทำเสียงหึ ก่อนที่จะเอ่ยอย่างเยือกเย็น“นี่เป็นเรื่องสำคัญ ฉินเทียนอยู่ก่อน ส่วนคนอื่นๆ รีบออกไปจากภายใต้สายตาของข้านะ!”
มาหาฉินเทียนหรอ!
หม่าหงเทาทั้งสามคนนั้นมองหน้าก่อน ก่อนที่จะเผยสีหน้าที่ยากที่จะอธิบาย
ฉินเทียนยิ้ม ในเมื่อมาแล้วหนิ
เขานั้นดื่มเหล้า ก่อนที่จะเอ่ยยิ้ม “ในเมื่อคุณจูจูเอ่ยออกมาแล้ว พวกเจ้าก็กลับไปดื่มเหล้ากันก่อนเถอะ”
“ให้ข้าและคุณจูจูดื่มกันสักสองแก้วเถอะ”
ทั้งสามคนลังเล ก่อนที่จะไม่ได้เอ่ยอะไร “ทำไมหรอ หรือว่าพวกเจ้ากลัวว่าคุณจูจูจะยิงปืนใส่ข้างั้นหรอ?”
เมื่อได้ยินดังนี้ แน่นอนแล้วว่าจูจูมาคนเดียว ไม่พาคนอื่นมาด้วย พวกเขาจึงพยักหน้า ก่อนที่จะค่อยๆจากไป
แต่ว่า ไม่ได้เดินไปไหนกลับ กลับไปยืนอยู่ด้านหลังของประตูพระจันทร์เสี้ยว แล้วคอยแอบติดตามอย่างตื่นเต้นและตึงเครียด
จูจูได้นั่งลงต่อหน้าของฉินเทียน ก่อนที่จะเอาปืนคาบศิลาที่วางไว้ที่เอวนั้นวางลงบนโต๊ะ ไม่รู้ว่าจะมีอะไรอีกมั้ง ปลายปืนกระบอกสีดำ ที่วางหันไปทางฉินเทียน
“เจ้านั้นติดหนี้บุญคุณ พวกเรามาปรึกษากันเถอะ ว่าจะใช้คืนอย่างไร”
เธอนั้นมองไปที่ฉินเทียน ด้วยนัยน์ตาที่มีรอยยิ้ม
เธอยิ้มกริ่มเอยออกมา พวกเรามาปรึกษาหัน ว่าจะเอาทรัพย์สมบัติทั้งหมดของคุณเอามาให้ฉัน
นี่มันเรียกว่าปรึกษางั้นหรอ ?นี่เห็นได้ชัดเลยว่าเหมือนจะเอาฉีกเอาเลือดเอาเนื้อ!
สีหน้าของเขาไม่เปลี่ยน ก่อนจะเอ่ยเรียบๆ “ เป็นคนติดหนี้บุญคุณอะไรกัน ทำไมข้าจำไม่ได้”
“งั้นขอให้ท่านคุณจูจูช่วยอธิบายชี้แจงหน่อย”
อะไร?
มาทำเป็นไม่รู้จักบุญคุณ อีกทั้งยังมาแกล้งทำมึนใส่ข้าอีก ?
จูจูเผยถึงสีหน้าโกรธ ก่อนจะเอ่ยอย่างน้ำเสียงนิ่ง “ที่กุบเขาเซวียนหยวน หากไม่ใช่เพราะข้าโผล่มา แล้วทำให้พวกโหวเย๋แห่งตงไห่ตกใจจนหนีไป เจ้าคิดว่า เจ้านั้นยังจะมานั่งสบายใจดื่มเหล้าอยู่ที่นี่ได้ไหม ?”
“ฉินเทียน ถึงแม้เจ้านั้นจะมานั่งอยู่ในตำแหน่งผู้นำใหญ่ของเจ็ดเมืองทางใต้ แต่ว่านี้รากฐานนี้มันไม่ได้มั่นคงเลย เพราะว่าในตอนนั้นที่ตงไห่ได้เกิดสงคราม หมายถึงอะไร ไม่ต้องให้ข้าเอ่ยหรอกมั้ง?”
ฉินเทียนเอ่ยเรียบๆ“ข้าทราบ”
“หมายถึง เมืองเจ็ดเมืองทางใต้นั้นอยู่ตัวได้แล้ว ข้านั้นได้ฆ่าโหวเย๋แห่งตงไห่ไป ถึงแม้จะทำให้เมืองตงไห่ไม่พอใจ แล้วเลยทำให้เกิดปัญหาขึ้นมาบ้าง”
“แต่นั่นก็ทำให้คนที่คิดร้ายกับเจ็ดเมืองทางใต้นั่นสั่นสะเทือนไปไม่น้อยเลยนะ”
“ลองนับดูแล้ว นับว่าไม่เสียหายนะ”
“เจ้า——”จูจูเอ่ยโกรธ“ หากเจ้าเอ่ยเช่นนี้ งั้นข้ายุ่งเรื่องมากไปสินะ?”
“ข้านั้นมาทำลายแผนการของเจ้า อีกทั้งยังจะต้องไปเอ่ยขอโทษงี้หรอ?”
ฉินเทียนหัวเราะ“คุณจูจูตัวตนของท่านช่างสูงส่ง คำขอโทษคงไม่จำเป็นหรอก”
“หากหลังจากนี้ท่านอยากที่จะยื่นมือเข้ามาทำเรื่องพวกนี้ อย่างน้อยก็ทักทายกันก่อนสิ ไม่จำเป็นต้องตัดสินใจเอง”
“มิฉะนั้น เกรงว่าจะเกิดเรื่องเข้าใจผิด ไม่งั้นจะพูดยากนะ”
“ไอ้เจ้าบ้า!”
จูจูเดิมทีที่เธอนั้นมาด้วยเย่อหยิ่ง เธอคิดว่า ตนเองนั้นได้จับฉินเทียนเอาไว้อยู่แล้ว บวกกับตัวตนของเธอ ฉินเทียนน่าจะยอมเชื่อฟังคำของเธอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: บัญชามังกรเดือด
บท 656 มีไหน...
จะหาอ่านต่อได้ยังไงครับ...
ตอน 656 ไปไหน...
เรื่องนี้ไม่อัพเดทต่อแล้วหรอค่ะ...
เลิกเขียนแล้วใช่ไหมครับ...
นิยายเขียนต่อมั้ยครับ...